ยัยตัวร้ายกับนายสุดโหด - บทที่ 3 ทำแบบนี้ผิดกฎหมายนะ
บทที่ 3
ทำแบบนี้ผิดกฎหมายนะ
มีกลุ่มคนยืนเรียงแถวอยู่ทางซ้ายมือและขวามือของเซียวเฉินเยวียน พวกเขาสวมชุดเครื่องแบบและถุงมือสีขาวเหมือนกันหมดทุกกระเบียดนิ้ว โดยทุกคนจะยืนตรงนิ่งพร้อมกับแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน และคอยรับคำสั่งจากเซียวเฉินเยวียนเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตาม พวกเขาเห็นชัดแล้วว่านี่ก็ผ่านมายี่สิบนาทีแล้ว ตั้งแต่เซียวเฉินเยวียนได้พบกับหญิงสาวหน้าตาขี้เหร่ขี้โรคคนนี้สัมผัสตัว ดูเหมือนคุณผู้ชายยังดูปกติดีและไม่มีอาการแพ้ใด ๆ
เรื่องนี้ทำให้พวกเขาอดสงสัยในใจไม่ได้
ถังซือซือยืนมองดูกลุ่มคนที่อยู่ภายในห้องโถง สัมผัสถึงบรรยากาศที่ชวนขนลุกไปทั่วห้องแล้วรู้สึกประหม่าขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก… ในท้ายที่สุด เธอเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้
ถังซือซือรู้สึกว่าเธอกำลังตกที่นั่งลำบากมากแต่ก็ต้องเดินหน้าต่อ ในตอนนี้เธอเก็บความสงสัยและไม่ยอมพูดอะไรออกมา ก่อนจะเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แล้วเดินตรงไป
ถังซือซือนั่งลงแล้วทำตัวสงบนิ่งอยู่ต่อหน้า เซียวเฉินเยวียน เธอกวาดสายตาไปโดยรอบเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น ในขณะเดียวกัน เธอก็พยายามคาดเดาภูมิหลังและสถานภาพของเซียวเฉินเยวียนในใจ… แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คำตอบ เพราะเธอไม่อาจเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนี้ได้!
เซียวเฉินเยวียนเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลที่มั่งคั่งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในเมืองหลวง และยังเป็นถึงท่านประธานคนปัจจุบันของบริษัทตระกูลเซียว ที่มีธุรกิจในท้องตลาดที่ทำรายได้มากถึงหลายแสนล้านหยวน
ซึ่งถังซือซือและเขาไม่น่ามีอะไรเกี่ยวข้องกันได้เลย
ส่วนเซียวเทียนอวี่เป็นแค่หลานชายคุณลุงสามของ เซียวเฉินเยวียน แปลว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวของ เซียวเฉินเยวียนนั้นไม่ได้สนิทสนมกันมาก
เซียวเทียนอวี่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ โดยอาศัยบารมี และขอความช่วยเหลือจากครอบครัวฝั่งเซียวเฉินเยวียน เซียวเทียนอวี่เปิดบริษัททำความสะอาดเล็ก ๆ และดูแลกิจการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นอกจากนี้ ทุก ๆ สามวันเขาจะต้องไปเที่ยวคาสิโนและใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลือง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เขาบริหารเงินไม่ค่อยดี และค้างจ่ายค่าจ้างพนักงานเป็นประจำ
ตอนนี้เซียวเทียนอวี่น่าจะนั่งเล่นพนันจนตาบวมอยู่ที่คาสิโนที่ไหนสักแห่ง
เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ ก็รู้สึกโกรธจนอยากถีบถุงขยะให้กระเด็น!
ติดค้างเงินไว้แล้วไม่คิดจะคืนสักหยวน แถมเจ้าของร่างเดิมยังมาถูกฆ่าอีก…
“นี่ คุณน่ะ… ต้องการค่าชดเชยเท่าไหร่ก็รีบว่ามา?” เซียวเฉินเยวียนพูด
หืม? ถังซือซือฟื้นมาจากความทรงจำ แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าประโยคแรกที่ได้ยินจากปากเขาจะออกมาแบบนี้ หลังจากนั้น คิ้วของเธอเริ่มขมวดขึ้นเล็กน้อย
ค่าชดเชย? เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นฝ่ายทำผิดก่อน แล้วเธอจะรับค่าชดเชยจากเขาได้ยังไง…
ถ้าเป็นคนอื่น เธอคิดว่าเรื่องคงไม่จบแบบนี้ เพราะเธอดูเหมือนเป็นฝ่ายที่จงใจทำผิดเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากคนอื่นซะมากกว่า แต่เธอแปลกใจมากที่เขาไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายกลับ
“คุณผู้ชาย! เธอเป็นฝ่ายผิดต่างหาก… ดิฉันไม่คิดว่าคุณผู้ชายต้องชดใช้ค่าเสียหายให้เธอเลย”
ขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนชื่อกู่ชวนที่ยืนอยู่ทางด้านซ้ายมือ เขามีฐานะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเซียวเฉินหยวน ขมวดคิ้วเข้มแล้วพูดขึ้นว่า
“ท่านครับ! ท่านไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลากับคนแบบนี้ ให้ผมส่งตัวเธอไปที่สถานีตำรวจเองดีกว่าครับ ส่วนหลักฐาน… ที่กล้องวงจรปิดน่าจะจับภาพไว้ได้ทั้งหมด”
ทางฝั่งตรงข้ามของกู่ชวน มีชายหนุ่มรูปร่างผอมบางที่ยืนอยู่ทางขวามือของเซียวเฉินเยวียน เขาชื่อเฟยอวี่เป็นหัวหน้าทีมบอดี้การ์ด ในตอนนี้ เขาจ้องมองมาที่ถังซือซือด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
คนใช้คนอื่นรอบ ๆ ห้องไม่กล้าแสดงความคิดเห็นอะไร ได้แต่มองไปที่ถังซือซือด้วยท่าทางไม่พอใจเช่นกัน
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าถังซือซือจะโง่ถึงขนาดเข้าใจผิดว่า คุณผู้ชายที่สูงเกือบสองเมตร แถมยังหล่อเหลาเอาการของพวกเขา จะเป็นเซียวเทียนอวี่ที่น่าสมเพชไปได้ นี่ต้องเป็นการเลือกเป้าหมายเพื่อจงใจจะหลอกเรียกร้องเอาค่าเสียหายโดยวางแผนไว้ล่วงหน้าแน่ ๆ!
