ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ - ตอนที่ 42 ซุ่มโจมตี!
ตอนที่ 42 ซุ่มโจมตี!
“แคว้นน้ำวนอยู่ข้างหน้า และเราเคยถูกกลุ่มนินจาโจมตีที่นั่น”
คาซามะ หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเขาและกองคาราวานถูกพวกนินจาไล่ตาม
ฮิรุเซ็น กวาดสายตามองสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวังและพูดว่า “อาคาบาเนะ หลังจากฆ่านินจาเหล่านั้นเธอได้ฝังศพพวกมันหรือเปล่า”
“อะไร!? อาคาบาเนะ ได้ฆ่าคนไปแล้ว!?”
จิไรยะ ถึงกับตกใจ แม้แต่ โอโรจิมารุ ก็ดูประหลาดใจและมองไปที่รถม้า
“ไม่ครับ ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นครับครู”
อาคาบาเนะ นอนอยู่ในรถม้า เขาขี้เกียจจะมองออกไปนอกหน้าต่าง
ถ้า ฮิรุเซ็น ถามแบบนี้แสดงว่าบริเวณนี้ได้ถูกทำความสะอาดไปหมดแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ผ้าม่านของรถม้าก็ถูกเปิดออก
สีหน้าของ ซึนาเดะ เต็มไปด้วยความหงุดหงิดเธอยืนอยู่หน้ารถม้า: “ลงมา!”
“เอ่อ… ฉันยังพักได้ไม่เต็มที่….”
ก่อนที่ อาคาบาเนะ จะพูดจบ ซึนาเดะ ก็หักนิ้วของเธอจนดังกร๊อบแกร๊บ
“ลงมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะทุบรถม้านี่ให้เป็นชิ้น ๆ!”
ซึนาเดะ ขู่ด้วยกำปั้นของเธอ
มุราซากิ พยายามกลั้นหัวเราะ ก่อนหน้านี้เขาเห็น ซึนาเดะ เดินไปที่รถม้าและเขาก็คาดเอาไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้
“อาคาบาเนะ มานี่สิ ฉันต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับวันนั้น”
ฮิรุเซ็น พูดขึ้นพร้อมกับเผยรอยยิ้ม
อาคาบาเนะ ไม่มีทางเลือกอื่น เขาออกจากรถม้าและทิ้งร่างแยกเงาเอาไว้ข้างในเพื่อวาดการ์ตูนต่อไป
“ผมฆ่าจูนิน 5 คนด้วยภาพลวงตาตรงจุดนี้”
อาคาบาเนะ ขว้างดาวกระจายออกไป ทำเครื่องหมายตำแหน่งของเหยื่อ
“5 จูนิน…”
ซึนาเดะ กำหมัดแน่นและแอบเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของเธอกับเขา
ฉันจะสามารถจัดการกับนินจา 5 คนด้วยตัวคนเดียวได้หรือไม่?
เมื่อวิเคราะห์แล้ว ไม่มีทางทำได้.…
อาคาบาเนะ แข็งแกร่งมากถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
ช่องว่างของความแข็งแกร่งระหว่างพวกเราห่างกันมากขึ้นในเวลาอันสั้น?
จิไรยะ เองก็ตกใจและตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
อาคาบาเนะ รู้ว่าดีว่า โอโรจิมารุ ก็คงรู้สึกแย่มากเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม…
การที่เขาสามารถฆ่าจูนินได้ 5 คนส่วนหนึ่งก็มาจากความโชคดี เขาใช้ภาพลวงตาในเสี้ยววินาที ในเวลาที่พวกมันไม่ทันตั้งตัวและจักระที่ใช้ไปก็ค่อนข้างน่ากลัว
“ผมฆ่าพวกมันไปบางส่วน แต่ก็เกือบพลาดท่าให้กับโจนินและต้องขอบคุณ ครูดันโซ ที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลา และสังหารพวกมันจนหมด จากการโจมตีในครั้งนั้นจะเห็นได้ว่าพวกมันเตรียมการมาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น มีดคุไน ดาวกระจาย และยันต์ระเบิด.…”
อาคาบาเนะ พูดอธิบายถึงสถานการณ์ในครั้งนั้น
“ดูจากรูปการแล้ว ศพเหล่านั้นคงถูกนินจาจากหมู่บ้านคิริงาคุเระนำกลับไปแล้ว”
ฮิรุเซ็น เดินไปยังตำแหน่งนั้น แม้ว่าจะมีคนทำความสะอาดบริเวณนี้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีเบาะแสบางอย่างที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
“นินจาจากหมู่บ้านคิริงาคุเระ โจมตีหมู่บ้านน้ำวน!?”
