พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 600 ไม่ควรทำให้ขุ่นเคือง
ตอนที่ 600
ไม่ควรทำให้ขุ่นเคือง
หลังจากถงเหมี่ยวเหมี่ยวกลับมา เธอก็ไม่ได้ยุ่งอยู่กับการส่งงานและออกไปเที่ยวเล่นตลอดสองวันหลังจากกลับมา
กู้ชิงบอกว่าช่วงนี้ที่บริษัทไม่ค่อยมีงานอะไร
คราวเมื่อเธอเดินทางไปต่างประเทศก็มีเอกสารแค่ไม่กี่ฉบับเท่านั้น
กู้ชิงเป็นคนจัดการมันทั้งหมดด้วยตัวเอง
เนื่องจากไม่ต้องรีบร้อน เธอก็อยากจะพักผ่อนให้เต็มที่
ทำงานที่บริษัทมายาวนานก็ควรจะได้รับผลตอบแทนบ้าง
พักผ่อนต่อดีกว่า ไม่เป็นไรหรอก
แน่นอนว่าคนแรกที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวติดต่อหาคือ อินอวี่โหรว
พวกเธอไม่ได้เจอกันมานานแล้ว และคิดถึงกันมาก
อินอวี่โหรวก็คิดถึงเธอ ช่วงนี้เกิดเรื่องขึ้นมากมาย เธอจึงอยากจะไปคุยกับถงเหมี่ยวเหมี่ยว
เธอเก็บข้าวของและออกไปหาถงเหมี่ยวเหมี่ยวทันที
ลู่ซีจวี๋ยังอยู่ที่บ้านตระกูลอิน
เข่าของเขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เขาจึงต้องการพักฟื้นอยู่ที่นี่ต่ออีกสองวัน
แต่เมื่อเห็นอินอวี่โหรวแต่งตัวสวย เขากลับรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ
เขาลุกขึ้นยืนและเดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปหา อินอวี่โหรว “อวี่โหรว จะไปไหน?”
“เหมี่ยวเหมี่ยวกลับมาแล้ว ฉันจะไปหาเธอสักหน่อย” อินอวี่โหรวอยากเจอถงเหมี่ยวเหมี่ยวจะแย่แล้ว
ขณะเดียวกันเธอสังเกตเห็นว่าน้ำเสียงของลู่ซีจวี๋ดูผิดปกติไป เธอจึงเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าลู่ซีจวี๋กำลังขมวดคิ้ว
เธอจึงอธิบายว่า “ในเมื่อฉันสัญญากับคุณแล้ว ฉันก็จะรักษาสัญญา ไม่ต้องห่วง”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมแค่กังวลนิดหน่อย…” กังวลว่าอินอวี่โหรวจะถูกคนอื่นลักพาตัวไป
อินอวี่โหรวแสนดีขนาดนี้
มีแค่คนเดียวในโลก
เขาจะไม่เฝ้าถนอมได้อย่างไร?
เมื่อก่อนเขาอาจจะโง่เขลา แต่ตอนนี้ใช่ว่าเขาจะโง่เขลาสักหน่อย
และในเมื่อเธอเคยเห็นของเขา ตอนนี้ก็ยังเป็นของเขาอยู่
“เอาล่ะ ไม่ต้องกังวล ฉันขอตัวก่อน” อินอวี่โหรวอารมณ์ดีมากเมื่อรู้ว่าจะได้เจอถงเหมี่ยวเหมี่ยว แม้แต่การก้าวเท้าของเธอก็เบาบางลง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวกับอินอวี่โหรวนัดเจอกันหน้าร้านอาหารเสียบไม้
เมื่ออินอวี่โหรวมาถึง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็นั่งอยู่ที่นั่นแล้ว
พวกเธอเป็นแบบนี้ตลอด ไม่เคยปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งรอคอย
ไม่มีเงื่อนไขอะไรพิเศษ แค่คนที่นัดหมายมักจะมาถึงก่อน
อินอวี่โหรวเดินเข้ามา ยิ้มแย้มและพูดว่า “กลับมาได้แล้วเหรอ? ที่ประเทศวายมีอะไรน่าสนใจบ้าง? ถึงได้ไปอยู่ที่นั่นนานขนาดนั้นน่ะ?”
