ผู้ควบคุมเวลา (นิยายแปล) - ตอนที่ 58 ที่เหลือปล่อยให้ฉันจัดการเอง
ตอนที่ 58 ที่เหลือปล่อยให้ฉันจัดการเอง
“ฉันเกือบจะหายใจไม่ออก มันไม่ง่ายเลยที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจจับของเนตรสีขาว… เฮอะ! ทำให้พวกเรามุดดินแอบซ่อนราวกับหนูซะได้นะไอ้พวกเวร”
นินจาอิวะงาคุเระจำนวนมากที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นล้วนแสดงรอยยิ้มที่น่ากลัว
อาคัตซึจิ ที่ปัดป้องการโจมตีของ โอโรจิมารุ ก็แสดงรอยยิ้มเย็นชาเช่นกัน โดยกล่าวว่า “โอโรจิมารุ ฉันขอยอมรับว่าแกนั้นแข็งแกร่งมากจริงๆ – แต่โชคไม่ดีที่แกมีกำลังพลไม่เพียงพอ บางทีวันนี้ของปีหน้าอาจจะเป็นวันครบรอบวันตายของแก!”
สำหรับการโจมตีครั้งนี้ นินจาอิวะงาคุเระ พยายามอย่างเต็มที่
ก่อนอื่นจงใจปล่อยข้อมูลให้รั่วไหลเกี่ยวกับทัพหน้าไปยังโคโนฮะ และเข้าสู่ดินแดนแห่งทุ่งหญ้าโดยตรง เพื่อให้โคโนฮะมีความเข้าใจโดยทั่วไปเกี่ยวกับกองกำลังโดยรวมของทัพหน้า และส่งกองกำลังมาจัดการพวกเขาด้วยจำนวนที่ไม่มาก
จากนั้นหมู่บ้านอิวะงาคุเระก็ออกคำสั่งให้กับนินจาระดับหัวกะทิประมาณ 30 คนที่ไปทำภารกิจในทุกทิศทุกทางกลับมาสมทบกับทัพหน้าที่ชายแดนแคว้นไฟ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว
เนื่องจากพวกเขาถูกส่งเข้ามาเป็นชุดๆ และพวกเขาทั้งหมดได้รับมอบหมายให้หลีกเลี่ยงอีกฝ่าย แม้ว่าหน่วยสอดแนมของโคโนฮะจะตรวจจับได้ พวกเขาก็จะไม่ให้ความสำคัญและจะไม่รายงานข้อมูลไปยังศูนย์บัญชาการ เนื่องจากเป็นการเคลื่อนไหวของทีมนินจาแค่ 1 หรือ 2 ทีมเท่านั้น
และเมื่อทีมเหล่านี้มารวมกัน พวกเขาก็จะเป็นกองกำลังชั้นยอดที่ทรงพลัง เกือบครึ่งเป็นโจนิน ในจำนวนนี้มี 4 คนเป็นโจนินชั้นยอดจากหมู่บ้านอิวะงาคุเระ!
จุดประสงค์หลักของภารกิจนี้คือสร้างความเสียหายให้กับกองกำลังของโคโนฮะ!
ด้วยวิธีนี้ มันคือการใช้ประโยชน์จากช่วงเริ่มต้นของสงคราม!
“……….”
ดวงตาที่แปลกประหลาดฉายผ่านม่านตางูของ โอโรจิมารุ
กองกำลังนินจาอิวะงาคุเระชั้นยอดประมาณ 30 นาย ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นโจนิน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ถึงการเคลื่อนไหวใดๆ ของกองกำลังชั้นยอดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม โคโนฮะกลับไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับกองกำลังชั้นยอดนี้!
กล่าวอีกนัยหนึ่งนินจาอิวะงาคุเระวางแผนมาเป็นอย่างดีเพื่อให้เกิดสถานการณ์ที่ได้เปรียบเช่นนี้ขึ้น
ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!!
วินาทีต่อมา มีโจนินชั้นยอด 3 คนเข้ามาล้อม โอโรจิมารุ เอาไว้
นินจาที่ร่วมมือกับ อาคัตซึจิ ก่อนหน้านี้ก็เป็นโจนินชั้นยอด ร่วมแล้วตอนนี้มีโจนินชั้นยอด 5 คนล้อม โอโรจิมารุ เอาไว้ตรงกลาง แม้ว่ารูปแบบดังกล่าวจะไม่สามารถคุกคามเขาได้ แต่ก็เพียงพอที่จะยับยั้งความเคลื่อนไหวของเขา!
