ยัยตัวร้ายกับนายสุดโหด - บทที่ 14 นายไม่เห็นเหรอ
บทที่ 14
นายไม่เห็นเหรอ
บรรยากาศแปลก ๆ กับกลิ่นเหม็นคาวลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง ทำให้ถังซือซือเกือบสำลักออกมา
“นี่… คือบรรยากาศห้องวีไอพีจริง ๆ เหรอ?”
“ทำไมพวกคนรวยถึงใช้เงินกันแบบนี้? ใช้เงินซื้อความสุขในทางที่ผิดเนี่ยนะ”
ถังซือซือรู้สึกไม่เข้าใจนิสัยของคนพวกนี้เอาซะเลย
ไฟภายในห้องมีความสลัวและไม่สว่างมากนัก ด้านในมีโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมกับกลุ่มคนนั่งอยู่ในเงามืด
ถังซือซือไม่สามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ภายในห้องได้ชัด เธอจึงรีบเดินตรงไปที่กองสิ่งสกปรกตรงกลางห้องแล้วเริ่มทำความสะอาดทันที
ชายหนุ่มดูมีภูมิฐานร่ำรวยหลายคนแสดงสีหน้าเบื่อหน่าย แล้วเริ่มพูดคุยกันต่อหน้าถังซือซือ
“หึ! เจ้าหนุ่มคนนี้มันไม่ได้เจ้าชู้อย่างที่คิดไว้ ฉันดูเหมือนเป็นคนเลวเลยว่ะถ้าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบ”
หลินอี้ปินเป็นชายหนึ่งในกลุ่มเริ่มพูดขึ้นมา
“ช่างมันสิ นายรู้อยู่แล้วว่าอะไรจะเกิดก็เกิดขึ้นได้ อย่าเพิ่งยอมแพ้สิ”
เล่ยเจ๋อเหยียนตอบเขาเสร็จ ก็หันกลับมาก้มหน้าก้มตาแชทกับผู้หญิง
“ฉันรู้สึกอนาถตัวเองชะมัด? ในที่สุดพ่อก็ยอมปล่อยให้ฉันเที่ยวได้สักที และแล้วฉันก็มานั่งเมาอยู่ที่นี่”
เจียงเชิ้งหนานเมาละเมอพูดออกมา ก่อนทรุดตัวลงบนโซฟา แล้วมองดูบนผลงานชิ้นเอกของเขาบนพื้น
“เอาจริงนะ… เจ้าหนุ่มคนนั้นไม่เคยเข้าใกล้ใครหรือถูกใครเข้าใกล้มาก่อนเลยตั้งแต่ยังเด็ก แล้วดูเหมือนจะไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยด้วย ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนแบบ อี๋! อย่ามาถูกเนื้อต้องตัวฉันนะไอ้พวกสกปรก!”
หลินอี้ปินอดไม่ได้ที่จะพูดเสริมต่อว่า
“นาน ๆ ทีจะมีผู้หญิงสวย ๆ แล้วจะไม่ให้ฉันอดใจได้ยังไงล่ะ? ให้ตายเถอะ น่าหงุดหงิดชะมัด! สุดท้ายแล้ว… ฉันก็ไม่ได้ดีลผู้หญิงเลย ขนาดเส้นผมยังไม่ได้ดม เพราะฉันกลัวสายตาที่มันมองมา”
หลินอี้ปินยังคงรู้สึกหงุดหงิด และสีหน้าที่ไม่พอใจ
“ฉันต้องการผู้หญิง… เฮ้ วันนี้คนนั้นอยู่รึเปล่า?” ดวงตาของเจียงเชิ้งหนานพร่ามัวมาก เมื่อเขาชำเลืองมองถังซือซือ เขากลับเห็นว่าเธอดูเป็นเด็กสาวที่ต้องการมาบริการเขา
อีกสองคนมองมาที่ถังซือซือ “จัดเลยเพื่อน” พูดออกมาพร้อมกัน
“แล้วแต่นายละกัน! ไม่สวยแบบนั้นยังเรียกเด็กบริการได้ด้วยเหรอ?”
ผู้หญิงในอุดมคติของพวกเขาคือผู้หญิงที่น่าเย้ายวนกับเส้นผมพลิ้วไหว มีรูปร่างดีมีเสน่ห์
“แต่นายไม่เห็นเหรอ? ใบหน้าเธอมีสิว ฝ้า กระ เต็มไปหมด แล้วก็มีร่างกายผอมแห้ง ไม่เห็นจะน่าดูเลย”
“มันอาจจะเบื่อแล้วก็ได้มั้งอี้ปิน ทำไมไม่ลองใช้โอกาสนี้ลองของแปลกดูล่ะเชิ้งหนาน?”
หลินอี้ปินถามถังซือซือว่า
“นี่คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่ามีแฟนแล้วรึยังจ๊ะ?”
ถังซือซือทำเป็นไม่สนใจคนพวกนี้ แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอเห็นว่ามีผู้ชายสองคนกำลังจ้องมองมาที่เธอด้วยความหื่นกระหาย เธอจึงตอบไปว่า “ไม่” แต่มันดูคลุมเครือสำหรับพวกเขาเมื่อได้ยิน
หลินอี้ปินเข้าใจว่าไม่มีแฟน จึงชี้ไปที่เจียงเชิ้งหนานแล้วพูดขึ้นว่า
“นี่ไง ผู้ชายหล่อเหลาคนนี้ล่ะ ทรัพย์สินส่วนตัวของเขาเป็นพันล้านเลยนะ! แค่เป็นแฟนของเขาก็สบายไปทั้งชาติแล้ว ไม่สนใจเหรอ?”
ถังซือซือส่ายหัว ก่อนเมินหน้าหนีไป
หลินอี้ปินชี้ไปที่เล่ยเจ๋อเหยียนแล้วพูดต่อว่า “แล้วนี่ล่ะ! เขาดูน่าสนใจดีกว่าคนเมื่อกี้อีก! คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับบริษัทเล่ยถิงไหม? ครอบครัวของเขาเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทนี้เชียวนะ!”
ถังซือซือเริ่มรู้สึกไม่พอใจมาก ๆ ‘พวกนี้มันนิสัยเสียมาจากไหนกัน?’
“คุณผู้หญิงเงินเดือนน้อยที่น่าสงสาร ไม่มีเวลาให้ความสุขกับพวกเราเลยเหรอ?”
เธอตอบกลับเสียงดัง “ฉันไม่สนใจ!”
ชายหนุ่มสามคนแสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับพวกเขา ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะยอมแพ้ต่อเงินมหาศาลที่ตัวเองไม่มีวันหาได้ แต่ทำไมครั้งนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น? เพราะผู้หญิงคนนี้แทบจะไม่สนใจอะไรพวกเขาเลย
“เฮ้ ลองบอกฉันมาสิสาวน้อย อยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา?”
ในเวลานี้ กลุ่มชายหนุ่มร่างผอมบางลุกออกมาจากที่นั่งในมุมมืด
ถังซือซือรู้สึกคุ้นเคยถึงบรรยากาศจากใครบางคนในกลุ่มนั้น เธอจึงเงยหน้าขึ้นดู
ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้น
ชายคนหนึ่งในกลุ่มนั้นสวมชุดลำลองที่มีการตัดเย็บอย่างประณีต เส้นผมสีดำเข้ม ใบหน้าอันหล่อเหลาจนน่าเหลือเชื่อ จมูกโด่งตามฉบับนายแบบ ริมฝีปากสีเชอร์รี่อ่อน ๆ ด้วยภาพลักษณ์แบบนี้ เป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะต้านทาน
‘เซียวเฉินเยวียน ไม่จริงน่า ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?’