“พูดถึงประเทศวายก็มีสถานที่สนุก ๆ เยอะเลย แต่มีอาหารให้เลือกกินน้อยไปหน่อย” หากอยากกินหม้อไฟหรืออาหารเสียบไม้ก็ต้องทำกินเอง
รสนิยมของคนในประเทศวายค่อนข้างจืดชืด
สำหรับเธอ ประเทศวายมีทิวทัศน์ที่สวยงามและผู้คนก็เป็นมิตรมาก
แค่ไม่มีอะไรกิน เธอจึงกลัวว่าเธอปรับตัวไม่ได้
ไม่รู้ว่าทำไมหลังจากเธอท้องเสี่ยวเป่า เธอก็ชอบกินอาหารพวกนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ
หากไม่ได้กินสักวันคงรู้สึกไม่สบายใจ
ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดว่าเธอจะเอาชีวิตรอดในประเทศวายได้อย่างไร
แต่หลังจากกลับมาพบเพื่อนฝูงและรวมตัวกันกินอาหารเสียบไม้ เธอก็ค้นพบว่านี่คือความสุขที่แท้จริง
อินอวี่โหรวใส่อาหารเสียบไม้ของโปรดของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวลงไปในน้ำซุปเผ็ดร้อน ส่วนของเธอเป็นน้ำซุปเผ็ดน้อย
คนชอบกินของหวานจะไม่ค่อยชอบกินอาหารรสเผ็ดมากนัก
“เห็นครั้งก่อนเธอบอกว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นที่ประเทศวาย น้ำเสียงดูเร่งรีบมาก มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” อินอวี่โหรวเป็นฝ่ายถามก่อน
แต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่เล่า เธอก็เลยถามด้วยความลำบากใจ
หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องร้ายแรงและเจ็บปวดล่ะจะทำยังไง?
“จริง ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรหรอก” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสตูดิโอ
เธอหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญและเล่าเรื่องให้เบาลง
เรื่องทั้งหมดมันจบลงแล้ว
ไม่มีประโยชน์ที่จะเอาเก็บมานั่งคิด
“ว้าว เหมี่ยวเหมี่ยว เธอเก่งจัง ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอออกแบบเป็นด้วย? แต่ทำไมคนคนนั้นถึงทำขนาดนี้ล่ะ ถ้าเกิดเธอทำไม่ได้ สตูดิโอจะต้องเดือดร้อนไม่ใช่เหรอ” อินอวี่โหรวถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ และรู้สึกขุ่นเคืองที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวต้องเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ดังกล่าว
“ไม่มีอะไรหรอก เรื่องมันจบลงแล้ว อีกอย่างเธอไม่ได้เป็นคนไม่ดี เธอมาช่วยฉันทีหลังและเราก็กลายเป็นเพื่อนกัน” เมื่อหวนนึกถึงบุคลิกที่มีชีวิตชีวาของแซนดี้ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็อดยิ้มไม่ได้
เนื่องจากถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่ได้สนใจคนคนนั้น อินอวี่โหรวก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
เธอกินอาหารเสียบไม้เงียบ ๆ
แน่นอนว่าการกินอาหารกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวถือว่าเป็นสิ่งที่สบายใจที่สุด
เธอไม่จำเป็นต้องสนใจภาพลักษณ์และไม่ต้องรักษากฎเกณฑ์
แค่ทำตามหัวใจ
แม้ว่าอินอวี่โหรวจะถูกเลี้ยงดูมาโดยป้องกันไม่ให้เธอทำอะไรหยาบกระด้าง แต่ชีวิตที่ไร้กฎเกณฑ์แบบนี้ก็สะดวกสบายมาก
“ว่าแต่ฉันยังไม่ได้ถามเธอเลย แล้วที่เมืองเป่ยเป็นยังไงบ้าง” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวมั่วยุ่งอยู่ในประเทศวายและไม่ได้ติดต่อกับอินอวี่โหรวมากนัก
อินอวี่โหรวก็ไม่ได้สนใจเช่นกัน
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้สึกว่าถ้าอินอวี่โหรวมีเรื่องอะไร เธอจะเป็นฝ่ายเล่าให้ฟังก่อน