จิไรยะ ตื่นเต้นจนตาเป็นประกาย
“ทุกคนปลอมตัวด้วยคาถาแปลงร่าง คาซามะซัง โปรดมาทางนี้
ฮิรุเซ็น ลุกขึ้นแล้วโบกมือไปที่กองคาราวานถัดจาก คาซามะ เพื่อให้ตามเขาไป
พวกเขาไม่ค่อยได้ใช้คาถาแปลงร่าง แต่คาถานินจานี้ได้รับการเรียนรู้มาเป็นอย่างดีในโรงเรียนนินจามาแล้วดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหา
อาคาบาเนะ กลายเป็นคนงานวัยกลางคนและนั่งเกียจคร้านอยู่บนขอบเกวียน
ทุกคนปลอมตัวหมดยกเว้น ฮิรุเซ็น สุดท้ายไม่มีใครกล้าโจมตีเขาอยู่ดี
เพราะเขาคือ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3!
หลังจากนั้นพวกเขาก็เคลื่อนย้ายเข้าไปยังดินแดนของแคว้นน้ำวน
……………………..
เมื่อพวกเขาเข้าไปในเขตชายแดนของแคว้นน้ำวน ไม่นานพวกเขาก็เข้าใจว่าสถานการณ์ที่นี่เลวร้ายเพียงใด
มีทุ่งนาที่ถูกไฟไหม้ ซากปรักหักพังซึ่งเคยเป็นบ้านเรือนกระจัดกระจายอยู่รอบ ๆ และดูเหมือนจะไม่มีใครอาศัยอยู่ที่นั่นอีกแล้ว
นี่มันแย่มาก!
“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่..”
ซึนาเดะ ที่ดูตื่นเต้นมากในตอนแรก แต่หลังจากได้เห็นสถานการณ์ด้วยตาของเธอเอง หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความเศร้า
ที่นี่คือบ้านเกิดของคุณย่า แต่…
อาคาบาเนะ ได้แต่ถอนหายใจ
สัตว์หางเป็นทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่หมู่บ้านสามารถครอบครองได้ เปรียบได้กับระเบิดนิวเคลียร์ ดังนั้นไม่มีใครกล้าโจมตีหมู่บ้านที่มีร่างสถิตสัตว์หางอยู่ในนั้น
ตระกูลอุซึมากิในแคว้นน้ำวนไม่มีร่างสถิตสัตว์หาง แต่พวกเขาสามารถผนึกสัตว์หางเหล่านั้นที่เปรียบดั่งเป็นอาวุธทำลายล้างสูงได้ และด้วยร่างกายที่น่ากลัว จักระที่มากมาย คาถาผนึกที่แข็งแกร่ง พวกเขาสามารถควบคุมสัตว์หางได้อย่างไร้ความกังวล ดังนั้นหมู่บ้านที่ครอบครองสัตว์หางไม่ต้องการสูญเสียความได้เปรียบนี้และไม่ต้องการให้ตระกูลอุซึมากิอาศัยความได้เปรียบทางสายเลือดเข้ายึดครองสัตว์หางของพวกเขาและหากเป็นเช่นนั้นจริงโลกนี้ก็จะตกเป็นของตระกูลอุซึมากิเพราะฉะนั้นด้วยความหวาดกลัวว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาจึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลมโดยการกวาดล้างตระกูลอุซึมากิ…..
