ผู้ควบคุมเวลา (นิยายแปล) - ตอนที่ 60 แสงสีเงินอาละวาด
ตอนที่ 60 แสงสีเงินอาละวาด
“มันจบแล้ว มาได้แค่นี้จริงๆเหรอ?”
เมื่อเห็น คาสึกิ ถูกคุมขังโดยคุกดินของนินจาอิวะงาคุเระ นินจาโคโนฮะที่อยู่ใกล้ๆก็ตกอยู่ในความตรึงเครียดอีกครั้ง.
พวกเขาคิดว่า คาสึกิ สามารถพลิกสถานการณ์ในสนามรบได้อย่างสมบูรณ์ด้วยพลังที่ คาสึกิ แสดงออกมา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันยังยากเกินไป อีกด้านหนึ่งคือโจนินระดับหัวกะทิของอิวะงาคุเระและยังเป็นนินจาที่ทรงพลังอย่างมากอีกด้วย!
อย่างไรก็ตาม.
คาสึกิ ที่ถูกคุมขังอยู่ในคุกดินซึ่งแสงสีเงินได้จางหายไปแล้วไม่ได้แสดงอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใด แค่เพียงเอียงศีรษะและเหลือบมองอีกฝ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ฉวยโอกาสจากเสี้ยววินาทีที่ฉันลงมือฆ่า ใช้คาถาปิดผนึกจำกัดการเคลื่อนไหว จากนั้นใช้คาถาคุกดินที่สามารถยับยั้งการไหลเวียนของจักระ … ประสบการณ์ในการจัดการกับนินจาที่มีความเร็วไม่ธรรมดาจริงๆ”
คาสึกิ รู้สึกได้ว่าประตูบานที่ 3 ยังคงเปิดอยู่ แต่การไหลเวียนของจักระภายในร่างกายนั้นช้าลงหลายเท่า ดังนั้นแม้ว่าประตูบานที่ 3 จะเปิดอยู่ แต่มันก็เกือบจะเท่ากับว่าไม่ได้เปิด และเนื่องจากการไหลเวียนที่เชื่องช้าของจักระ ประตูบานที่ 4 จึงไม่สามารถเปิดออกได้
สมกับเป็นโจนินชั้นยอดของอิวะงาคุเระ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับอีกฝ่ายภายใต้สภาวะประตูบานที่ 3 ที่เหมือนกับว่าไม่ได้เปิดนี้
แต่…
แค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้!
ในชั่วพริบตาภายใต้การจ้องมองของ โทโด ความตกตะลึงและความไม่เชื่อได้ประดังขึ้นมา ลำแสงสีเงินบนร่างของ คาสึกิ กลับมาส่องประกายอีกครั้ง และดาบนินจาเขี้ยวสีขาวในมือของเขาก็มีสายฟ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง เสียงของนกนับพันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง
“เป็นไปไม่ได้!!”
สีหน้าของ โทโด เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
คุกดินของเขาสามารถยับยั้งการไหลเวียนของจักระได้ในระดับที่ดี แม้แต่นินจาคุโมะงาคุเระที่ใช้โหมดจักระสายฟ้าก็ไม่สามารถเปิดใช้งานคาถานินจาภายใต้การควบคุมนี้ได้!
คาสึกิ มีสีหน้าสงบ
นี่คือความสามารถในการย้อนเวลา
พันธนาการยังคงมีอยู่ เขาไม่สามารถทำให้ผลกระทบที่เกิดจากคุกดินหายไปได้โดยตรง แต่สภาพร่างกายของเขากลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนถูกพันธนาการ จักระที่ช้าฟื้นคืนสู่ความบ้าคลั่ง และพันปักษาก็ปรากฏตัวอีกครั้ง
ก่อนที่การยับยั้งของคุกดินจะมีผลอีกครั้ง ภายในร่างกายของ คาสึกิ ได้ฟื้นฟูจักระอันบ้าคลั่งขึ้นมาใหม่ มันได้ถาโถมออกมาอย่างกะทันหัน และประตูบานที่ 4 ของประตู 8 ด่านชั้นในก็ถูกเปิดออก
“ดูเหมือนว่าเราต้องจริงจังให้มากกว่านี้”
“ประตูแห่งความเจ็บปวด(เคย์มง)-อัสนีสายฟ้า!”
เปรี๊ยง!
ประตูบานที่ 4 ของประตู 8 ด่านชั้นในนั้นถูกเปิดโดยจักระสายฟ้า และผมของเขาก็เริ่มกระจัดกระจาย และร่องรอยจาง ๆ ที่เกี่ยวพันกันของสายฟ้าปรากฏขึ้นระหว่างผมสีเงิน
สถานะของประตูบานที่ 4 ถูกเปิด และ คาสึกิ ทุบหินที่ขวางอยู่ออก จากนั้นดาบนินจาเขี้ยวสีขาวในมือที่โอบล้อมไปด้วยสายฟ้าก็ถูกตวัดไปข้างหน้าทันที!
การฟันนี้เร็วเกินไป
เร็วมากจนแม้แต่วิชาเนตรของฮิวงะและอุจิวะแทบจะมองไม่เห็นวิถี ใบดาบฟาดฟันผ่านอากาศจนเกิดเป็นร่องรอยของเปลวเพลิง
เปลวเพลิงและสายฟ้าที่เกี่ยวพันกันได้ทำลายคุกดินอย่างไร้ความปราณี!
ตูมมม!!
คลื่นดาบที่มีเปลวเพลิงและสายฟ้าพาดผ่านอากาศได้กระทบกับพื้นดินระยะหลาย 10 เมตร ทำให้เกิดระเบิดจนพื้นแตกกระจาย และหุบเหวลึกหลาย 10 เมตรก็ปรากฏขึ้น!
“ใบดาบที่เสียดสีกับอากาศจนเกิดเป็นเปลวเพลิงขึ้นมา… เมื่อรวมกับสายฟ้า และมันรุนแรงยิ่งกว่า แสงจันทร์ ท่านี้ควรเรียกมันว่า ‘อัศนีเพลิง'”
คาสึกิ พึมพำในใจ และร่างของเขาก็หายไปทันที
สีหน้าของ โทโด เปลี่ยนไปอย่างมาก
อ๊ะ!!
เขาไม่รู้ว่า คาสึกิ ทำการโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้ในคุกดินของเขาได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆตอนนี้ คาสึกิ กำลังมาหาเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
เกือบจะในทันทีที่ คาสึกิ หายตัวไป มือทั้ง 2 ข้างของเขาก็ทำการประสานอินโดยไม่ลังเล และร่างของเขาก็หายไปอย่างเงียบ ๆ
คาถาดิน หลอมร่างปฐพี!
ฟุบ!
เงาของ คาสึกิ ปรากฏขึ้นในที่ที่ โทโด หายตัวไป และดาบในมือของเขากรีดผ่านพื้น ฉีกแผ่นดินออกเป็นรอยแยกซึ่งสามารถมองเห็นเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ได้อย่างชัดเจน
“…ดูสิว่าจะหนีไปได้สักกี่น้ำ”
หลังจากโจมตีพลาด สีหน้าของ คาสึกิ ก็ไม่เปลี่ยนไปเลย ภาพเงาของเขาหายไปอีกครั้งกลายเป็นกระสวยแสงสีเงินกวาดผ่านสนามรบ
นินจาอิวะงาคุเระบางคนที่อยู่ใกล้ ๆ พยายามปล่อยคาถานินจา เพื่อหยุด คาสึกิ แต่ คาถานินจา ที่ปล่อยออกมานั้นไม่สามารถตามความเร็วของ คาสึกิ ได้ทัน ภายใต้แสงกระพริบสีเงิน การโจมตีเหล่านั้นล้วนตกลงไปในความว่างเปล่า!
ไม่ไกล
ทันทีที่ โทโด ปรากฏตัวขึ้น ดาบของ คาสึกิ ที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงและสายฟ้าได้พุ่งเข้าใส่เขา
ตูมมม!
โทโด ถูกผ่าออกเป็น 2 ส่วน แต่แทนที่จะมีเลือดไหลออกมา มันกลับกลายเป็นหิน 2 ก้อน
ร่างของ โทโด ปรากฏขึ้นอีกครั้งห่างออกไปไกลกว่า 10 เมตร พร้อมกับร่องรอยของความตื่นตระหนกในดวงตาของเขา มือของเขารีบประสานอินอย่างรวดเร็ว และพยายามที่จะหนีต่อไป แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะสายเกินไป
เปลวเพลิงและสายฟ้าปรากฏอยู่ในรูม่านตาของเขา
ร่างของ โทโด แข็งอยู่กับที่ และการประสานอินของเขาก็หยุดชะงัก
คาสึกิ ซึ่งอาบไปด้วยแสงสีเงินปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของ โทโด และดาบนินจาเขี้ยวสีขาวในมือของเขายังคงโบกสบัด
สามารถหลบการโจมตีของเขาได้ถึง 2 ครั้งภายใต้สภาวะความเร็ว 4 เท่าของประตูบานที่ 4 โทโด คนนี้เป็นโจนินที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขาพบในสนามรบแห่งนี้ น่าจะถึงระดับคาเงะ แล้วด้วยซ้ำ.
ซึ่งค่อนข้างแข็งแกร่ง
“กะ..แก…”
โทโด หันศีรษะของเขาอย่างแรงและมองไปที่ คาสึกิ
เขาไม่ได้ยินเสียงของ คาสึกิ อย่างชัดเจนนัก สิ่งที่ได้ยินคือเสียงที่อัดแน่นราวกับเล่นด้วยความเร็วหลายๆระดับ แต่นั่นไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือเขาไม่เข้าใจว่า คาสึกิ สามารถหลุดออกจากการปิดกั้นการไหลเวียนของจักระซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดจากคุกดินได้อย่างไร จักระของนินจาธรรมดาทั่วไปไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน
เว้นแต่ คาสึกิ จะเป็นร่างสถิตสัตว์หาง!