ถ้าไม่เล่าก็น่าจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
“ก็ดี” จากนั้นอินอวี่โหรวก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับฉินคั่วและ ลู่ซีจวี๋
เธอเล่ามันเกือบทั้งหมด และรู้สึกได้ว่าตัวเองหน้าแดงเมื่อเล่าเรื่องบางอย่าง
แต่ต่อหน้าถงเหมี่ยวเหมี่ยว เธอไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรจริง ๆ
“อะไรนะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจ้องมองอินอวี่โหรวด้วยสายตาเหลือเชื่อ เสียงของเธอสูงขึ้นเล็กน้อย
จนกระทั่งคนในร้านอาหารเสียบไม้หันมามอง ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ตระหนักได้ว่าเธอเพิ่งกระทำสิ่งที่น่าละอายลงไป
เธอพูดขอโทษขอโพยคนที่มองมาสองสามรอบ และลดระดับเสียงลง “รุ่นพี่คุกเข่าต่อหน้าเธอจริง ๆ เหรอ พระเจ้า ไม่อยากเชื่อเลย”
หากเป็นคนอื่นเธอคงจะไม่แปลกใจแบบนี้ เพราะ ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรู้จักลู่ซีจวี๋ดี
ลู่ซีจวี๋เป็นคนที่ยอมตายมากกว่ายอมจำนน เขาไม่ทางยอมอ่อนข้อให้คนอื่นง่าย ๆ แล้วทำไมเขาถึงยอมคุกเข่าลงล่ะ?
นึกไม่ถึงว่าเขาจะยอมคุกเข่าต่อหน้าอินอวี่โหรว
มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากจริง ๆ
ดูเหมือนว่าความชอบของลู่ซีจวี๋ที่มีต่ออินอวี่โหรวจะเป็นเรื่องจริง
ทำถึงขั้นนี้แล้วจะมาบอกว่าไม่ชอบได้อย่างไร
เพื่อที่จะได้รับการอภัยจากอินอวี่โหรว ลู่ซีจวี๋ถึงกลับยอมเสียสละทำเรื่องที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ
“ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ฉันสัญญากับเขาว่าจะไม่ไปยุ่งกับใคร แต่ฉันก็รู้สึกว่าแบบนี้มันไม่ดี” เธอคิดว่าหลังจากหย่าร้างกันแล้ว เธอจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับลู่ซีจวี๋อีก
เธอนึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาพัวพันแบบนี้
“ไม่ดีตรงไหน เขาชอบเธอก็เรื่องของเขาสิ เธอสนใจแค่ตัวเธอก็พอ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูด
พูดแบบนี้ก็ได้อยู่
แต่การที่ผู้ชายเย่อหยิ่งและจองหองคุกเข่าลงต่อหน้า มันก็ยากจริง ๆ ที่จะไม่รู้สึกซาบซึ้งใจ
“เหมี่ยวเหมี่ยว เธอว่าฉันยกโทษให้เขาดีมั้ย? ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้ว ไหนจะฉินคั่วอีก” อินอวี่โหรวมีสีหน้าเศร้าใจ
ตอนนี้เธอรู้สึกไม่สบายใจทุกวันเลย
พวกเขาทั้งสองเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่อยู่รอบตัวเธอทุกวัน
ไม่รู้ว่าวันไหนจะฟิวส์ขาดติดประกายไฟและระเบิดขึ้นมา
คนอื่นอาจจะคิดอิจฉาที่ชายหนุ่มผู้โดดเด่นสองคนแข่งขันกันแย่งชิงเธอ
แต่อินอวี่โหรวพบว่าเรื่องดังกล่าวมันเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากจริง ๆ
โดยเฉพาะสองคนที่ไม่ควรทำให้ขุ่นเคืองง่าย ๆ
“ถ้าถามฉันว่าคิดยังไง ฉันรู้สึกว่าบางทีฉินคั่วก็เหมือนจะชอบเธอแต่ก็ไม่ได้ชอบเธอ เหมือนจะใกล้ชิดแต่ก็ห่างเหิน ฉันรู้สึกว่าผู้ชายประเภทนี้จับยาก ส่วนรุ่นพี่ เขาคุกเข่าลงให้เธอแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ชอบเธอ ฉันว่ารุ่นพี่ยังดูน่าเชื่อถือมากกว่าฉินคั่วนะ” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวแสดงความคิดเห็น
อินอวี่โหรวฟังความคิดเห็นดังกล่าวและตกอยู่ในห่วงความคิด