“อืม ……อย่างนี้นี่เอง”
แสงเย็นส่องประกายในดวงตาของ โอโรจิมารุ และน้ำเสียงของเขาดูแปลกๆ : “มันยากที่จะพูด ว่าใครกันแน่ที่จะตายอยู่ที่นี่”
ในความเป็นจริง เขาเดาล่วงหน้าว่านินจาอิวะงาคุเระอาจมีการซุ่มโจมตี เพราะอะไรๆก็ดูเอื้อประโยชน์ต่อโคโนฮะของพวกเขา มากเกินไป และปกติเขาจะไม่เป็นคนผลีผลามเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะโจมตี
เหตุผลนั้นง่าย
มีนินจาที่ชื่อ ได อยู่ในทีม นินจานี้ยังอยู่นอกเหนือข้อมูลของนินจาอิวะงาคุเระ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาเพียงพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด!
นี่คือเหตุผลที่ โอโรจิมารุ เดาว่ามีการซุ่มโจมตีอยู่อีกด้านหนึ่ง แต่ก็ยังกล้าที่จะโจมตี!
“น่าเสียดาย คนที่ตายก็คือแก!”
อาคัตซึกิ เริ่มพูดอย่างเย็นชา แล้วจู่ ๆ ก็โจมตี โอโรจิมารุ และคนข้าง ๆ เขาก็ลงมือเช่นกัน พวกเขาร่วมกันปิดล้อม โอโรจิมารุ อย่างหนาแน่น
ในเวลาเดียวกัน.
นินจาโคโนฮะ ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก
นินจาอิวะงาคุเระทั้ง 30 คน มากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นโจนิน กองกำลังที่แข็งแกร่งจู่ๆก็เพิ่มเข้ามาอย่างกะทันหันซึ่งเพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์การต่อสู้ของทั้ง 2 ฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์
“ท่านโอโรจิมารุ!”
มีคนตะโกนไปทาง โอโรจิมารุ พยายามเตือน โอโรจิมารุ
ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ หากพวกเขายังคงสู้ต่อไป พวกเขาก็มีแต่จะพ่ายแพ้ในที่สุด ตอนนี้พวกเขาต้องล่าถอยและไม่สามารถต่อสู้กับอีกฝ่ายได้!
อย่างไรก็ตาม.
โอโรจิมารุ ไม่ได้แสดงความตั้งใจที่จะถอยเลย เขาโจมตีเข้าใส่โจนินชั้นยอดของอิวะงาคุเระอย่างต่อเนื่อง ไม่คิดที่จะออกคำสั่งให้ล่าถอย ราวกับว่าเขาต้องการสู้ให้ถึงที่สุด
ทาเครุ ต้านทานการโจมตีของโจนินจากอิวะงาคุเระ 2 คน และสถานการณ์ก็ค่อนข้างยากลำบาก เขามองไปทาง โอโรจิมารุ ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“ท่านโอโรจิมารุ?”
เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์นี้ไม่ควรสู้อีกต่อไป!
มันเป็นไปไม่ได้ที่คนฉลาดอย่าง โอโรจิมารุ จะมองไม่เห็นสถานการณ์นี้ แต่ โอโรจิมารุ กลับไม่คิดที่จะล่าถอยจนถึงตอนนี้ ซึ่งทำให้นินจาเกือบทั้งหมดของโคโนฮะงุนงง
และในเวลาเดียวกัน
ได ซึ่งกำลังต่อสู้อยู่ในฝูงชน ทันใดนั้นก็คำรามลั่น และแสงจักระสีเขียวก็ปกคลุมร่างกายของเขา
“ประตูบานที่ 6 เคย์มง เปิด!”
หลังจากเปิดประตูบานที่ 6 ความเร็วและพลังของ ได ก็พุ่งสูงขึ้น และ จูนินชั้นยอด ก็ปลิวกระเด็นออกไปด้วยการเตะเพียงครั้งเดียว แม้แต่ดาบสั้นที่ยกขึ้นป้องกันยังถูกเตะหัก นับประสาอะไรกับร่างกายคน
ฉากนี้ทำให้ อิบิกิ และคนอื่นๆ ตกตะลึงไปตามๆกัน ไม่คาดคิดเลยว่า ได เกะนินนิรันดร์จะมีพลังเช่นนี้!
จนถึงตอนนี้พวกเขาจึงเข้าใจบ้างเล็กน้อย
ไม่น่าแปลกใจที่ โฮคาเงะ จะมอบหมายให้ ได มาเข้าร่วมกับทัพหน้า ความแข็งแกร่งดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าสู่ทัพหน้า นี่คือความแข็งแกร่งระดับโจนิน!
หลังจากตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ความกดดันก็ยังคงมีมากอยู่ แม้ว่าความแข็งแกร่งของ ได จะค่อนข้างคาดไม่ถึง แต่นี่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์ในสนามรบได้
โอโรจิมารุ ยังไม่ได้ออกคำสั่งให้ล่าถอย
อิบิกิ และคนอื่นๆได้แต่กัดฟันสู้ต่อไป
“ประตูบานที่ 6 ทำได้แค่นี้เท่านั้น นินจาอิวะงาคุเระนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ ดูเหมือนว่าฉันต้องเปิดประตูบานที่ 7 … หรือบางทีฉันอาจต้องเปิดประตูบานที่ 8…”
ได ผู้แสดงพลังในการฆ่า จูนิน และปราบปราม โจนิน แต่นี่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพลิกสถานการณ์
ตัดสินจากสถานการณ์ปัจจุบันในสนามรบ แม้ว่าเขาจะเปิดประตูบานที่ 7 และสังหารโจนินไป 2-3 คน ก็ยังยากที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ เกรงว่าท้ายที่สุดเขาต้องเปิดประตูบานที่ 8!
ต้องเปิดประตูบานที่ 8 เท่านั้น…
ได หายใจเข้าลึก ๆ เขาไม่กลัวความตาย เพื่อปกป้องสิ่งที่ควรปกป้อง และเพื่อโคโนฮะ นี่เป็นสิ่งที่เขาควรทำ!
ในขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูบานที่ 7 และประตูบานที่ 8 จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลังเขา
“ไม่จำเป็นต้องเปิดประตูถัดไปหรอก ลุงได”
คาสึกิ เดินถือดาบนินจาเขี้ยวสีขาวมาจากด้านหลัง ข้างๆ มีร่างแข็งทื่อของนินจาอิวะงาคุเระ จากนั้นร่างนั้นก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนจากตรงกลาง ศพตกลงสู่พื้นพร้อมกับกองเลือด
เวลาย้อนกลับไม่สามารถใช้กับคนอื่นได้ หาก ได เปิดประตูบานที่ 8 ที่นี่ ผลสุดท้ายเขาจะต้องตาย
กรณีนี้เขาไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายทำเช่นนั้นได้
“…คาสึกิ?”
ได มองดูด้วยความประหลาดใจ
คาสึกิ เดินมาที่นี่อย่างสงบ เขาประสานอินด้วยมือข้างเดียว และสัมผัสบนใบดาบของดาบนินจาเขี้ยวสีขาว จากนั้นเสียงนกร้องนับพันก็ดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ
ดาบพันปักษา!
เขายังคงก้าวไปข้างหน้า และหลังจากเดินไปอีกก้าว ลำแสงสีเงินก็โผล่ออกมาปกคลุมร่างกายของเขา
นี่คือการแปลงคุณสมบัติธาตุสายฟ้าหลังจากเปิดประตูแห่งชีวิตบานที่ 3
สีไม่เข้มเท่าโหมดจักระสายฟ้าของ ไรคาเงะ รุ่นที่ 4 และไม่ใช่จักระสีเขียวของประตูบานที่ 6 ตามปกติ แต่เป็นสีขาวเงินที่อ่อนกว่า
“ประตูแห่งชีวิต-อาภรณ์สายฟ้าสีเงิน”
นี่คือชื่อที่ คาสึกิ ตั้งขึ้นสำหรับโหมดนี้
จักระแบบสายฟ้าจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายมากขึ้นและมีผลข้างเคียงที่มากขึ้น เกือบจะเป็นพฤติกรรมที่แส่หาความตาย แต่สำหรับเขาที่มีความสามารถในการย้อนเวลาได้ เขาสามารถเพิกเฉยต่อผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา
และในโหมดนี้สามารถคงสภาพดาบพันปักษาเอาไว้ได้นาน
หลังจากได้รับความสามารถในการย้อนเวลา เขาก็ได้พัฒนาเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับตนเองขึ้น ซึ่งมีความเร็วมากกว่าโหมดประตูบานที่ 6 ตามปกติ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ——
แสงสีขาวเงินนั้นดีกว่าแสงสีเขียวมรกต ทำให้จับภาพและมองเห็นได้ยากขึ้น
“คุณไม่จำเป็นต้องใช้มันในสถานที่แบบนี้ ลุงได”
“ที่เหลือ ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”
คาสึกิ ที่มีอาภรณ์สายฟ้าสีขาวเงินได้เริ่มพูดเบาๆ กับ ได และเขี้ยวสีขาวในมือของเขาก็โบกสะบัดจากด้านหน้าไปทางขวา ทำให้เกิดร่องรอยจางๆ เกี่ยวพันกับเส้นส่วนโค้งของสายฟ้าอยู่บนท้องฟ้า