พันธสัญญาลวงรัก - ตอนที่ 350 เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะลงมือก่อเหตุ
ตอนที่ 350
เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะลงมือก่อเหตุ
หลังจากงานเลี้ยงจบลง เริ่นตงซวี่ก็ถามหลัวฉิงคงเกี่ยวกับเรื่องของมู่อวี้เฉิง
คำพูดของอินอวี่โหรวเป็นเหมือนกับหนามทิ่มแทงอยู่ในใจของเขา
เริ่นตงซวี่เป็นคนมีศักดิ์ศรี เขาไม่สามารถทนเห็นคนรักของเขาวิ่งไล่ตามผู้ชายคนอื่นได้
หลัวฉิงคงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “สองครอบครัวเคยพยายามจับคู่ให้พวกเรามาก่อน ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้หรอก เธออิจฉาฉันไม่อยากเห็นฉันมีความสุขก็เลยพยายามใส่ร้ายฉัน ตงซวี่ คุณก็รู้ว่าคนเดียวที่ฉันชอบคือคุณ”
ในอดีตหลัวฉิงคงเป็นผู้หญิงที่จีบยากที่สุดในมหาวิทยาลัย เธอเรียนเก่งและหน้าตาดี เธอจึงกลายเป็นแสงจันทร์ส่องสว่างอยู่ในใจของผู้ชายทุกคน
แต่ตอนนี้หลัวฉิงคงกำลังพยายามเอาอกเอาใจเขาอยู่ แล้วเริ่นตงซวี่จะทนไหวได้ยังไง?
เขาเลิกคิดถึงเรื่องดังกล่าวและเอื้อมมือออกไปดึง หลัวฉิงคงมาไว้ในอ้อมกอด
“ไม่ต้องห่วงนะ หลังจากนี้ผมจะไม่ปล่อยให้คุณต้องทนเสียใจกับความไม่ยุติธรรมอีก”
“คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน” หลัวฉิงคงยิ้ม แต่ดวงตาของเธอกลับเย็นชา
เริ่นตงซวี่ก็เป็นแค่ขั้นบันไดให้เธอก้าวขึ้นไปเท่านั้น
หากเริ่นตงซวี่ไม่มีประโยชน์อะไร เธอก็คงจะไม่พูดเกลี้ยกล่อมเขาแบบนี้
หลังจากกลับมาถึงบ้าน อินอวี่โหรวรีบโทรศัพท์หา ถงเหมี่ยวเหมี่ยวทันที
“ดีนะที่คืนนี้เธอไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยง หลัวฉิงคงนี่จริง ๆ เลย” อินอวี่โหรวโกรธมากเมื่อนึกถึงคำพูดของหลัวฉิงคง
“มีอะไรเหรอ? เธอไปเจอหลัวฉิงคงมาหรือไง?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอดจะหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเธอ
จากนั้นอินอวี่โหรวก็เล่าบทสนทนาของหลัวฉิงคงในงานเลี้ยงให้เธอฟัง
“ฉันรู้สึกว่าหลัวฉิงคงไม่ได้ดูง่าย ๆ เหมือนอย่างที่แสดงออก ไม่ไร้เดียงสา แถมยังเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย” ใครก็ตามที่ดูออกจะรู้ว่าหลัวฉิงคงจงใจพูดแบบนั้นต่อหน้าเธอ หล่อนต้องการยั่วยุเธอกับถงเหมี่ยวเหมี่ยวให้แตกแยกกัน
หากเธอไม่ใช่คนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ เธอคงจะหึงหวงจนไปเล่นงานถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจริง ๆ
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวรับรู้แผนการของหลัวฉิงคงมานานมากแล้ว “ไม่ต้องไปสนใจหรอก เธอก็ใช้ทางอ้อมแบบนี้มานานแล้ว”
หลัวฉิงคงเป็นคนบ้า ชอบคิดถึงด้านที่ไม่ดีของคนอื่นอยู่เสมอ
อันที่จริงเธอกำลังสงสัยว่าหล่อนหลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่อหรือเปล่า
มู่อวี้เฉิงที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำเห็นว่าถงเหมี่ยวเหมี่ยวกำลังกดวางสายโทรศัพท์
เขาจึงเข้ามาจูบคอระหงของถงเหมี่ยวเหมี่ยว “มีอะไรหรือเปล่า?”