“ข้างหน้าเป็นทางแยกของถนนการค้าของแคว้นน้ำวน และมักจะมีนินจาคอยแอบซุ่มอยู่ที่นั่น”
คาซามะ รู้สึกประหม่ามาก และเหงื่อก็ไหลออกมาจากหน้าผากของเขา
อาคาบาเนะ เริ่มวาดพื้นหลังบนกระดาษของเขาล่วงหน้า
กองคาราวานเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ และผู้คุ้มกันธรรมดาบางคนเริ่มเข้าใกล้เกวียนที่เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนราวกับว่านี่เป็นสินค้าที่สำคัญมาก
ในเวลานี้พวกเขาต้องระวัง หากพวกเขาประมาทชีวิตของทั้งกลุ่มจะตกอยู่ในความเสี่ยง
แม้ว่า มุราซากิ และ ซาคุโมะ จะประหม่า แต่พวกเขาก็ผสมผสานกันอย่างลงตัวเหมือนผู้คุ้มกันทั่วไป แต่ท่าทางของ ซึนาเดะ จิไรยะ และ โอโรจิมารุ นั้นต่างออกไปนี่เป็นครั้งแรกของพวกเขา พวกเขาจึงรู้สึกหวั่นๆอยู่ในใจ
สำหรับ อาคาบาเนะ นั้น เขานั่งอยู่บนขอบเกวียน ถือพู่กันและกระดาน
“แกรบ!”
ทันใดนั้นเสียงเหยียบใบไม้ก็ดังขึ้น
“ระวัง!”
โอโรจิมารุ ตะโกน แล้วเห็นดาวกระจายหลายตัวพุ่งออกจากป่าทันที
จิไรยะ ลุกขึ้นทันทีและปัดป้องดาวกระจายด้วยมีดคุไน ขณะที่ ซึนาเดะ รีบพุ่งตรงเข้าไปในป่า
“ระวัง!”
สีหน้าของ ซาคุโมะ เปลี่ยนไป ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นในทันใด เขารีบวิ่งไปที่ ซึนาเดะ ก่อน แล้วขว้างมีดคุไนลงไปที่พื้นห่างออกไปไม่กี่ก้าว
ตูม!
“กับดัก!?”
ซึนาเดะ ยึดติดกับศัตรูมากเกินไป จนลืมไปว่าศัตรูอาจจะวางกับดักเอาไว้
หลังการระเบิด ซึนาเดะ ก็มอง ซาคุโมะ ด้วยแววตาขอบคุณ หากไม่ใช่ ซาคุโมะ มีปฏิกริยาที่รวดเร็วเธอคงได้รับบาดเจ็บไปแล้ว
“โฮ่ ไอ้พวกเด็กเหลือขอที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่และเป็นเกะนินเพียง 3-4 คน”
“ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นครูของพวกแก แต่มันโง่มากที่ส่งพวกแกมาที่นี่”
“คาถาหมอกซ่อนเร้น!”
วูว-วูวว!
ทันใดนั้น เมฆหมอกหนาทึบก็ปรากฏขึ้นบดบังการมองเห็นในระยะ 100 ก้าว
คาถาหมอกซ่อนเร้น! นี่คือนินจาระดับโจนินจากหมู่บ้านคิริงาคุเระ!
หัวใจของ อาคาบาเนะ เต้นแรงขึ้น
หากการมองเห็นของเขาถูกปิดกั้น เขาก็ไม่สามารถใช้ภาพลวงตาจากการวาดภาพได้!
ในสถานการณ์เช่นนี้ ภาพลวงตาของเขาแทบจะไร้ประโยชน์
ไม่! ยังมีวิธีอื่น!
แม้ว่าฉันจะมองไม่เห็น แต่ก็ยังได้ยินเสียงซึ่งเพียงพอที่จะตอบโต้การโจมตีของพวกมัน
อาคาบาเนะ กลั้นลมหายใจรอคอยอย่างระมัดระวัง
นั่น!
ทันใดนั้นก็มีเสียงลมพัดมาจากทิศทางหนึ่ง
ในไม่ช้าเขาก็ผสานอิน
“คาถาดิน: สละชีพบั่นศีรษะ!”
จูนิน แห่งคิริงาคุเระไม่มีเวลาตอบสนองก่อนที่มันจะถูกลากลงไปที่พื้นแล้วถูกจึงแทงด้วยมีดคุไนที่คอ
“สามารถใช้คาถาดินทั้งที่มีอายุแค่นี้ เหอะ!”
