ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ - ตอนที่ 44 หมู่บ้านน้ำวน
ตอนที่ 44 หมู่บ้านน้ำวน
“ครูฮิรุเซ็น ผมขอดาบเล่มนั้นได้ไหม?”
จิไรยะ มองดาบด้วยดวงตาที่เป็นประกายอยากได้
“ดาบนั้นไม่ใช่ของเรา อาจไม่ปลอดภัย มันไม่สามารถปกป้องชีวิตของนายได้”
อาคาบาเนะ อดไม่ได้ที่จะเตือน
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงดาบธรรมดา แต่เขาสังเกตุเห็นว่ามีรอยประทับส่วนตัวของนินจาถอนตัวอยู่บนดาบ
“ไอ้คนงี่เง่า ดาบอยู่กับครูมีประโยชน์มากกว่าอยู่กับคนอย่างนาย!”
ซึนาเดะ ดุ จิไรยะ
ถ้าไม่ติดว่า จิไรยะ บาดเจ็บอยู่ เธอจะต่อยเขาโดยไม่ลังเล
ฮิรุเซ็น ตอบกลับคำขอของลูกศิษย์ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ตามที่ ซึนาเดะ พูด ดาบนี้ยังคงมีประโยชน์เมื่ออยู่กับเขา
สำหรับประโยชน์ของดาบ อาคาบาเนะ ก็ได้คาดเดาเอาไว้ 2 ข้อ
ข้อแรก ฮิรุเซ็น จะใช้มันปกปิดตัวตนของเขาและทำการปลอมตัว
ข้อ 2 ใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้
“ท่านอาคาบาเนะ…”
จู่ๆ คาซามะ ก็ตะโกนเรียกเขา
อาคาบาเนะ แปลกใจ
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยมีใครเรียกเขาว่า “ท่าน” เขาจึงหันไปมอง…..
“คุณนั่นเอง มีอะไรอย่างงั้นเหรอ?”
อาคาบาเนะ ไม่ค่อยชอบ คาซามะ
ภารกิจที่ยากที่สุด 2 ภารกิจมันเกี่ยวข้องกับ คาซามะ ทั้งหมด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจ แต่ก็ยังรักษามารยาทที่ดี
“เกือบถึงประตูหน้าหมู่บ้านน้ำวนแล้ว เอ่อ… หนังสือการ์ตูนของท่านเราจะทำอย่างไรดี?”
คาซามะ ถามด้วยความเคารพ
ก่อนที่จะซื้อหนังสือการ์ตูน เขาถามชาวโคโนฮะเกี่ยวกับ อาคาบาเนะ จากนั้นเขาก็สอบถามรายละเอียดมากมายจาก ซึนาเดะ และเขามั่นใจว่า อาคาบาเนะ เป็นอัจฉริยะทางธุรกิจจริงๆ
อาคาบาเนะ อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่ ซึนาเดะ ถ้าชายชราถามคำถามนี้แสดงว่า ซึนาเดะ คงบอกบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว
แต่ก็ช่างเถอะ! คิดซะว่าเพื่อแต้ม!
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ อาคาบาเนะ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า “เนื่องจากหมู่บ้านน้ำวนแตกต่างจากหมู่บ้านโคโนฮะ หากเราต้องการให้ผู้คนรู้จัก เราต้องให้ทุกคนได้รู้ว่าเรื่องราวด้านในหนังสือนั้นเป็นอย่างไร”
“กรุณาสอนฉันให้มากกว่านี้ ท่านอาคาบาเนะ”
คาซามะ โค้งคำนับด้วยท่าทีที่ถ่อมตนมาก
“เราจะนำการ์ตูนเรื่องนี้ไปให้พวกระดับสูงในหมู่บ้านน้ำวนอ่านกันฟรีๆ หลังจากนั้นเราจะบอกชาวบ้านว่าพวกระดับสูงของพวกเขาซื้อการ์ตูนมาและพวกเขาก็ชอบมันมาก เท่านี้พวกชาวบ้านก็จะอยากรู้และอยากซื้อไปอ่าน จากนั้นชื่อเสียงของการ์ตูนเรื่องนี้ก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น”
อาคาบาเนะ อธิบายกลยุทธ์ของเขาขณะนั่งบนเกวียนแล้วแกว่งขาไปมา
คาซามะ รู้สึกสับสนใบหน้าของเขาค่อนข้างแปลกใจและกังวล
“มีอะไร? คำอธิบายของผมไม่ชัดเจนเพียงพอเหรอ?”