เส้นผมของมู่อวี้เฉิงซุกไซ้อยู่ตรงคอของถงเหมี่ยวเหมี่ยวจนเธอหัวเราะออกมา “คุณทำอะไรคะ มันจั๊กจี้”
ทว่ามู่อวี้เฉิงไม่หยุด เขาฝังริมฝีปากลงบนซอกคอของเธอ จนใบหน้าของถงเหมี่ยวเหมี่ยวเป็นไปเป็นสีแดง
ผิวของถงเหมี่ยวเหมี่ยวขาวผ่องมากจนเห็นร่องรอยที่ทิ้งเอาไว้ชัดเจน
มู่อวี้เฉิงมองดูผลลัพธ์ด้วยความพึงพอใจ
เขากอดเธอไว้แน่น และถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ไม่ได้ดิ้นรนอะไร
ในเมื่อความสัมพันธ์เกินเลยมาถึงจุดนี้แล้ว ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ไม่อยากเสแสร้งอีกต่อไป
จะเสแสร้งทำไมล่ะ มันเหนื่อยจะตาย
“คุณยังไม่บอกผมเลยว่าเมื่อกี้ใครโทรมา?” มู่อวี้เฉิงหยิบเส้นผมของถงเหมี่ยวเหมี่ยวขึ้นมาพันเล่นที่ปลายนิ้ว
“คุณกำลังตรวจสอบฉันอยู่เหรอคะ?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจงใจพูดขึ้น
“ใช่ ทำไม? สามีจะตรวจสอบไม่ได้เหรอ?” มู่อวี้เฉิงพูดออกมาอย่างเปิดเผย
เขาโน้มปลายจมูกลงไปสัมผัสกับจมูกของ ถงเหมี่ยวเหมี่ยว พวกเขาอยู่ใกล้กันมากจนสามารถจูบกันได้
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวอยากจะปลีกตัวหนีจากลมหายใจร้อน แต่มู่อวี้เฉิงกลับคว้าท้ายทอยของเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอเคลื่อนตัวหนีไปไหน
เธอหงุดหงิดเล็กน้อยและพูดติดรำคาญว่า “ตอนนี้ยังไม่ใช่สักหน่อย”
ดวงตาของมู่อวี้เฉิงมืดมนลงทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาไม่ลังเลอีกต่อไปและโน้มตัวลงไปจูบเธอทันที
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพยายามดิ้นรน แต่มู่อวี้เฉิงกลับผลักเธอเข้าไปในอ้อมแขน
ในไม่ช้าถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็ยอมจำนน และนอนปวกเปียกอยู่ในอ้อมกอดของมู่อวี้เฉิง
หลังจากชุดนอนร่นขึ้นไปด้านบน มือใหญ่ของมู่อวี้เฉิงลูบไล้ไปตามส่วนเว้าและส่วนโค้ง
จนกระทั่งร่างกายแนบชิดกัน ถงเหมี่ยวเหมี่ยวก็กัดริมฝีปากแน่นขณะที่เผลอร้องออกมา “เบา ๆ”
“นี่ก็เบาแล้ว ช้า ๆ นะ” แม้ว่ามู่อวี้เฉิงจะพูดแบบนั้น แต่แรงกระแทกกลับหนักหน่วงขึ้นทุกครั้ง
ในตอนแรกถงเหมี่ยวเหมี่ยวยังต่อสู้กลับบ้าง แต่ตอนนี้เธอกลับนอนเงียบ ไม่มีแม้แต่แรงจะพูด
“อีกรอบมั้ย? นะ?” มู่อวี้เฉิงกระซิบข้างหูถงเหมี่ยวเหมี่ยว
“ไม่เอาแล้ว” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวส่ายหัว เอวของเธอแทบจะหัก
“อืม” มู่อวี้เฉิงตอบรับเบา ๆ แต่กลับเริ่มโจมตีรอบที่สองอีกครั้ง
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนอนร้องขอความเมตตาจากเขา เธอถูกเขาทรมานจนเผลอหลุดพูดคำที่น่าละอายแก่ใจออกไปทั้งหมด
ไม่ว่ามู่อวี้เฉิงจะลังเลแค่ไหน เขาก็ทำได้เพียงหยุดมองร่างของถงเหมี่ยวเหมี่ยว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเอนตัวเข้าไปหาอ้อมกอดของมู่อวี้เฉิงและหวนนึกถึงคำพูดของเธอก่อนหน้านี้ด้วยความอับอาย เธออายจนพยายามมองหารอยแตกที่พื้นเพื่อที่จะได้คืบคลานเข้าไปซ่อนตัว
“ที่รัก เดี๋ยวผมพาไปอาบน้ำนะ” มู่อวี้เฉิงพูดเบา ๆ
“ไม่ต้อง!” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจับเอวและเดินกะโผลกกะเผลกเข้าไปในห้องน้ำ
กว่าทั้งสองจะทำความสะอาดเสร็จก็ดึกมากแล้ว
ถงเหมี่ยวเหมี่ยวเม้มปากแน่น เธอจะไม่เชื่อคำพูดหลอกลวงของผู้ชายอันธพาลอีกต่อไป
“แล้วเมื่อกี้ใครโทรมา” มู่อวี้เฉิงถามต่อ
“ทำไมคุณถึงดื้อดึงกับสายนั้นจัง?” ถงเหมี่ยวเหมี่ยวขมวดคิ้ว และบอกเล่าเกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างอินอวี่โหรวกับหลัวฉิงคง
นี่คือปฏิบัติการขั้นพื้นฐานของหลัวฉิงคง ดังนั้น ถงเหมี่ยวเหมี่ยวจึงไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวอะไร
แต่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวงงเล็กน้อยที่เธอสามารถตัดใจจากมู่อวี้เฉิงไปหาคนใหม่ได้เร็วขนาดนี้
หลัวฉิงคง?
เมื่อชื่อนี้แวบขึ้นมาในใจของเขา สีหน้าของมู่อวี้เฉิงก็ดูเย็นชาขึ้น
ตอนที่มีเรื่องเกิดขึ้นกับลิ่นอวี๋เหยียน เขาตามสืบผู้คนรอบตัวลิ่นอวี๋เหยียนและตามสืบคนที่สนิทสนมกับลิ่นอวี๋เหยียน
มีเพียงหลัวฉิงคงเท่านั้นที่เขาไม่ได้ตรวจสอบ
แค่มองผู้หญิงคนนั้นเขาก็รู้สึกว่าดวงตาของเขาเปื้อนมลทินแล้ว
แต่คราวนี้เขาควรจะตรวจสอบหลัวฉิงคงด้วย เพราะเธอก็เป็นอีกหนึ่งคนที่น่าสงสัย
หลังจากที่ถงเหมี่ยวเหมี่ยวพูดจบ เธอก็เห็นว่ามู่อวี้เฉิงดูเงียบไป เธอจึงถามขึ้นว่า “มีอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ไปนอนเถอะ” มู่อวี้เฉิงลูบหัวเธอ ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เธอ กอดเธอไว้ในอ้อมแขนและหลับตาลง
…
วันรุ่งขึ้น เมื่อลู่หมิงมาถึงบริษัท เขาก็เห็นว่ามู่อวี้เฉิงอยู่ในห้องทำงานแล้ว
ลู่หมิงตกใจมากเมื่อเห็นรอยขีดข่วนยาวบนลำคอของมู่อวี้เฉิง
เกรงว่านี่จะเป็นฝีมือภรรยาของท่านประธานใช่มั้ย?
ลู่หมิงแสร้งทำเป็นไม่เห็นและเดินเข้าไปทำความเคารพต่อหน้ามู่อวี้เฉิง “ท่านประธาน”
“ไปตามสืบการเคลื่อนไหวของหลัวฉิงคงมาที” มู่อวี้เฉิงออกคำสั่งการอย่างไม่ลังเล
ลู่หมิงไม่คัดค้านและพยักหน้าตอบรับทันที
ตกบ่าย ลู่หมิงไปตรวจสอบการเคลื่อนไหวทั้งหมดของหลัวฉิงคงมาเรียบร้อยแล้ว
“คุณหลัวเดินทางออกนอกประเทศก่อนที่คุณหญิงจะถูกวางยาหนึ่งวันครับ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะลงมือก่อเหตุ” ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาตามสืบสวนเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการวางยาของลิ่นอวี๋เหยียน
มู่อวี้เฉิงคงจะอยากรู้ว่ามีอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับ หลัวฉิงคงหรือไม่
ถ้าไม่ไปก่อนก็ต้องไปทีหลัง มันเกิดขึ้นก่อนหน้าแค่หนึ่งวันเท่านั้น ข้อมูลดังกล่าวชวนให้เขานึกสงสัย
มู่อวี้เฉิงไม่เคยเชื่อในความบังเอิญเหล่านี้
“ไปตรวจสอบดูทีว่าหลัวฉิงคงได้ติดต่อกับพนักงานรังนกเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า และตรวจดูบัญชีรายรับรายจ่ายของเธอด้วย”
ลู่หมิงเข้าใจได้ในทันทีว่ามู่อวี้เฉิงกำลังสงสัยว่าหลัวฉิงคงเป็นคนวางยาลิ่นอวี๋เหยียน
หากแต่คิดอย่างรอบคอบมันก็เป็นไปได้ ลิ่นอวี๋เหยียนพยายามดึงหลัวฉิงคงมาเป็นลูกสะใภ้ของเธอ แต่สุดท้าย หลัวฉิงคงกลับถูกทอดทิ้ง
มันสมเหตุสมผลแล้วที่หลัวฉิงคงจะขุ่นเคืองและเลือกโจมตีลิ่นอวี๋เหยียน