ระบบการ์ตูนในโลกนารูโตะ - ตอนที่ 13 ทีมดันโซ
ตอนที่ 13 ทีมดันโซ
“ลูก…”
พ่อแม่ของเขาตกใจกับความคิดความอ่านของลูกชาย
ซึ่งเกินวัยเกินเด็กทั่วไปที่จะมีความคิดเช่นนี้
“เอาเถอะ เมื่อลูกโตขึ้นก็ควรทำตามความฝันของตัวเอง…”
พ่อและแม่ของเขาไม่ใช่คนระดับสูงในตระกูลคุรามะ
ดังนั้นในใจของพวกเขาจึงมีความกังวลและไม่แน่ใจว่าการปลุกตื่นขีดจำกัดทางสายเลือดของ อาคาบาเนะ จะมีน้ำหนักพอในการพูดคุยกับคนระดับสูงภายในตระกูลหรือไม่
“พ่อ แล้วพ่อจะไปคุยกับหัวหน้าตระกูลรึเปล่า?”
อาคาบาเนะ ได้ยินคำพูดของ จิอากิ ราวกับว่าได้ตัดสินใจแล้วเขาก็เอ่ยถามขึ้น
พ่อของเขาพยักหน้า ลูบหัวของ อาคาบาเนะ ด้วยความรักและกล่าวว่า “พ่อจะไปคุยกับหัวหน้าตระกูล หากเขาปฏิเสธคำขอของลูก พ่อก็ยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง”
“ผมเชื่อว่าหัวหน้าตระกูลจะตอบตกลง”
อาคาบาเนะ มั่นใจมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้ง 3 คนพากันเดินกลับบ้าน
………………
ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน อาคาบาเนะ ก็กลับไปที่ห้องของเขาเพื่อวาดอ่านการ์ตูนต่อ
“คาถาแยกเงาพันร่าง!”
เขารีบผสานอินเรียกร่างแยกเงาออกมาทันที
ปุ้ง!
ร่างแยกเงาปรากฏขึ้นในห้อง
“วันนี้นายวาด ส่วนฉันจะลงสีเราจะช่วยกันทำงาน!”
อาคาบาเนะ เอ่ยขึ้นแล้วหัวเราะคิกคักจากนั้นก็เริ่มระบายสีการ์ตูนของเขา
“ช่วยกันทำงาน?…”
ร่างแยกเงาเหลือบมองเขาและอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
คนที่รู้จักตัวเองดีที่สุดก็คือตัวเอง ตั้งแต่แรกเริ่ม เขาไม่เชื่อเรื่องไร้สาระอย่าง“ช่วยกันทำงาน” ของ อาคาบาเนะ เลยแม้แต่น้อย
…………………..
หลังจากระบายสีเสร็จแล้ว อาคาบาเนะ ก็ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย
“ฮ่าๆ… เสร็จแล้ว เริ่มขึ้นตอนต่อไป”
ร่างแยกเงาของเขาไร้ความรู้สึก เขาไม่เคยคิดเลยว่า อาคาบาเนะ จะมีพรสวรรค์เช่นนี้
“ด้วยทักษะการวาดภาพของนาย ไม่เห็นต้องพึ่งพาคาถาแยกเงาพันร่างในตอนแรก? หากนายคิดจะทำไม่ขี้เกียจก็สามารถทำเสร็จได้รวดเร็วนิ”
“นายพูดแบบนี้มันก็ไม่ถูก ฉันจะเอาแต่ทำงานทั้งวันทั้งคืนไม่ได้ ฉันต้องมีเวลาพักผ่อนบ้าง”
เดิมที อาคาบาเนะ ตั้งใจจะพักซักครู่ แต่เมื่อถูกร่างแยกเงาของตัวเองเยาะเย้ยถากถาง ทำให้เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย เขาจึงเปลี่ยนใจนั่งไขว่ห้างเพื่อฟื้นฟูจักระของเขาแทน
……………..
“[ระบบ!]”
