ระบบรีสอร์ทเจ้าสัว - ตอนที่ 2 โลกนั้นกว้างใหญ่และฉันต้องการลาออก!
ตอนที่ 2 โลกนั้นกว้างใหญ่และฉันต้องการลาออก!
“โปรดเลือกประเภทของโรงแรมที่คุณต้องการบริหาร” เสียงจากระบบยังคงดังขึ้น
ในเวลาเดียวกัน หน้าอินเตอร์เฟซก็ปรากฏขึ้นบนโทรศัพท์และแสดงรายการโรงแรมแต่ละประเภทให้ เช่น โรงแรมสัตว์เลี้ยง โรงแรมธีมสีชมภู ,โรงแรมสไตล์จีน ฯลฯ
“ฉันขอเวลาคิดสักแปปก่อนตัดสินใจได้ไหมเนี่ย” หลี่หยางคิดในใจ
ภายในเวลาไม่กี่นาทีข้อมูลที่เขาได้รับก็มีจำนวนมากจนเขาไม่สามารถคิดตามได้ทัน
“มันเป็นอะไรที่ยากจริงๆที่จะตัดสินใจในเวลานี้” เขาจำเป็นต้องแยกแยะเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้และค้นหาว่าระบบนี้มันน่ากลัวแค่ไหนกันแน่
“ รับทราบ โฮสต์สามารถเข้าสู่แอพผู้ประกอบการรีสอร์ทได้ในภายหลัง โดยการกดที่ “หมวดหมู่งาน” และเลือกประเภทของโรงแรมได้ด้วยตัวคุณเอง ในเรื่องของการใช้แอพผู้จัดการรีสอร์ทนั้น โปรดศึกษาต่อด้วยตัวคุณเอง ” หลังจากนั้นเสียงประกาศก็สิ้นสุดลง
หลี่หยางนั่งเหม่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์อยู่เป็นเวลานาน มองดูเงินในบัญชีของตัวเองจนมั่นใจว่าสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริง
“ใจเย็นน่า เงินเล็กๆน้อยๆแค่นี้ไม่เห็นจะมีอะไร ถ้าฉันได้เป็นเจ้าของรีสอร์ทในอนาคต เงินแสนก็จะเป็นแค่เงินค่าขนมสำหรับฉันเท่านั้น”
ขณะที่หลี่หยางกำลังสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เขาก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ที่ช้อยที่ 24
ประเภทรีสอร์ทนรการ จิตใจของหลี่หยางเริ่มจะกู่ร้องเข้าหาเกาะที่สวยงาม ทะเลสีฟ้าใส ทรายนุ่มๆ ต้นปาล์มเขียวมรกต และแน่นอน สาวๆในบิกินี่ที่กำลังเล่นน้ำทะเล
ถึงแม้เขาจะไม่เคยไปรีสอร์ทก็ตาม แต่เขาก็มีเพื่อนที่เคยไปอยู่ เพื่อนร่วมห้องตอนมัธยมและมหาลัยบางคนของเขาตอนนี้ได้แต่งงานไปแล้ว คนพวกนี้ส่วนใหญ่มักจะไปฮันนีมูนที่เกาะรีสอร์ท เช่น บาหลี ภูเก็ต และอื่นๆ ส่วนใหญ่พวกเขามักจะถ่ายทอดสดให้เพื่อนๆดู หลี่หยางเองก็ติดตามดูพวกเขาเหมือนกัน ทิวทัศน์ธรรมชาติของรีสอร์ทเหล่านั้นนั้นเป็นอะไรที่ชวนให้น่าอิจฉามาก
“แต่คิดถึงในอนาคตอันใกล้สิ ฉันจะมีรีสอร์ทเป็นของตัวเอง ในขณะที่คนอื่นไปที่รีสอร์ท พวกเขาจะต้องตัดสินใจว่าจะพักที่นั่นนานแค่ไหนและต้องจ่ายเท่าไหร่ แต่ในรีสอร์ทของฉันนั้น มันไม่ได้หมายความว่าฉันจะอยู่นานแค่ไหนก็ได้หรอกเหรอ แค่คิดมันก็สุดยอดแล้ว”
แน่นอนว่าด้วยรูปแบบความคิดของเขาในปัจจุบัน เขายังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการเป็นเจ้าของรีสอร์ทนั้นจะทำให้ชีวิตของเขานั้นแตกต่างจากตอนนี้อย่างไร
ในท้ายที่สุดแล้ว ความยากจนก็ไม่สามารถหยุดยั้งจินตนาการได้!!!
