ยัยตัวร้ายกับนายสุดโหด - บทที่ 49 ดีกว่าผู้หญิงคนอื่นตรงไหน
บทที่ 49
ดีกว่าผู้หญิงคนอื่นตรงไหน
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ หลังจากพวกเธอได้รู้เหตุการณ์จากคำบอกเล่าของทิงหลิวเสวี่ย
“จริงดิ … เรื่องจริงเหรอ!” เสี่ยวอาเป็นคนแรกที่พิมพ์ขึ้นมาอีกครั้งในกลุ่มแชทหลังจากนิ่งเงียบมานาน
“ฉันไม่เข้าใจ! แปลว่าท่านประธาน… ชอบผู้หญิงแบบนี้เหรอ? เธอมีดีกว่าผู้หญิงคนอื่นตรงไหนกัน ทำไมถึงได้รับความสนใจจากท่านประธานล่ะ?!”
“อยากได้ผู้ชายมาไว้ในกำมือก็มีแต่ต้องเอาตัวเข้าแลก! วิธีแบบนี้มีแต่พวกที่ ‘ไม่สวย’ เท่านั้นแหละที่กล้าทำ!”
“ขอถามอีกรอบ… ผู้หญิงคนนี้… จูบท่านประธานจริง ๆ ใช่ไหม แล้ว… ยังได้ควงแขนด้วยเนี่ยนะ? ฉันได้ยินมาว่าท่านประธานไม่เคยถูกตัวใครมาก่อนนี่!”
“ใช่แล้ว! น่าตกใจจริง ๆ เลย! พวกเธอลองคิดดูสิ… ขนาดผู้หญิงระดับล่างคนนี้ยังชนะใจท่านประธานได้ แล้วดูพวกเราที่ทั้งสวยกว่า ทั้งดูดีกว่ามันตั้งเยอะ! แต่ทำไมเราถึงไม่ถูกให้ความสนใจบ้างเลย?”
“ฉันไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้เลย! อุตส่าห์ทนทำงานอย่างหนักที่นี่มาหลายปี! สุดท้ายไม่มีแม้แต่ความหวัง! พระเจ้าคะ ช่วยดลใจเขาให้รักฉันบ้างได้ไหม!”
“ตามไปชั้นบน +1!”
…
ห้องทำงานส่วนตัวของเซียวเฉินเยวียน
ถังซือซือยืนมองวิวทิวทัศน์รอบ ๆ ห้องผ่านผนังกระจกหนาใสด้วยความตื่นเต้น ก่อนเหลือบมองไปบนโต๊ะทำงานและเก้าอี้โซฟาที่ดูหรูหรา เธอตกตะลึงกับพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่กว้างมากกว่าหนึ่งร้อยตารางเมตร หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เดินเข้าไปในโซนห้องครัวเล็ก ๆ ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของห้องทำงาน
เป็นไปตามคำพูดของกู่ชวน วัตถุดิบทั้งหมดถูกเตรียมไว้ข้างในเรียบร้อยแล้ว
แฟนสาวของประธานเซียว… ไม่สิ! คู่หมั้นของประธานเซียว ต้องมาทำอาหารเองแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย? คิดว่าจะเอาแต่ซื้อนู้น ซื้อนี่ ซื้ออะไรก็ได้เพื่อมาเอาใจคนอย่างประธานเซียวซะอีก!
แต่ความคิดนี้… คือสิ่งที่ถังซือซือคิดเกี่ยวกับเรื่องคู่หมั้นจริง ๆ
เธอเชื่อมาตลอดว่า การมีเงินมหาศาลสามารถซื้อความสบายได้ทุกอย่าง
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด เพราะยังมีบางสิ่งที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้
เซียวเฉินเยวียนสังเกตว่าท่าทางการแสดงออกของ ถังซือซือนั้นดูสดใสมากขึ้น ช่วงเวลาหนึ่ง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสงสัย ความคับข้องใจ และแปลกใจเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน บนเพดานกระจกมีเมฆดำลอยผ่านพ้นไป พร้อมกับเสียงของการหั่นผักที่รวดเร็วดังขึ้น
ถึงอย่างนั้นความสงสัยและคับข้องใจก็ยังคงอยู่ ทำให้เขารู้สึกถึงความแตกต่างบางอย่าง
เขานึกย้อนความทรงจำของตัวเอง เพิ่งจะรู้สึกว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้หญิงที่ดูผ่อนคลายและไร้กังวลเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีอิทธิพลมากมายทั้งในบริษัทและในเมืองหลวง ทุกคนต่างให้ความเคารพและเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นส่วน เครือญาติ และคนทั่วไปในเมืองหลวง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขา ทุกคำพูดจะต้องกลั่นกรองให้ดีเพื่อไม่ให้เขาต้องเกิดความไม่สบายใจ
แต่กับผู้หญิงคนนี้ กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง และยังทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกันกับเธอ…
ทันใดนั้นกู่ชวนมาเคาะประตูห้องพอดีก่อนเปิดประตูเดินเข้ามา ยังไม่ทันเดินได้ถึงสองก้าว เขาก็ได้กลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยมากระแทกจมูก กลิ่นนั้นกระตุ้นความอยากอาหารของเขาในทันที
พอเขาเหลือบไปมองเซียวเฉินเยวียน ซึ่งปกติจะเป็นคนบ้างานเกือบตลอดเวลา แต่ตอนนี้เขาวางงานทุกอย่างลง แล้วไปยืนดูถังซือซือทำอาหาร ด้วยสีหน้าแววตาที่ดูสดใสอย่างที่กู่ชวนไม่เคยเห็นมาก่อน
“อาหารเสร็จแล้วค่ะ มากินข้าวกันเถอะ”
ถังซือซือถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วเดินออกไปพร้อมจานอาหาร
ขณะเดียวกัน เซียวเฉินเยวียนเพิ่งรับสายวิดีโอคอลจากผู้บริหารระดับสูง เรียกให้เข้าประชุมด่วนพอดี
ก่อนจะหันไปพยักหน้ารับ แล้วหันไปเตรียมประชุมต่อ
ไม่หิวแล้วเหรอ?
แล้วมาตามตื๊อให้ฉันรีบทำอาหารให้ทำไมกัน?
หรือฉันต้องเสียเวลาไปฟรี ๆ
“โครกคราก” แต่เสียงท้องนายมันฟ้องนะว่าหิว
หลังจากนั้น ถังซือซือหันหลังกลับแล้วเดินไปที่ห้องครัว ก่อนยกจานอาหารกลิ่นหอมออกมา นำไปจัดเรียงบนโต๊ะด้านซ้ายมือของเซียวเฉินเยวียน
“มานี่สิ” เซียวเฉินเยวียนพูด
อะไรของเขาอีก?
ถังซือซือเดินไปตามคำสั่งของเซียวเฉินเยวียน
“ป้อนให้ผมทีสิ”
เขาพูดขึ้นมาไม่กี่คำก่อนจะเปลี่ยนท่าทางในการนั่ง ระหว่างที่เธอกำลังจัดวางช้อนส้อม เมื่อได้ยินก็เผลอทำช้อนในมือร่วงลงบนโต๊ะทันที