ยัยตัวร้ายกับนายสุดโหด - บทที่ 27 เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
บทที่ 27
เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
เมื่อพวกเธอเห็นรอยสักรูปกากบาทตรงข้อเท้า พันหม่าลี่ขมวดคิ้วแล้วร้องโวยวายเสียงดังทันที
นอกจากนี้ ตั้งแต่หัวจรดเท้ามีรอยฟกช้ำสีม่วงเขียวคล้ำมากมาย ทำให้เมื่อยิ่งมองยิ่งรู้สึกน่ากลัว
สุดท้ายแล้วพันหม่าลี่ได้รู้ว่าตัวเองโหดเหี้ยมมากแค่ไหน!
“ไม่นะ…” หวงหมาวและเป้าจ้าต่างส่งเสียงคร่ำครวญขณะที่พวกเขากำลังดึงกระสอบออกมา ถังซือซือเห็นแบบนั้นก็แทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว
เมื่อกระสอบถูกดึงออกมา
เผยให้เห็นร่างของหลี่จิ้งอี๋ในสภาพดวงตาแข็งทื่อ นอนขดตัว และมีอาการสั่นไปทั่วร่าง สภาพเธอในตอนนี้บอกไม่ได้เลยว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มอันธพาลหญิงจริงรึเปล่า?
เสื้อผ้ายับยู่ยี่ทั้งตัว มีแต่รอยฟกช้ำกับทรงผมที่ดูยุ่งเหยิง น้ำตาของเธอทำให้เมคอัพบนหน้าละลายจนดูเหมือนผี ด้วยสภาพนี้เธอสามารถไปเที่ยวงานปาร์ตี้วันฮาโลวีนได้เลยโดยไม่ต้องแต่งหน้าเพิ่ม
นอกจากรอยฟกช้ำแล้ว พอเปิดดูตามร่มผ้าก็พบว่าแม้แต่ผิวพรรณที่อยู่ภายใต้ร่มผ้ายังมีรอยฟกช้ำด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีถุงเท้าส่งกลิ่นเหม็นอับสีแดงสดอุดปากอยู่ด้วย ซึ่งสีตรงกันกับถุงเท้าอีกข้างหนึ่งของถังซือซือ
เป้าจ้ารู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูกก่อนเอื้อมหยิบถุงเท้าออกจากปากของหลี่จิ้งอี๋ หลังจากนั้น หลี่จิ้งอี๋ก็ร้องไห้ออกมา ราวกับว่าเธอได้รับความเจ็บปวดทางกายอย่างรุนแรง
พันหม่าลี่มองหลี่จิ้งอี๋ที่สภาพเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในใจพันหม่าลี่รู้สึกโกรธที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน แล้วกลัวว่า หลี่จิ้งอี๋จะหันหลังให้กับเธอ กังวลว่าพ่อแม่ของอีกฝ่ายจะเรียกร้องค่าเสียหายมากมาย
พันหม่าลี่อดรู้สึกโกรธตัวเองไม่ได้ เธอนึกขึ้นได้ว่าจะ ถังซือซือจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย สายตาเหลือบไปเห็นไม้แบดมินตันที่อยู่ถัดจากถังซือซือพอดี
“ฉันจะตีแกให้ตาย!”
ถังซือซือสงบนิ่งอย่างใจเย็น ก่อนจะเหยียดมือซ้ายออกไปด้วยความเร็วสูง ตบไม้แบดมินตันในมือของพันหม่าลี่จนร่วงลงกับพื้นทันที
“ตึง!” ไม้แบดมินตันชื่อดังที่ลือกันว่ามีคุณภาพดีนักหนาแตกหักออกเป็นสองท่อน จนทุกคนตกตะลึง!
อีกมือหนึ่งของถังซือซือรีบเอื้อมออกไปคว้ามือของ พันหม่าลี่ไว้
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!” พันหม่าลี่ส่งเสียงร้องออกมาเหมือนหมูโดนเชือด เธอคุกเข่าลงกับพื้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดเผือดราวกับกระดาษ
แค่ถังซือซือออกแรงเล็กน้อย ข้อมือของพันหม่าลี่ก็พลิกจนเคล็ดขัดยอก
พันหม่าลี่กลัวจนถึงขีดสุด เหงื่อไหลออกมาทั่วใบหน้า ท่วมตัวจนเปียกโชกเสื้อผ้าไปหมด!
“ไม่ๆๆ!”
หวงหมาวรีบวิ่งหนีออกจากประตูไปอย่างไม่คิดชีวิต ถังซือซือหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนสวนกลับด้วยลูกเตะอันสวยงามเข้าไปเต็มรักกลางอกของหวงหมาวทันที
หวงหมาวล้มลงนอนกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ปวดร้าวเหมือนอวัยวะภายในจะแหลกเป็นเสี่ยง ๆ
ในขณะที่เป้าจ้ากำลังดูอาการหลี่จิ้งอี๋ จู่ ๆ ร่างก็สั่นเทาด้วยความกลัวเมื่อเผลอเหลือบไปสบตาถังซือซือ ทั้งยังสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไปจนหวาดกลัวและไม่กล้าลุกหนีไปไหน
เดิมทีหวงหมาวและเป้าจ้าคอยติดตามหลี่จิ้งอี๋เสมอมา แต่พอผู้นำพ่ายแพ้ พวกเธอหรือจะกล้าลงมือด้วยตัวเองได้?
ความกลัวเริ่มกัดกินหัวใจของพวกเธอรวมถึงพันหม่าลี่ด้วย แม้แต่ตอนนี้พันหม่าลี่ก็ไม่สามารถโต้กลับอะไรได้เช่นกัน
พวกเธอทั้งหมดถูกความกลัวครอบงำจนสมบูรณ์!
เมื่อถังซือซือมองสีหน้าพันหม่าลี่อีกครั้ง สีหน้าของเธอดูเหมือนทำใจรับไม่ได้ที่เจอการสวนกลับแบบนี้
พันหม่าลี่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าถังซือซือจอมขี้ขลาดคนนี้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างไม่น่าเชื่อ!
ถังซือซือรู้สึกขบขันในใจ เพราะเธอเคยเป็นนักสู้ระดับปรมาจารย์ก่อนที่จะมาเกิดในโลกใหม่นี้ ความแข็งแกร่งของชาวดาวเคปเลอร์นั้นมากกว่าผู้คนบนโลกนี้อยู่มาก แม้ว่าร่างกายในตอนนี้จะอ่อนแอปวกเปียกก็ตาม แต่ก็ยังสามารถฟื้นฟูแล้วสร้างความแข็งแกร่งขึ้นใหม่ได้
“คุกเข่าลง!” ถังซือซือตะโกนออกไปด้วยความโกรธ เสียงดังมาก จนทำให้ทุกคนหูหนวกไปครู่หนึ่ง!
“ดะ เดี๋ยวก่อน!” หวงหมาวและเป้าจ้าคุกเข่าลงบนพื้นทันที ราวกับยอมจำนนต่อผู้ที่แข็งแกร่งกว่า
พวกเธอเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าจะยังติดสอยห้อยตาม หลี่จิ้งอี๋ต่อไปดีรึเปล่า? เพราะผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอนั้นคู่ควรแก่การติดตามมากกว่า
ถังซือซือถุยเศษขนมในปากลงพื้น ก่อนเหลือบมองไปที่เตียงของเธอ
หึ
ร่องรอยเย้ยหยันอันน่ากลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้า