ยัยตัวร้ายกับนายสุดโหด - บทที่ 48 ผู้หญิงธรรมดาคนนี้
บทที่ 48
ผู้หญิงธรรมดาคนนี้
“ฮ่าๆๆ ฉันเข้าใจแล้วล่ะ! คงเป็นแค่แม่ครัวธรรมดา หวังว่าคงไม่ไปทำอาหารห่วย ๆ เสิร์ฟท่านประธานนะ”
“เป็นผู้หญิงน่าเกลียดธรรมดานี่เอง นึกว่าเป็นแฟนท่านประธาน แต่ยังไงก็เถอะ พวกเรายังมีหวัง!”
เซียวเฉินเยวียนเดินออกจากห้องทำงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย พอหญิงสาวผู้เป็นเลขาเห็นเขาเดินออกมา เธอจึงรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพทันที ก่อนจะเห็นว่าเขาเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าลิฟต์
ท่านประธานมายืนรอแบบนี้ เดี๋ยวคนทำอาหารนั่นคงใกล้มาถึงแล้วสินะ?
จะเป็นเชฟแบบไหนกัน?
ทิงหลิวเสวี่ยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก็พบว่ามีการพูดคุยกันมากมายใน ‘กลุ่มเทพธิดาสำนักงานใหญ่เซียว’ ก่อนจะนั่งไล่อ่านย้อนขึ้นไปอย่างละเอียด ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดจนเขียวคล้ำ
นี่… นี่ใช่ผู้หญิงคนเดียวกับที่ฉันเพิ่งไล่ลงไปหรือเปล่า?! อย่าบอกนะว่าเธอกลับขึ้นมาอีกครั้ง?
แย่แล้ว… หรือว่า…
ไม่สิ แต่ฉันไม่รู้ซะหน่อยนี่ว่าเป็นเธอ ดันมาพลาดอะไรแบบนี้ได้ยังไงกันนะ
แต่บุคลิกเธอ… ทุกอย่าง… เหมือนเป็นผู้หญิงธรรมดาเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีทักษะการทำอาหาร ถึงขนาดที่ท่านประธานไม่ได้สั่งให้เชฟชื่อดังชาวจีนหรือชาวต่างประเทศทำอาหารมาส่งให้ หรือว่ามันมีอะไรมากกว่าทำอาหารรึเปล่านะ?
ทิงหลิวเสวี่ยจ้องไปที่ประตูลิฟต์ด้วยความตื่นเต้น
“ติ๊ง”
ใบหน้าผู้หญิงที่เธอเห็นก่อนหน้านี้กำลังก้าวออกมา
ดวงตาของทิงหลิวเสวี่ยเปลี่ยนเป็นขาวโพลนทันที
หลังจากพยายามข่มความตกใจของตัวเอง ก็ต้องตกใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากเบ้ากับภาพตรงหน้า
“ที่รัก ในลิฟต์คนเยอะมากเลย ใช้เวลานานมากกว่าจะขึ้นมาถึงชั้นบนสุด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะถ่วงเวลาทำอาหารให้คุณหรอก ยกโทษให้ฉันด้วยนะคะ”
ถังซือซือพูดจาออดอ้อนเซียวเฉินเยวียนที่ตอนนี้กำลังมีสีหน้าบูดบึ้ง ก่อนโน้มตัวเข้าไปจับคอเสื้อของเขาแล้วเขย่าเบา ๆ หลังจากนั้นเธอถามขึ้นว่า
“ที่รักคะ… ที่รักโกรธฉันเหรอ?”
หญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าทิงหลิวเสวี่ยตอนนี้ ซึ่งเธอได้ตัดสินไปแล้วว่าเป็นผู้หญิงหน้าตาน่าเกลียดธรรมดา รวมถึงพนักงานผู้หญิงในกลุ่มทุกคนก็เห็นพ้องตรงกันว่า ‘น่าเกลียด’ ยิ่งกว่าอะไร แต่ดูเหมือนภาพที่เธอเห็น ผู้หญิงคนนี้คงไม่ใช่แค่เชฟธรรมดาแล้วมั้ง?
แต่เดี๋ยวก่อน? ท่านประธานยืนนิ่งไม่ตอบกลับอะไรเลยนี่
งั้นคงไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ด้วยรูปร่างหน้าตาและฐานะมั่งคั่งของท่านประธานเอง แทบไม่มีใครในเมืองหลวงเทียบได้เลย เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่สนใจคนสวย ๆ หรือดาราดัง แต่กลับไปให้ความสนใจผู้หญิงโลโซคนนี้
ต้องทำอะไรสักอย่าง… นังนั่นต้องปล่อยประธานของฉันซะ ฉันจะจัดการเอง!
ไม่กี่วินาทีต่อมา ในขณะที่เธอกำลังจะเดินเข้าไปผลักถังซือซือ จู่ ๆ ก็เห็นถังซือซือเขย่งเท้าขึ้นไปหอมแก้ม เซียวเฉินเยวียนต่อหน้าต่อตา ตามมาด้วยเสียงหยอกล้อว่า “ฮ่า ๆ หอมแก้มได้แล้ว”
ทันใดนั้นทิงหลิวเสวี่ยก็ตกใจจนแข็งทื่อเหมือนรูปปั้น
อนาจารที่สุด! ท่านประธานโดนยัยนั่นหอมแก้ม!
หลังจากนั้น เธอสังเกตดูท่าทางของเซียวเฉินเยวียนที่กำลังจะทำอะไรบางอย่าง เขาเท้าสะเอวแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ว่า
“คุณมาช้าไปสามนาทีนะ”
“แหม ๆ ที่รักก็คราวหน้าฉันจะไม่มาสายแล้วค่ะ ต่อไปจะมาให้ตรงเวลาแน่นอน! ฉันสัญญา!”
สีหน้าของเซียวเฉินเยวียนเริ่มดูสบายใจมากขึ้น ก่อนจะยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วยกแขนให้ถังซือซือคล้อง ก่อนเดินกลับเข้าไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขา
หืม? ถังซือซือรู้สึกถึงบรรยากาศชวนให้สะใจบางอย่าง… ดูเหมือนว่าเขาจะมีทักษะน่าทึ่งบางอย่างที่ทำให้ใคร ๆ ได้มองก็ต้องอิจฉา!
ทิงหลิวเสวี่ยรู้สึกถึงความไม่มั่นคงในตำแหน่งเลขานุการของเธอขึ้นมาทันที
เธอรีบเปิดเข้า ‘กลุ่มเทพธิดาสำนักงานใหญ่เซียว’ อีกครั้งและพบว่าคนอื่น ๆ ยังคงคุยกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ข้อความด้วยความรู้สึกหม่นหมองไปว่า
“ฉันขอพูดอะไรเล็กน้อยนะ… ผู้หญิงคนนั้นมาทำอาหารให้ท่านประธานจริง ๆ…”
“แล้วก็… ไม่ใช่แค่มาทำอาหารให้ท่านประธานเท่านั้น… เธอยังเรียกท่านประธานว่า…”
“เธอเรียกท่านประธานว่าที่รัก… แล้วก็หอมแก้มท่านประธานด้วย…”
“ไม่ใช่แค่หอมแก้มนะ ยังได้ควงแขนท่านประธานเข้าไปในห้องทำงานส่วนตัวด้วย…”
“ประโยคสุดท้ายจากฉัน ท่านประธานไม่แม้แต่จะชายตามองฉันเลย ฮือๆๆ…”
เหมือนกับสายฟ้าฟาดผ่ากลางใจ แชทของทิงหลิวเสวี่ยกระทบกับความรู้สึกของพนักงานหญิงทั้งหมด ตอนนี้ ‘กลุ่มเทพธิดาสำนักงานใหญ่เซียว’ เงียบกริบเหมือนป่าช้า