หลี่หยางนั้นแอบตื่นเต้นอยู่พักใหญ่ เขาค่อยๆศึกษาเกี่ยวกับแอพนี้อย่างระมัดระวัง ระบบส่งข้อความยังสามารถใช้ได้อย่างปกติแต่แอพอื่นๆนั้นหายไปจนหมดเหลือแต่แอพผู้ประกอบการรีสอร์ท เขาพยายามจะโหลด วีแชท มาใหม่แต่ก็ปรากฏว่าเนื้อที่หน่วยความจำของเครื่องนั้นได้เต็มไปแล้วเพราะแอพผู้ประกอบการรีสอร์ท
“มันดูเหมือนว่าฉันจะต้องซื้อโทรศัพท์เพิ่มซะแล้วสิ” หลี่หยางกล่าว และเปิดแอพผู้ประกอบการรีสอร์ทขึ้น หน้าอินเตอร์เฟซนั้นเป็นอะไรที่เรียบง่าย แม้จะดูหยาบไปเล็กน้อย แต่มันก็ไม่มีส่วนที่บอกว่าใครเป็นเจ้าของผู้คิดค้นแอพนี้และมันไม่มีแม้แต่คำอธิบายของแอพ
มันมีเพียงแค่ 4 ระบบเท่านั้น คือ ระบบภารกิจ ระบบอเนกประสงค์ ระบบร้านค้า ระบบลอตเตอรี่
หลี่หยางกดเข้าไปในระบบอเนกประสงค์แล้วพบว่ามันมีรายการต่างๆให้เลือก เช่น ตัวช่วยอเนกประสงค์,การออกแบบการก่อสร้างอเนกประสงค์ การตกแต่งในคลิกเดียว การบำรุงรักษา และตัวเลือกอื่นๆ
หลี่หยางกดไปที่ตัวช่วยธุรกิจเป็นอย่างแรกมันแสดงปุ่มเล็กๆเพิ่มขึ้นอีกหลายปุ่มเช่น การประเมินผลวิเคราห์ธุรกิจ การจัดการการเงิน การจัดการทรัพยากรบุคคล การจัดการลูกค้าและการติดตั้งระบบการจัดการร้านค้า
หลี่หยางศึกษาพวกมันทีละอย่างและเริ่มเข้าใจจุดประสงค์ของระบบเหล่านี้อย่างคร่าวๆ ทุกอย่างล้วนเป็นฟังก์ชั่นที่จะคอยช่วยเขาตั้งแต่การเลือกสถานที่ไปจนถึงการการจัดการบริหารในอนาคต เรียกได้ว่ามันทั้งครอบคลุมและมีประโยชน์อย่างมาก
สำหรับฟังก์ชั่นหลักอันอื่นๆก็มีความหมายตามชื่อของพวกมัน มันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่ซับซ้อน เช่น การออกแบบโครงสร้างและตกแต่ง ท้ายที่สุดนั้นมันก็เป็นปัญหาที่แยกไม่ออกจากการเปิดรีสอร์ท
จากนั้นหลี่หยางก็กดไปที่ระบบร้านค้าและลอตเตอรี่แต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ ในส่วนของร้านค้านั้น มันแจ้งว่ายังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในขณะนี้ และส่วนของลอตเตอรี่ก็ได้ให้คำเตือนแก่เขา “ชีวิตนั้นต้องการความตื่นเต้น จงทำงานให้หนักและรับโอกาสจากการเสี่ยงโชค ให้ชีวิตตื่นเต้นขึ้นเล็กน้อย”
“ไม่รู้ว่ามันจะมีอะไรอยู่ในร้านค้ากันนะ” หลี่หยางพูดด้วยความอยากรู้อยากเห็น และด้วยการมีอยู่ของระบบสุดโกงของแอพ ดังนั้นในร้านค้าและลอตเตอรี่จะต้องมีสิ่งดีๆรออยู่อย่างแน่นอน
“ตามที่มันบอก ฉันจะสามารถเสี่ยงโชคได้แน่ๆแต่ทำยังไงกันฉันถึงจะได้รับโอกาสในการเสี่ยงโชคกัน”