เขาดูที่แผงระบบการ์ตูน แต้มของเขาเพิ่มขึ้นมา 50 แต้ม
ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากเดิมเพียงเล็กน้อย
อาคาบาเนะ คิดอยู่ครู่หนึ่งและใช้แต้มที่เหลือทั้งหมด 50 แต้มเพื่อเพิ่มค่าร่างกายของเขา
เขาต้องอัพเกรดร่างกายเพื่อชดเชยจักระ
แน่นอน เหตุผลหลักคือแต้มที่ใช้อัพค่าจักระมากเกินไป
ค่าจักระของเขามี 50 จุด ซึ่งอยู่ในระดับจูนิน หากต้องการเพิ่มให้เป็น 51 จุดเขาต้องใช้แต้ม 50 แต้ม
กับการพัฒนาเพียงเล็กน้อยเช่นนี้เขาไม่ต้องการ
ค่าร่างกายในปัจจุบันของเขามีเพียง 5 จุด เมื่อเพิ่ม 50 แต้มลงไป ผลที่ได้จะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้นที่ได้รับการพัฒนา แต่การฟื้นตัวและจำนวนของจักระก็ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วย
หลังจากนั้น อาคาบาเนะ ก็นั่งลงและเริ่มฟื้นฟูจักระ
ร่างแยกเงาคิดว่า อาคาบาเนะ คงจะเหนื่อยจริงๆ ถึงได้นั่งฟื้นฟูจักระ เขารู้สึกโชคดีในตอนนี้ที่ถูกเรียกออกมา เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในบรรดาร่างแยกเงาของ อาคาบาเนะ
เขาถอนหายใจเล็กน้อยแล้ววาดการ์ตูนต่อไป
แม้ว่าในฐานะร่างแยกเงา เขาก็ต้องการพักผ่อนเช่นกัน แต่เพื่อให้งานเสร็จเร็วขึ้นเขาไม่สามารถพักผ่อนได้
อย่างน้อยที่สุด เขาต้องทำให้เสร็จในตอนที่ 5 และ 6 เพื่อที่เขาจะรวมเล่มและจัดพิมพ์เพิ่มในอีกไม่กี่วันข้างหน้าและรอให้ร้านเปิด
สำหรับร้านการ์ตูน ในฐานะร่างแยกเงา เขาค่อนข้างกังวลกลัวว่าจะจัดพิมพ์ไม่ทัน เพื่อที่จะได้มีร่างแยกเงาเพิ่มเขาต้องขยันขันแข็งให้มากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน
แน่นอน…
ด้วยร่างกายของเขาที่มีความสมดุลกับจักระ การฟื้นตัวในด้านจักระของเขานั้นเร็วกว่านินจาระดับเกะนินมาก
ใช้เวลาไม่นานจักระก็ได้รับการฟื้นฟูซึ่งเพียงพอที่จะเรียกร่างแยกเงา เขาก็ลุกขึ้นและเรียกร่างแยกเงาร่างที่ 2 ขึ้นมา
“ฉันเรียกร่างแยกมาเพิ่มแล้ว พวกนายก็ช่วยกันวาดไปนะ ฉันจะนอนล่ะ.”
อาคาบาเนะ นอนอยู่บนเตียงเพื่อฟื้นฟูจักระของเขา โดยมีร่างแยกเงาทั้ง 2 จ้องมองมาที่เขา อาคาบาเนะ กลัวว่าหากเขามีจักระไม่เพียงพอเขาจะหมดสติและร่างแยกทั้ง 2 ก็จะหายไป ดังนั้นเขาจึงต้องนอนพักผ่อนเพื่อพักฟื้นจักระแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม
ในตอนนี้ร่างแยกเงาทั้ง 2 มองหน้ากัน แล้วมองไปที่ อาคาบาเนะ บนเตียงพร้อมกับส่ายหน้า
จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจและทำงานต่อไป
……………………
อีกด้านหนึ่ง ในห้องทำงานของ โฮคาเงะ, ราชาวานรเอ็นม่า กำลังตรวจผลการสอบของวันนี้
และ ฮิรุเซ็น เองก็ตรวจสอบด้วยเช่นกัน
ผลการสอบมีรายละเอียดมากมายดังนั้นเขาจึงอัญเชิญ เอ็นม่า ออกมาช่วยตรวจ
“แจ้งนักเรียนและครูถึงผลการสอบ ริวยู จะต้องได้รับผลจากการกระทำของเขา ส่วนคนอื่นๆ ทั้งหมดสามารถจบการศึกษา”
ฮิรุเซ็น พูดขึ้น
“อืม!”
เมื่อ เอ็นม่า ได้รับคำสั่งก็ออกจากสำนักงานทันที
ฮิรุเซ็น หยิบไปป์ขึ้นมาสูบพร้อมกับครุ่นคิด
บนโต๊ะทำงานของเขามีรายชื่อ คุรามะ อาคาบาเนะ, ฮาตาเกะ ซาคุโมะ และ มิทาราชิ มุราชากิ อยู่ในแผ่นกระดาษ ชื่อที่ปรึกษาอยู่ข้างหน้ายังว่างและยังไม่ได้กรอกชื่อ
ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจและกรอกชื่อหนึ่งลงไป
‘ชิมูระ ดันโซ’
“ไปเรียก ดันโซ มาที่นี่”
ไม่นานร่างหนึ่งก็เข้ามา ซึ่งก็คือ ชิมูระ ดันโซ
ดันโซ หยิบรายชื่อขึ้นมาดูและพูดว่า “ 3 คนนี้เป็นนักเรียนที่นายคัดเลือกมาเป็นอย่างดี…”
ตอนนี้ ดันโซ เป็นหัวหน้าและเป็นผู้ก่อตั้งหน่วย”ราก” ซึ่งเป็นหน่วยลับที่ไม่ได้ขึ้นตรงต่อ ฮิรุเซ็น
“ใช่ นายจะเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมของพวกเขาในระยะเวลา 1 ปี แต่จำไว้ว่าอย่าโน้มน้าวพวกเขาให้เข้าหน่วยรากของนายหรือทำสิ่งอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับหน่วยลับ”
ฮิรุเซ็น ชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
ไม่มีที่ว่างสำหรับความผิดพลาด
“ไม่มีอะไรให้นายต้องกังวล”
ดันโซ หัวเราะแล้วเดินออกไป
“พวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะ แค่ปีเดียวก็เกินพอ”
ฮิรุเซ็น กล่าวว่า “1 ปีต่อจากนี้ ฉันมีแผนอื่นสำหรับพวกเขา ส่วนนายก็กลับไปดูแลหน่วยรากของนายต่อ
“นายเองก็มีเวลา 1 ปีเช่นกัน”
ดันโซ หมายถึงบางสิ่งที่มีเพียงพวกเขา 2 คนเท่านั้นที่รู้ เขาหันหลังและออกจากสำนักงาน