แต่ก็น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถรับคำตอบได้
หลังจากพ่นคำออกมาอย่างยากลำบาก เส้นโลหิตที่ชัดเจนก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขาตั้งแต่ไหล่ซ้ายไปจนถึงช่องท้องด้านขวา
จากนั้นเลือดก็พุ่งทะลักออกมา ร่างกายถูกตัดเป็น 2 ท่อน ล้มลงกับพื้น และสติของเขาจมดิ่งลงสู่ความมืดมิดตลอดกาล
ตั้งแต่ คาสึกิ ทำลายคุกดินไปจนถึงการสังหารโจนินชั้นยอดอย่าง โทโด กระบวนการทั้งหมดสร้างความตกตะลึงให้กับนินจาอิวะงาคุเระและนินจาโคโนฮะที่อยู่ใกล้เคียง แม้แต่บางคนก็ไม่ทันได้ตอบสนอง
จนกระทั่งเห็นร่างของ โทโด ถูกแยกออกเป็น 2 ส่วนและล้มลงกับพื้นพร้อมกับกองเลือด นินจาอิวะงาคุเระที่อยู่รอบๆ ก็แสดงความตกใจและเหลือเชื่อ
“ทะ…ท่านโทโด ถูกฆ่า!”
“เป็นไปได้อย่างไร…”
สถานะของ โทโด ในหมู่บ้านอิวะงาคุเระ เป็นรองเพียงผู้ช่วยของ ซึจิคาเงะ ผู้ที่อยู่ในระดับสูงสุด และเขายังเป็นหัวหน้าของกลุ่ม 30 คนที่ซุ่มโจมตี โดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งหรือวิธีการ เขาเป็นตัวตนที่น่าเชื่อถือ!
แต่สุดยอดนินจาคนนั้นตายแล้ว!
เขาถูกนินจาจากโคโนฮะไล่ฆ่าและหนีอย่างทุกลักทุเล!
นินจาจากฝั่งโคโนฮะก็ตกตะลึงเช่นกัน
ภายในใจของ อิบิกิ และคนอื่น ๆ เกือบจะว่างเปล่า ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าความแข็งแกร่งของ คาสึกิ จะไปถึงระดับนั้น ไม่เพียงแต่จะสังหารจูนินชั้นยอดได้อย่างง่ายดาย แต่ยังรวมถึง โทโด นินจาชื่อดังผู้มีชื่อเสียงในโลกนินจายังเสียชีวิตด้วยน้ำมือของ คาสึกิ!
จูนินหนึ่งโหลและโจนิน 3 คนที่ถูกฆ่าตายก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถสร้างคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ได้ แต่การตายของ โทโด นั้นส่งผลกระทบต่อสนามรบทั้งหมดอย่างเห็นได้ชัด และ นินจาอิวะงาคุเระทั้งหมดก็เริ่มเกิดความโกลาหล
เหตุการณ์นี้ยังส่งผลกระทบต่อ อาคัตซึจิ และคนอื่นๆที่ปิดล้อม โอโรจิมารุ หนึ่งในนั้นถูก โอโรจิมารุ จับได้และถูกฟันแขนขาด!
“ดูเหมือนว่าจิตใจของพวกคุณจะไม่อยู่กับร่องกับรอยนะ”
โอโรจิมารุ แลบลิ้นเลียริมฝีปาก แสดงรอยยิ้มแปลกๆ แต่ในหัวใจของเขาก็ปรากฏคลื่น ขึ้นๆ ลงๆ เช่นกัน
ความแข็งแกร่งที่ คาสึกิ เปิดเผยออกมาอยู่เหนือความคาดหมายของเขา ความเร็วดังกล่าวแม้แต่เขาก็ตามไม่ทัน และมันคงเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะรับมือหากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้น
[สภาวะนั้นไม่ใช่แค่ ประตู 8 ด่าน…มันแปลก ไม่ใช่แค่ความเร็วในการเคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้น แต่ดูเหมือนว่า “ความถี่” ของจักระก็ยังไหลเวียนอย่างต่อเนื่องด้วย]
มีแสงลึกลับในดวงตาของ โอโรจิมารุ
จากความแปลกประหลาดที่เห็นในรายละเอียดบางอย่าง สามารถอนุมานได้ว่า คาสึกิ ไม่ได้เพียงแค่ใช้รูปแบบสายฟ้าและประตูทั้ง 8 แต่ควรจะมีความสามารถที่แปลกประหลาดมากกว่านี้!
แต่ไม่ว่าในกรณีใด ความแข็งแกร่งและบทบาทที่น่าตกใจของ คาสึกิ ได้ทำให้สถานการณ์ในสนามรบพลิกผัน
อาศัยความแข็งแกร่งของคนเพียงคนเดียวเท่านั้น!
แสงสีเงินนั่น
เหมือน ซาคุโมะ เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะในตอนนั้นไม่มีผิด!