“อ่อ แล้วอีกอย่างไม่ต้องเรียกผมว่า “ท่าน” ฟังดูแล้วมันจักจี้ เรียกชื่อผมธรรมดาๆก็พอ”
“ทราบแล้ว ท่าน…เอ่อ อาคาบาเนะคุง แล้วถ้าการ์ตูนเรื่องนี้สำคัญขนาดนั้น ผู้ปกครองระดับสูงจะอนุญาตให้เราขายต่อชาวบ้านไหม?”
คาซามะ ค่อนข้างหัวการค้า แต่คำถามนี้งี่เง่ามากจน อาคาบาเนะ ไม่สนใจที่จะตอบคำถามนั้น เขาชี้ไปที่ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3
“…..…”
ตอนนี้ โฮคาเงะของโคโนฮะ ได้เดินทางมาช่วยเหลือหมู่บ้าน น้ำวน แล้ว พวกเขาคงไม่กล้าห้ามการขายการ์ตูนใช่ไหม?
นอกจากนี้ คาซามะ ได้อ่านหนังสือเล่มแรกแล้ว และไม่มีข้อมูลลับใดๆ จากมัน
คาซามะ คิดว่าคงมีเพียงคนเช่น มิโตะ เท่านั้นที่สามารถเข้าใจความหมายของการ์ตูนได้
การสนทนานี้ทำให้อารมณ์ของพวกเขากระจ่างขึ้น
“อาคาบาเนะคุง เมื่อพวกเราไปถึงหมู่บ้านน้ำวน โปรดชี้แนะ…”
“..ไม่มีปัญหา”
คาซามะ จากไปอย่างตื่นเต้นและวิ่งไปข้างหน้า
ซึนาเดะ จ้องมองมาที่ อาคาบาเนะ เขม็งจนเขาทนไม่ได้ต้องกระโดดลงจากเกวียน
“ยัยซึนาเดะ กำลังอิจฉาความสุขสบายของฉันอยู่ใช่ไหม?” อาคาบาเนะ พึมพำอยู่ในใจ
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเดิน โชคดีที่พวกเขาอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน และใช้เวลาไม่นานสำหรับพวกเขาที่จะได้เห็นบริเวณรอบนอกของหมู่บ้านน้ำวน
หมู่บ้านน้ำวนแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้ที่ชายแดน
2 ข้างทางของทุ่งนา ชาวบ้านหลาย 10 คนกำลังยุ่งอยู่กับการปลูกข้าวดำนา และดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยู่อย่างสงบสุขและมีความสุข
หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง มันคงยากที่จะจินตนาการว่าช่องว่างระหว่างภายในกับภายนอกก่อนหน้านี้มันต่างกันมาก แต่…ทั้งหมดนี้จะกลายเป็นอดีตเพราะสงครามได้ลุกลามเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆและมันขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ซึนาเดะ กำมือแน่น ดวงตาของเธอสั่นระริก
“ความสงบสุขเหล่านี้กำลังจะหายไป!.”
ฮิรุเซ็น ลูบหัวของเธอและพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์หดหู่ “สงครามมักจะโหดร้ายเช่นนี้เสมอ”
จิไรยะ ทำหน้าหงุดหงิด
เขาห่วงใยความรู้สึกของ ซึนาเดะ มากที่สุดเสมอ
“ครู พวกเราจะช่วยหมู่บ้านน้ำวนใช่ไหม”
ซึนาเดะ ถามขณะพยายามกลั้นน้ำตา
ที่นี่คือบ้านเกิดของคุณย่า แต่ตอนนี้เธอเห็นว่ามันถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมท่ามกลางสงครามเพียงเพราะความอิจฉาริษยาและความหวาดกลัวที่คนอื่นมีต่อตระกูลอุซึมากิ เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขสถานการณ์นี้แทนคุณย่าของเธอ
แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดุร้าย แต่เมื่อนึกถึงคนที่เธอห่วงใย เธอไม่สามารถอยู่นิ่งๆ ได้
“ใช่ เรา…จะช่วยหมู่บ้านน้ำวน”
ฮิรุเซ็น ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบกลับ
“สงคราม… มักจะเป็นปัญหา”
อาคาบาเนะ นั่งบนเกวียนอีกครั้งและมองไปทางด้านหลัง
ช่วยเหลือหมู่บ้านน้ำวน?
อย่าไร้เดียงสาเกินไป ด้วยการสมรู้ร่วมคิดที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ รวมไปถึงหมู่บ้านนินจาหลายแห่งเพื่อทำลายล้างหมู่บ้านน้ำวน แม้แต่พันธมิตรที่รักอย่างโคโนฮะก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
แม้ว่าโคโนฮะจะประกาศการช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ พวกเขาก็สามารถช่วยสมาชิกบางคนของหมู่บ้านน้ำวนให้รอดได้เท่านั้นและต้องเสียสละคนอื่นๆ
แต่เรื่องนี้ อาคาบาเนะ ไม่ได้พูดออกไปเขากลัวว่าความคิดนี้จะรบกวนกลุ่มและทำให้จิตใจขุ่นมัวซะเปล่าๆ
“อ๊ะ ฉันวาดการ์ตูนต่อดีกว่า”
“คาถาแยกเงาพันร่าง!”