ชายหนุ่มรูปงามเลิกคิ้วขึ้นแล้วทำหน้าเหมือนไม่ได้ยินอะไร ก่อนจะส่งเสียงออกมาเบา ๆ ว่า “หืม?” ด้วยน้ำเสียงนี้ ทุกคนที่อยู่ข้างหลังเขาต่างยืนสงบนิ่งทันที แล้วเอามือปิดปากของตัวเองไว้
เสียงเบา ๆ นี้ทำให้ถังซือซือที่ได้ยินยังรู้สึกประหม่า จนร่างกายหนักอึ้ง
น่ากลัวมาก! เธอไม่สามารถควบคุมร่างกายและข่มความรู้สึกกลัวไว้ได้ ความรู้สึกแบบนี้ช่างอึดอัดจริง ๆ
ทางด้านของเซียวเฉินเยวียน ดูเหมือนเขาไม่ได้อยากทำให้เธอต้องดูแย่ในสายตาใคร
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง ถังซือซือเงยหน้าขึ้นแล้วมองดูคฤหาสน์หรูหราที่กว้างขวางใหญ่โต และดูน่าเกรงขามอย่างรอบคอบอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นาน ขณะที่ทุกคนนึกสงสัยในใจว่าเธอกำลังมองไปรอบ ๆ ห้องโถงเพื่อหาอะไร และกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ ในที่สุดถังซือซือก็พูดขึ้นเสียงดังว่า
“ฉันไม่ต้องการ”
เธอไม่ต้องการให้คนอื่นตัดสินว่าตัวเองเป็นคนที่จงใจหลอกเอาค่าเสียหายจากผู้ชายคนนี้
หา?! ทันทีที่คำตอบของเธอออกจากปาก ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ เซียวเฉินเยวียนต่างแปลกใจ แล้วมองเธออย่างสงสัย
ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนยื่นมือของเขาออกไปด้านข้างแล้วคลายมือออก กู่ชวนเห็นดังนั้นจึงรีบยื่นปากกาชั้นดีที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ให้เขาทันที
เขาโน้มตัวลงแล้วเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษ หลังจากนั้น กู่ชวนเข้าไปหยิบกระดาษที่มีลายลักษณ์อักษรนั้นแล้วส่งให้ถังซือซือ
โดยกระดาษนั้นเป็นเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งล้านหยวน
ถังซือซือเหลือบไปดูเช็ค เพื่อตรวจสอบว่าเป็นของปลอมหรือเปล่า
มู่ซูเสียน แม่ของเจ้าของร่างเดิม ยังคงก้มหน้าก้มตาพยายามทำความสะอาดบ้านไปทีละหลัง ภายใต้สายตาที่ดูถูกและจ้องแต่จะคอยสั่งการ บ้านเช่าที่พวกเขาอาศัยอยู่ยังคงมีรอยรั่วและเต็มไปด้วยแมลงสาบ ทั้งยังมีหนูวิ่งไปทุกที่ คืนนี้อาหารก็คงเป็นผักดองกับซาลาเปาอีกตามเคย
เธอกะพริบตาปริบ ความคิดของเธอกำลังชั่งใจระหว่างสวรรค์กับนรก เธอคิดว่าไม่สามารถรับเช็คนี้ไว้ได้ ด้วยความสบายใจของตัวเธอเอง ในท้ายที่สุด เธอก็หาเหตุผลให้กับตัวเองที่จะปฏิเสธการรับเช็คนี้ แล้วคืนให้เขาไป
เซียวเฉินเยวียนเอียงศีรษะแล้วจ้องมองมาที่เธออย่างเฉียบขาด
ถังซือซือถูกจ้องมองด้วยดวงตาที่ดูมีเสน่ห์แต่ก็แฝงไปด้วยความน่ากลัวอยู่เล็กน้อย ใบหน้าของเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แต่เธอเลือกที่จะข่มความกลัวแล้วสบตาเขากลับอย่างตรงไปตรงมา โดยสัญชาตญาณแล้ว เธอคิดว่าผู้ชายคนนี้จะไม่ทำให้ผู้หญิงต้องอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
ย่านเมืองเก่า
รถเก๋งคันหรูสีเทาขับมาจอดอยู่ตรงหน้าปากซอยที่ทั้งมืดทั้งอับชื้น
ถังซือซือก้าวลงมาจากรถ หลังจากนั้นรถก็ขับห่างออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกลัวว่าถ้าตัวเองอยู่ในสถานที่แบบนี้นาน จะต้องแปดเปื้อนสิ่งสกปรกบางอย่างเข้า