หลี่หยางวางโทรศัพท์ลงและปิดหน้าอินเตอร์เฟซต่างๆ และเอกสารนำเสนอที่เขาเปิดไว้ก่อนหน้านี้ก็ทำให้เขากลับเข้าสู่ความเป็นจริง
“ชั่งแม่งง ปล่อยให้ไอ้เอกสารเวรนี่เป็นลมตดไปก็แล้วกัน” หลี่หยางเอนหลังลงบนเก้าอี้ มันเคยเป็นเรื่องยากลำบากในชีวิตของเขา มันทำให้เขาไม่มีทางเลือก แต่ในตอนนี้เขามีแอพที่พระเจ้ามอบให้มาแล้ว
ตอนนี้หลี่หยางมีความคิดที่สุดโต่งพุ่งพล่านอยู่ในตัวของเขา เนื่องจากอาการเก็บกดจากโลกความเป็นจริงมานานเกินไปและตอนนี้เขาก็ต้องการที่จะได้รับการปลดปล่อย
แต่ลึกๆในตัวเขานั้น หลี่หยางยังคงมีความสงบและความมีเหตุมีผลอยู่ หลังจากเขาได้รับพรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขารู้ตัวดีว่าเขาจะต้องทำอะไรและอะไรที่เขาต้องทำ เขายังรู้ดีด้วยว่าเงินที่ระบบให้เขามาคือทุนสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเขาเอง ไม่ใช่เพื่อใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย
การได้รับระบบนี้มานั้นเป็นเหมือนการได้รับโอกาสจากพระเจ้าสำหรับเขา มันเหมือนกับการที่อยู่ๆก็ถูกรางวัล 5,000,000 รางวัลในคราวเดียว
ถ้าคุณไม่คว้าโอกาสนี้แล้วมัวแต่คิดจะเล่นสนุกอย่างเดียว ตอนจบของคุณนั้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่น่าสมเพชและน่าอนาถาในที่สุด แต่ถ้าคุณสามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ คุณก็จะสามารถสร้างอนาคตที่ดีกว่าและสดใสกว่าปัจจุบันได้มากจริงๆ
และอนาคตอันสดใสที่ว่านั้นก็เริ่มต้นด้วยการลาออก
สำหรับหลี่หยางแล้ว มันไม่มีความจำเป็นให้ลังเลที่จะลาออก เขาเก็บข้าวของบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ทันทีที่ตัดสินใจได้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเขามีความคิดและความฝันมากมายแต่เขาก็ไม่มีความกล้า แต่ในวันนี้ ในตอนนี้ ในเวลานี้ ในที่สุดเขาก็สามารถเดินจากไปได้อย่างเปิดเผย
“หลี่หยาง นี่คุณกำลังทำอะไรนะ” เพื่อนร่วมงานหญิงที่เดินผ่านถามหลี่หยางอย่างสงสัย
“โฮ้ น้องหลิง ฉันกำลังจะลาออกนะ” หลี่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ?” หญิงสาวถามอย่างแปลกใจ “เขาจะกล้าลาออกได้อย่างไร ถ้าเขายังสติดีอยู่”
บทสนทนาของทั้งสองคนนั้นเริ่มดึงดูดเพื่อนร่วมงานรอบๆให้เริ่มถามถึงสถานการณ์ บางคนรู้ว่าหลี่หยางพึ่งถูกผู้จัดการต่อว่าไปในตอนเช้า พวกเขาจึงคิดกันว่าหลี่หยางอาจจะกำลังอารมณ์ไม่ดี พวกเขาจึงเตือนหลี่หยางว่าอย่าพึ่งหุนหันพลันแล่นไป
หลี่หยางนั้นมีชื่อเสียงที่ดีมากในที่ทำงาน เขาเป็นคนที่อัธยาศัยดี เอาการเอางาน และชอบช่วยเหลือผู้อื่น โดยปกติแล้วเพื่อนร่วมงานมักจะมาขอให้เขาช่วยแม้เขาจะต้องทำงานล่วงเวลา แต่เขาก็ยังคงจริงจังกับมัน แม้จะมีคนนินทาหลี่หยางลับหลังแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัยของเพื่อนร่วมงาน หลี่หยางก็ไม่ได้อธิบายอะไรมาก เขาบอกเพียงแค่เขาจะลาออกและไปเริ่มต้นธุรกิจใหม่ แม้ว่าหลี่หยางจะพูดความจริง แต่ทุกคนก็คิดว่ามันเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น แม้ว่าใบหน้าของหลี่หยางจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากใจจริงแต่คนอื่นๆก็มองว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นและได้แต่คิดว่าเขาช่างเป็นเด็กที่น่าสงสารอะไรแบบนี้
เดิมที่นั้นหลี่หยางวางแผนที่จะจากไปตรงๆ แต่หลังจากคิดถึงตอนที่พ่อเขาขอร้องเพื่อให้เขาได้งานนี้ เขาก็คิดว่ามันคงไม่เป็นการดีที่จะจากไปเฉยๆโดยไม่บอกลา ดังนั้นเขาจึงเขียนใบลาออกแล้วยื่นมันให้กับกับฝ่ายบุคคล สำหรับเหตุผลที่เขาลาออกนั้น เขาเขียนไปว่า “โลกนั้นกว้างใหญ่ และฉันต้องการลาออก!”
“ฉันได้ยินมาว่าผู้จัดการฝ่ายบุคคลนั้นป่วยเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำระยะสุดท้าย”
หลังจากยื่นหนังสือลาออกเรียบร้อยแล้ว หลี่หยางก็หยิบข้าวของของเขาแล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก
สำหรับการลาออกนั้น จะอนุมัติหรือไม่ หลี่หยางไม่ได้สนใจอีกต่อไป มันคือธุรกิจของพวกเขา เขาพึ่งได้รับเงินเดือนของเดือนที่แล้วมาและพึ่งทำงานไปไม่กี่วัน มันจึงไม่ได้สำคัญอะไรอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกันกับประกันสังคมและกองทุนกู้ยืมบ้าน
“ฮ่าๆ ในอนาคตฉันจะเป็นเจ้าสัวแล้ว มันจะยังมีปัญหาอะไรอีกละ”
“แด่ไอ้บ้าผู้จัดการซัน แด่งานเอกสารบ้าๆ แด่งานบ้าๆที่ให้ฉันทำงานล่วงเวลา”
ตั้งแต่เรียนจบมาหลี่หยางยังไม่เคยทำตัวเก๋าขนาดนี้มาก่อน ครั้งนี้มันทำให้เขามีความสุขมากจริงๆ เมื่อเขาเดินออกจากอาคารของบริษัท เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วหัวเราะจนทั้งร่างกายของเขานั่นสั่น
ฉากนี้ต่างอยู่ในสายตาของเพื่อนร่วมงาน พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเห็นอกเห็นใจ เมื่อเห็นว่าเด็กคนนี้ร้องไห้ตัวสั่น
อ่านก่อนใครได้ที่ : นอนน้อย โนเวล