ร่างแยกเงาปรากฏตัวขึ้น เหลือบมอง อาคาบาเนะ อย่างเงียบ ๆ แล้วก้าวเข้าไปในรถม้าอย่างสงบ
กลุ่มคาราวานยังคงเดินทางต่อไป และใช้เวลาไม่นานก็เห็นประตูหมู่บ้านน้ำวนแล้ว
ในหนังสือการ์ตูน หมู่บ้านน้ำวนของตระกูลอุซึมากิไม่เคยปรากฏมาก่อน ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของแฟนคลับนารูโตะอย่าง อาคาบาเนะ ก็อยากเห็นหมู่บ้านนี้สักครั้ง
เขาสัมผัสได้ถึงฉากที่คุ้นเคยในชั่วพริบตา
“เฮ้ อาคาบาเนะ ดูนั่นสิเครื่องหมายของที่นี่คล้ายกับเครื่องหมายที่ลานบ้านคุณย่าเลย”
ซึนาเดะ ตะโกนด้วยความตกใจ
จู่ๆ อาคาบาเนะ ก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้ๆ ซึนาเดะ
กลายเป็นว่าเครื่องหมายที่ลานบ้านของ ย่ามิโตะ ถูกสร้างขึ้นโดยมีสถานที่นี้เป็นข้อมูลอ้างอิง
เมื่อได้ยินสิ่งที่ ซึนาเดะ พูด โอโรจิมารุ ก็มองไปยัง อาคาบาเนะ ด้วยท่าทางแปลกๆ แล้วถามขึ้นว่า
“อาคาบาเนะคุง นายได้พบกับ ท่านมิโตะ?”
“ใช่ ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันเจอเธอ 2-3 ครั้งแล้ว”
อาคาบาเนะ กระแอมเล็กน้อยโดยไม่ได้ให้เหตุผลเพิ่มเติม
ท้ายที่สุดเมื่อผู้คนจำนวนมากรู้ว่า มิโตะ ชอบอ่านการ์ตูนพวกเขาจะต้องประหลาดใจ
“เรื่องการ์ตูนเหรอ?”
“ใช่ คุณย่าอ่านการ์ตูนนารูโตะและท่านก็ชอบมันมาก”
ซึนาเดะ แสดงออกอย่างภาคภูมิใจ
“นั่นก็ดี”
โอโรจิมารุ รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก อุซึมากิ มิโตะ เป็นตำนานเขาต้องการพบเธออยู่เสมอ แต่น่าเสียดายที่ตระกูลเซ็นจูออกจากศูนย์กลางอำนาจไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเธอจึงไม่ค่อยปรากฏตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากอิจฉาอยู่ครู่หนึ่ง ความคิดก็ผุดขึ้นในใจเขา
“การที่เราต้องมาที่หมู่บ้านน้ำวน เพียงเพราะหนังสือการ์ตูนไม่กี่หน้าของ อาคาบาเนะ?”
“หรือว่า…”
ในเนื้อหาของการ์ตูนมีบ้างอย่างที่ทุกคนควรให้ความสนใจ?
โอโรจิมารุ รู้สึกทึ่งและเติมความคิดของเขาด้วยความอยากรู้
อาคาบาเนะ เป็นเพียงเด็กชายอายุ 9 ขวบที่เขียนการ์ตูนเกี่ยวกับร่างสถิตสัตว์หางและ 9 หาง ตามจินตนาการของเขา ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่ามันมีอยู่จริง
“โอโรจิมารุ นายมัวแต่คิดอะไรอยู่? พวกเขาทิ้งนายไว้ข้างหลังแล้ว”
“อ๊ะ!”
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน โอโรจิมารุ ก็หาเหตุผลไม่ได้ และ จิไรยะ ก็ตะโกนร้องเรียก เขาก็วิ่งไล่ตามกลุ่มคาราวานทันที
เมื่อผ่าน อาคาบาเนะ โอโรจิมารุ ก็จ้องมองไปที่เขาอยู่แวบหนึ่ง
และชั่วขณะหนึ่ง โอโรจิมารุ ก็รู้สึกว่า อาคาบาเนะ ให้ความรู้สึกบางอย่างแต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร
มันเหมือนกับว่า… บางทีในอนาคต คนตรงหน้าเขาคนนี้อาจจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวของเขา