ยัยตัวร้ายกับนายสุดโหด - บทที่ 12 แสดงความแข็งแกร่ง
บทที่ 12
แสดงความแข็งแกร่ง
หยานเจ๋อยังคงนั่งนิ่งเงียบแล้วมองถังซือซือด้วยความสงสัย
ถังซือซือเพิ่มระดับเสียง ก่อนพูดเสียงดังขึ้นอีกครั้งว่า “อาจารย์คะ หนูไม่ได้โกงจริง ๆ ค่ะ”
อาจารย์ทุกคนที่กำลังอ่านข้อสอบของเธอ ทุกคนหยุดอ่านในทันทีแล้วหันไปมองถังซือซือ
อาจารย์บางคนสังเกตเห็นจุดผิดปกติได้ ว่าถังซือซือคนนี้ ทำไมถึงดูเปลี่ยนไปจากเดิมมาก?
แต่ทุกคนไม่สามารถบอกได้ว่ามีอะไรแตกต่างไปจากเดิม เพราะถังซือซือในอดีตนั้น ทุกครั้งที่พวกเขาพบเธอ ถังซือซือจะชอบยืนหลังค่อม แล้วไม่ชอบเงยหน้าขึ้นมามองกับคนที่สนทนาด้วย รวมไปถึงหน้าม้าอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ เพราะเธอจะใช้หน้าม้าปิดหน้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา เมื่อเธอพูดอะไรขึ้นมา เสียงก็ดูเหมือนคนพูดไม่รู้เรื่อง พูดตะกุกตะกัก ซึ่งตอนนี้มันต่างจากเดิมมากเพราะเธอเปิดหน้าม้าขึ้น แล้วพูดเสียงดังฟังชัดด้วยความมั่นใจ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีอาจารย์บางคนสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอได้เช่นกัน
ผ่านไปครู่หนึ่ง หยานเจ๋อพูดขึ้นด้วยความสบายใจว่า
“ถังซือซือ อาจารย์ไม่ได้จะบอกว่าคุณโกงหรอกนะ แต่ในที่สุดคุณก็กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง อาจารย์พูดถูกใช่ไหม?”
เมื่อประโยคนี้ดังออกมา อาจารย์ทุกคนรวมถึงถังซือซือก็ต่างแปลกใจ
หยานเจ๋อเห็นถังซือซือไม่ตอบกลับมา เขาจึงหันกลับไปเปิดห้องเก็บของ
ตู้เก็บเอกสาร เขาเปิดหาเอกสารบางอย่าง หลังจากนั้น เขาเดินกลับมาพร้อมกับกระดาษประมาณสองถึงสามแผ่น
“มาดูสิ นี่คือกระดาษข้อสอบของคุณ ตั้งแต่ชั้นปีที่หนึ่งถึงสาม บอกอาจารย์ซิว่าคุณเห็นอะไรบ้าง?”
อาจารย์ทุกคนรวมถึงถังซือซือ พวกเขาเข้ามาดูกระดาษข้อสอบจากหยานเจ๋อ แล้วตรวจสอบดูทีละแผ่น
ถังซือซือตกใจและแปลกใจไปพร้อมกัน
“กระดาษข้อสอบนี่… มันเว้นว่างไว้เยอะมาก! หยานเจ๋อ คุณพยายามจะอธิบายอะไรเหรอ?”
“ฉันก็คิดเหมือนคุณนะว่ามันหมายถึงอะไร…”
หยานเจ๋อนิ่งเงียบ และไม่ยอมอธิบายในทันที
ในที่สุดอาจารย์คนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า
“ฉันเห็นแล้วว่า กระดาษข้อสอบทั้งหมดของถังซือซือ ถ้าดูคำตอบอื่นแต่ยกเว้นในส่วนที่เว้นว่างไว้ เธอตอบได้ดีมากเลยนะ”
เมื่ออาจารย์คนอื่น ๆ ได้ยิน พวกเขาก็หันมาให้ความสนใจกับคำถามที่ถังซือซือตอบ
“พออ่านแล้ว คำตอบมันดูเป็นระเบียบมาก ทั้งยังมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้อีกด้วย”
“แล้วทุกคำถามที่เธอตอบไป ได้รับคะแนนเต็มสำหรับคำถามนั้นทุกข้อ”
“นี่มันไม่เหมือนคำตอบของนักศึกษาในอันดับท้าย ๆ เลยนะ”
“ฉันเชื่อเลยว่านักศึกษาที่สอบเข้าหนานซานได้ต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่าง”
ความจริงแล้ว มหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องเกรดมากนัก เช่นเดียวกับถังซือซือ เธออยู่อันดับท้ายสุดของการสอบทุกครั้ง นอกจากนี้ เธอยังไม่มีผลงานโดดเด่นอะไรเลยหลังจากเข้าเรียนมาได้สามปี แต่อาจารย์หลายคนนั้นจัดประเภทให้เธออยู่ในประเภทการเรียนรู้ช้า และความสามารถน้อย
“ไม่เคยคิดเลยว่าถังซือซือจะ…”
เมื่อหยานเจ๋อเห็นทุกคนขมวดคิ้ว เขาจึงหันมาหา ถังซือซือแล้วพูดขึ้นว่า
“ไม่ว่าคุณจะต้องทนทุกข์ทรมานกับอดีตมากแค่ไหน คุณเลือกจะยอมแพ้ให้กับตัวเองตลอด แต่ตอนนี้ไม่แล้ว คุณเลือกที่จะแสดงความแข็งแกร่งจริง ๆ ของตัวเองออกมา แล้วอาจารย์เองก็มีความสุขมากที่ได้เห็น อาจารย์หวังว่าคุณจะรักษาหัวใจที่สู้สุดตัวนี้ไว้ รักษาและใช้มันจนกว่าจะสำเร็จการศึกษานะถังซือซือ”
“แล้วอย่าลืมตัวตนของตัวเองล่ะ คุณเป็นถึงวัยรุ่นยอดนักกวีสุดเก่งกาจคนหนึ่งจากเมือง F เลยนะ”
หลังจากหยานเจ๋อพูดจบ ดวงตาของถังซือซือก็พลันสว่างขึ้นทันทีเหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน
อาจารย์รอบข้างต่างแสดงความประหลาดใจออกมา “ทำเป็นเล่นไป?”
“อาจารย์จำได้ว่าคุณเลือกอาจารย์เป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์จบการศึกษา หวังว่าคุณจะเขียนออกมาได้ดีแล้วไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังนะ”
“ค่ะ อาจารย์หยาน”
ถังซือซือเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ด้วยรอยยิ้ม เล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอ
“นี่ฉันกำลังเห็นอะไรอยู่เนี่ย? นี่มันบ้าไปแล้ว! นังคางคกนั่นกำลังยิ้มเหรอ?”
“หยานเจ๋อคุยอะไรกับมัน? นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันเห็นคนเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์ด้วยรอยยิ้ม”