ข้างหลังเขามีเสียงที่ไม่แยแสดังขึ้น
จิตสังหารหนักหน่วงจริงๆ!
อาคาบาเนะ เหงื่อออกทั่วร่างกาย เขารู้สึกว่ามีมีดคุไนพุ่งเข้ามาหาเขาและเขาก็ตอบสนองในทันที
คาถาสลับร่าง!
เขาเปลี่ยนตำแหน่งอย่างเงียบ ๆ แต่เขาดีรู้ว่าในหมอกนี้ศัตรูสามารถมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
“ฮึ่ม ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ!”
อาคาบาเนะ ได้แต่วิเคราะห์สถานการณ์อยู่ภายในใจ เขาสามารถตายได้ทุกวินาทีหากเขาประมาทและล้มเหลวในการเคลื่อนไหว
ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตายนี้ ทันใดนั้นเขาก็จำบางอย่างได้
อาคาบาเนะ เปิดรายการแลกเปลี่ยนของระบบอย่างรวดเร็วและแลกอะไรบางอย่างจากมันมา
[ คัมภีร์สังหารไร้เสียง แลกเปลี่ยนสำเร็จ!]
“เยี่ยม!”
อาคาบาเนะ จำได้ว่าร่างแยกเงาของเขาได้วาดตอนที่ 12 จบแล้ว เนื้อหาภายในตอนที่ 12 มี วิชาสังหารไร้เสียงอยู่และในตอนนี้เขาก็เปิดใช้งานมันโดยไม่ลังเล
ในชั่วพริบตา เสียงและลมหายใจรอบตัวเขาชัดเจนเหมือนกลางวัน!
ข้างหลังเขา เขาสัมผัสได้ถึง โจนิน แห่งคิริงาคุเระ กำลังถือ คุไน และในเวลาเดียวกัน เขาก็สัมผัสได้ว่า โอโรจิมารุ และคนอื่นๆ กำลังต่อสู้กับจูนินที่อยู่ไม่ไกล
ที่แย่กว่านั้นคือ จิไรยะ ที่ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ อาคาบาเนะ ได้ยินจากการหายใจที่ยากลำบากของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาพบบางสิ่งที่แปลกมาก แม้ว่าโจนินของคิริงาคุเระ กำลังถือมีดคุไนอยู่ในมือ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เคลื่อนไหว
“หรือว่ามันกำลังถูก ครูฮิรุเซ็น เล่นงาน?”
อาคาบาเนะ วิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว คำอธิบายเพียงอย่างเดียวคือโจนินคนนี้ได้ถูก ฮิรุเซ็น ทำอะไรบางอย่าง
“ฉันเองก็ต้องลงมือบ้างแล้ว!”
เขาตอบสนองอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งไปที่ โอโรจิมารุ และคนอื่นๆ อย่างรวดเร็ว
อาคาบาเนะ จัดการกับ จูนิน คนหนึ่งในระหว่างทางไปที่นั่นด้วยมีดคุไน
หลังจากสังหารไปหนึ่ง อาคาบาเะน หยุดเคลื่อนไหวและยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ยากต่อการตรวจพบ ตามด้วยการวางแผนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของเขา
“เจ้าหนู ตายซะเถอะ!”
ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขาพร้อมกับกวาดดาบฟันลงมาอย่างรวดเร็ว
อาคาบาเนะ ตอบสนองด้วยการก้มหัวลงหลบเลี่ยงและพูดว่า “ครูฮิรุเซ็น คุณอย่าล้อเล่นแบบนี้สิ!”
“โฮ่ เธอฉลาดมาก สามารถมองเห็นการโจมตีนั้นของฉันได้”
ฮิรุเซ็น เอ่ยขึ้น
“ครูอย่าทดสอบผมในสถานการณ์แบบนี้มันอันตราย…เห้อ ทำตัวอย่างกับเด็ก”
อาคาบาเนะ บ่นพร้อมกับถอนหายใจ
แน่นอน……
หากเขาไม่ได้แลกเปลี่ยนคัมภีร์สังหารไร้เสียงมาเขาจะไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของ ฮิรุเซ็น พร้อมกับตำแหน่งของโจนินและจูนินได้ และตอนนี้เขาอาจจะยังซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน