หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣) - ตอนที่ 26 ตกหลุมพราง

  1. หน้าแรก
  2. คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
  3. ตอนที่ 26 ตกหลุมพราง
Prev
Next

ตอนที่ 26 ตกหลุมพราง

 

มังกรตาเดียวพูดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก "พวกผมเป็นนักแสดงประกอบฉากในสตูดิโอ ปกติจะได้ค่าตัวแค่วันละ 100 หยวน แต่เมื่อวานมีนายจ้างใจดีคนหนึ่งบอกพวกเราว่าจะให้ค่าตัว 200 หยวน ให้พวกเรามาแสดงฉากซื้อขายยาเสพติดที่นี่ เขาเป็นคนจัดเตรียมฉากนี้ให้เรา"

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยตะคอก "ไร้สาระ! ที่นี่ไม่มีกล้องวีดีโอสักตัว จะเป็นสถานที่ถ่ายทำได้อย่างไร?"

 

"ผมก็เคยถามแบบนี้เหมือนกัน ชายคนนั้นบอกว่าพวกเขาใช้อุปกรณ์ถ่ายทำที่ทันสมัยที่สุด ทำให้ไม่สามารถเห็นโอเปอร์เรเตอร์ได้ ในตอนนั้นพวกเราเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จึงเชื่อเขา"

 

"เพราะปกติพวกเราต้องแสดงประกอบฉากเป็นวันกว่าจะได้เงิน 100 หยวน นี่แค่สองชั่วโมงก็ได้เงินถึง 200 หยวนแล้ว แต่พวกเราคาดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้!"

 

"ใครส่งพวกคุณมาที่นี่?" หวางเจี้ยนเฟิงถาม

 

"ฉันเอง!"

 

เสียงหนึ่งดังมาจากเหนือหัวของพวกเขา หวางเจี้ยนเฟิงและน่าหลันอู๋เซี๋ยเงยหน้าขึ้นไปมอง เห็นเพียงชายชุดดำนับสิบคนปรากฏตัวขึ้นบนโถงทางเดินชั้นสอง นำโดยพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ทางการกำลังต้องการตัว เขาคือสุนัขผู้โศกเศร้า

 

"ไม่ได้การแล้ว เราถูกล้อมเสียแล้ว!"

 

หวางเจี้ยนเฟิงนึกออกในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่เขากำลังยื่นมือไปหยิบปืนที่เอวนั้น เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตรงพื้นบริเวณเท้าของเขาถูกยิงจนเศษหินปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว

คนที่ยิงคือสุนัขผู้โศกเศร้านั่นเอง เขาเป่าปากกระบอกปืนพลางพูดตะโกนขึ้นว่า “ทำตัวดีๆ หน่อย ใครขยับฉันจะส่งมันไปลงนรกให้หมด!”

 

ในเวลานี้น่าหลันอู๋เซี๋ยและหวางเจี้ยนเฟิงหน้าซีดทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาทุกคนจะมีปืน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีโอกาสที่จะหยิบปืนออกมาได้

 

หวางเจี้ยนเฟิงตื่นตระหนก วันนี้มันคือฉากที่สุนัขผู้เศร้าโศกจัดไว้ให้พวกเขา เป็นหลุมพรางที่ใช้พวกนักแสดงตัวประกอบมาเป็นหมากในการล่อลวงพวกเขา

 

เขาตะโกนขึ้นอย่างดุดัน “สุนัขผู้โศกเศร้า แกจะทำอะไร? อย่าลืมว่านี่คือประเทศจีน ที่จะไม่ยอมให้แกมาทำอะไรสกปรกที่นี่เด็ดขาด!”

 

“ฉันรู้ว่านี่คือประเทศจีน ถ้าหากฆ่าพวกแกทั้งหมดที่นี่ ฉันคงอยู่ยาก แต่ฉันปล่อยคนอื่นไปได้ ยกเว้นนังผู้หญิงคนนั้นที่ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไปเด็ดขาด!”

 

พอพูดมาถึงตรงนี้สีหน้าของสุนัขผู้โศกเศร้าได้เปลี่ยนไป สีหน้าของมันฉายแววดุร้ายน่ากลัว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม “เธอฆ่าเหล่าอู่น้องชายของฉัน วันนี้ฉันจะเอาหัวของเธอไปเซ่นไหว้ระลึกถึงน้องชายฉันที่หน้าหลุมศพของเขา!”

 

คำพูดของเขาเปลี่ยนสีหน้าของทุกคน ที่แท้เป้าหมายของสุนัขผู้โศกเศร้าในวันนี้คือน่าหลันอู๋เซี๋ยนี่เอง 。

 

“ไม่มีทาง!”

 

หวางเจี้ยนเฟิงตะโกนขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นรีบเข้ามาล้อมเพื่อปกป้องน่าหลันอู๋เซี๋ยไว้กลางวง

 

“อย่านึกนะว่าฉันไม่กล้าลงมือกับพวกแกจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเลย ฉันก็แค่ไปเมืองนอกและไม่กลับมาเหยียบที่ประเทศจีนอีก!” สุนัขผู้โศกเศร้าพูดขึ้นด้วยดวงตาอันแดงก่ำ “ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม หลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะยิงพวกแกให้ตัวพรุนไปเลย”

 

พูดจบ เขาเริ่มนับถอยหลังพลางยกปืนในมือของเขาขึ้น “สาม……สอง……”

 

“หยุดเดี๋ยวนี้ ฉันคือคนที่นายต้องการตัว!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยเดินผ่านหวางเจี้ยนเฟิง ก้าวออกมาจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เธอมีความกล้าหาญที่จะไม่ยอมหลบหลังผู้ชายและเธอจะไม่มีวันปล่อยให้เพื่อนร่วมงานเหล่านี้ต้องมาตายเพราะเธอ

 

ถ้าหากเธออยู่คนเดียวที่นี่ เธอคงพยายามที่จะยิงปืนโต้ตอบจนสุดชีวิตแต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้หากเธอพยายามที่จะยิงต่อสู้ อาจทำให้มีผู้คนจำนวนมากได้รับบาดเจ็บและล้มตาย ดังนั้นน่าหลันอู๋เซี๋ยจึงเลือกที่จะสละชีวิตของตัวเอง

 

หลังจากที่เห็นน่าหลันอู๋เซี๋ยแล้ว สุนัขผู้โศกเศร้าตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่งว่า “นังบ้าเอ้ย น้องชายเพียงคนเดียวของฉันต้องมาตายเพราะเธอ ตอนนี้ฉันจะระเบิดหัวเธอเพื่อล้างแค้นให้น้องชายของฉัน!”

 

ขณะที่เขากำลังเหนี่ยวไกปืน น่าหลันอู๋เซี๋ยหลับตาลงอย่างไม่เต็มใจ การเป็นตำรวจคือความปรารถนาเดียวในชีวิตของเธอ คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้เธอกลับต้องมาถูกพ่อค้ายาเสพติดฆ่าตาย

 

“ไปลงนรกพร้อมกับความแค้นแกซะ!”

 

ก่อนที่สุนัขผู้โศกเศร้าจะลั่นไกปืน ทันใดนั้นเขาก็ถูกฝ่ามือหนึ่งตบอย่างแรงที่หลังศรีษะจนกลิ้งตกลงมาจากทางเดินบันไดวนของชั้นสอง

 

แรงตบเต็มแรงจากฝ่ามือทำให้เขามึนจนเห็นดาวเต็มตา แต่ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา เขาฝึกกังฟูมาเป็นระยะเวลาหลายปี ตอนที่เขากำลังจะกลิ้งถึงพื้นนั้น เขาสามารถยันตัวของเขาไว้ได้จนสองขาแตะพื้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามปืนของเขากระเด็นออกไปไกลแล้ว

 

เมื่อเขาหันมาดูว่าใครแอบลอบโจมตีเขา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะมองออกว่าเป็นใคร เขาก็เห็นฝ่าเท้าขนาดใหญ่ปรากฏตรงหน้าเขา ยันเข้าที่ใบหน้าเขาเต็มแรง

 

สุนัขผู้โศกเศร้าโดนเตะกระเด็นไปไกลเจ็ดถึงแปดเมตร ตอนที่เขายันตัวลุกขึ้นมาจากพื้น ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด บนใบหน้าปรากฏรอยฝ่าเท้าสีแดงขนาดใหญ่

 

ครั้งนี้เขามองเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ที่ด้านหลังของเขามีชายวัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ยืนยิ้มให้เขาอยู่

 

“ไอ้สารเลว แกกล้าตีฉันเหรอ! ยิงมัน รีบยิงมันให้พรุนเดี๋ยวนี้!”

 

สุนัขผู้โศกเศร้ายืนขึ้นแล้วหันไปตะโกนสั่งลูกน้องที่อยู่ตรงโถงทางเดินชั้นสอง

 

หวางเจี้ยนเฟิงและน่าหลันอู๋เซี๋ยตกใจจนพูดไม่อก พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าฉินห้าวตงจะปรากฏตัวขึ้นในสถานการณ์แบบนี้ และคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะตีสุนัขผู้โศกเศร้าได้

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยยื่นมือไปหยิบปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวทันทีที่ได้ยินสุนัขผู้โศกเศร้าสั่งให้ลูกน้องยิงฉินห้าวตง ในเวลานี้เธอไม่สนใจอะไรแล้ว เธอตัดสินใจกราดยิงสู้กับพวกพ่อค้ายาเสพติดด้วยชีวิตของเธอ

 

หวางเจี้ยนเฟิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นต่างก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาดึงปืนของตัวเองออกมา แต่พวกเขากลับต้องประหลาดใจว่าบรรดาพวกพ่อค้ายาเสพติดที่อยู่บนทางเดินบันไดวนไม่เพียงแต่ไม่ยิงปืน ในทางตรงกันข้ามพวกเขากลับยืนนิ่งไม่ขยับเหมือนกับรูปปั้น เหมือนว่าถูกแช่แข็งไว้

 

“จะตะโกนอะไรนักหนา!” ฉินห้าวตงยกมือขึ้นตบหน้าสุนัขผุ้โศกเศร้าจนเขาล้มลงไปที่พื้น จากนั้นใช้เท้าเหยียบลงไปบนหลังของเขา แล้วหันไปยิ้มให้น่าหลันอู๋เซี๋ยพลางพูดขึ้นว่า “ขอโทษทีนะครับ ผมจัดการคนด้านบนนั้นชักช้าไปหน่อย คงไม่ได้ทำให้พวกคุณกลัวใช่ไหม?”

 

“เอ่อ……”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยและหวางเจี้ยนเฟิงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ ต่อให้พวกเขาฝันไปก็ยังนึกไม่ถึงว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ว่าทำไมฉินห้าวตงถึงทำให้พวกพ่อค้ายาตรงบันไดวนขยับตัวไม่ได้

 

“อย่ามัวตะลึงกันสิครับ รีบใส่กุญแจมือเขาเร็ว ผมไม่สามารถเหยียบเขาไว้แบบนี้ไปได้ตลอดนะครับ แล้วก็ยังมีพวกด้านบนอีก เรียกคนไปช่วยผมจัดการด้วย”

 

ฉินห้าวตงพูดจบ เขายกปลายเท้าขึ้นแล้วเตะสุนัขผู้โศกเศร้าไปยังน่าหลันอู๋เซี๋ย

 

หลังจากที่น่าหลันอู๋เซี๋ยดึงสติกลับมาได้แล้ว เธอเตะไปที่สุนัขผู้โศกเศร้าอยู่หลายครั้ง จากนั้นหยิบเอากุญแจมือมาสวมข้อมือของเขาไว้แน่น

 

สุนัขผู้โศกเศร้าเงยหน้าขึ้นมองฉินห้าวตงพลางตะโกนขึ้นด้วยความขุ่นเคืองใจ “ไอ้เด็กบ้า แกเป็นใคร? กล้ามายุ่งเรื่องของฉัน แกต้องชดใช้มัน……”

 

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตะโกนเสร็จ รองเท้าข้างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหน้าของเขาอีกครั้ง แล้วเตะลงไปที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง

 

หวางเจี้ยนเฟิงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรงทางเดินชั้นสอง พวกเขาพบว่าที่ท้ายทอยของผู้ค้ายาเสพติดแต่ละคนมีเข็มเงินแวววาวปักอยู่หนึ่งเล่ม

 

ฉินห้าวตงเดินนำไปข้างหน้า ทุกครั้งที่เขาดึงเข็มออก เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านหลังของเขาจะจับพ่อค้ายาเสพติดคนนั้นใส่กุญแจมือทันที ในไม่ช้าบรรดาพ่อค้ายาเสพติดจำนวนนับสิบได้ถูกยึดปืนจนหมด และถูกพาตัวไปที่ห้องโถง

 

หลังจากที่จัดการเรื่องทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว หวางเจี้ยนเฟิงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวพวกนักแสดงประกอบฉากไป จากนั้นนำตัวสุนัขผู้โศกเศร้าและลูกน้องของเขาไปที่รถมินิบัสที่จอดอยู่ด้านนอก

 

หลังจากที่พวกเขากลับมายังกองปราบปรามอาชญากรแล้ว ทางทีมของหวางเจี้ยนเฟิงเริ่มสอบปากคำพวกพ่อค้ายาเหล่านี้ ส่วนน่าหลันอู๋เซี๋ยพาฉินห้าวตงมายังรถ Lamborghini

 

“ขอบคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้!”

 

เป็นครั้งแรกที่น่าหลันอู๋เซี๋ยต้องเผชิญหน้ากับความตายอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ ความรู้สึกแบบนั้นยังทำให้เธอหวาดกลัวทุกครั้งที่นึกถึงมัน เธอรู้ว่าถ้าหากไม่มีชายวัยรุ่นผู้ยิ้มแย้มแจ่มใสคนนี้ เธออาจได้ไปเฝ้าซาตานในนรกไปแล้ว

 

“คุณจะขอบคุณผมยังไงเหรอ? ขอบคุณด้วยตัวของคุณไหม?” ฉินห้าวตงพูดหยอก

 

“คุณนี่มัน……” ตอนแรกน่าหลันอู๋เซี๋ยอยากจะกล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจ แต่กลับถูกฉินห้าวตงพูดหยอกจนทำลายความจริงใจทั้งหมดที่มี

 

“ลืมมันไปเถอะ ผมก็แค่พูดล้อเล่น ใครจะกล้าแต่งงานกับสาวงามไทแรนโนซอรัสล่ะ อย่าคิดจริงจังเลยน่า!”

 

ฉินห้าวตงพูดขึ้นขณะกำลังเดินขึ้นรถ อาศัยโอกาสก่อนที่น่าหลันอู๋เซี๋ยจะโกรธ รีบสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วขับออกจากกองปราบปรามอาชญากรอย่างรวดเร็ว

 

“ไอ้บ้า!”

 

มองรถ Lamborghini หายลับไปจากสายตา น่าหลันอู๋เซี๋ยกระทืบเท้าอย่างแรง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบกับคนเข้าใจยาก

 

โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของฉินห้าวตงดังขึ้นขณะที่เขาพึ่งจะขับออกมาจากกองปราบปรามอาชญากร เขาเหลือบดู เป็นหลินโม่โม่ที่โทรเข้ามา

 

“ตอนนี้คุณอยู่ไหน?” เสียงของหลินโม่โม่ดังมาจากปลายสาย

 

“ผมกำลังขับรถเล่นอยู่ข้างนอก!”

 

“อยู่กับผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”

 

แม้แต่หลินโม่โม่เองก็ยังแปลกใจว่าทำไมเธอถึงถามคำถามนี้

 

“ไม่ใช่ครับ ผมมาขับรถเล่นคนเดียว คุณมีอะไรหรือเปล่า?” ฉินห้าวตงถาม

 

“อ้อ จริงเหรอ? อีกพักหนึ่งฉันมีประชุม อาจจะไปรับถังถังช้าหน่อย คุณช่วยไปรับเธอได้ไหม?”

 

“จะเกรงใจอะไรขนาดนั้นครับ ถังถังก็เป็นลูกสาวของเรา การไปรับเธอเป็นสิ่งที่ผมควรทำ!” ฉินห้าวตงพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“เอ่อ……”

 

หลินโม่โม่พูดไม่ออก คุณหมายความว่ายังไงที่บอกว่า ‘ลูกสาวของพวกเรา?’ ทำยังกับว่าฉันให้กำเนิดลูกกับคุณยังงั้นแหละ แต่ถังถังยอมรับว่าฉินห้าวตงเป็นพ่อบุญธรรมแล้ว เขาจะพูดแบบนี้ก็ไม่ผิด เธอเองก็ไม่มีเหตุผลที่จะไปเถียงเขา

 

หลังจากกดวางสายไป ฉินห้าวตงเห็นว่าถึงเวลาแล้ว เขาจึงขับรถไปยังโรงเรียนอนุบาลจินจือยวี่เย่

 

ฉินห้าวตงจอดรถที่ลานจอดรถบริเวณประตูโรงเรียน จากนั้นเดินเข้าไปในโรงเรียนอนุบาลและพบห้องเรียนของถังถัง

 

“คุณคะ ไม่ทราบว่าคุณกำลังมองหาใครคะ?”

 

คุณครูสาววัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบกว่าปีกำลังเอ่ยถามเขา

 

คุณครูคนนี้ค่อนข้างจะน่ารัก เธอมีรูปร่างสูง ผมยาวประบ่า เครื่องแบบที่เธอสวมช่างเน้นสัดส่วนของเธอเสียเหลือเกิน

 

เมื่อเห็นผู้หญิงสวยขนาดนี้มาทำงานเป็นครูสอนเด็กอนุบาลอยู่ที่นี่ ฉินห้าวตงจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็แนะนำตัวเองว่า “สวัสดีครับคุณครู ผมคือพ่อของถังถัง มารับเธอกลับบ้านครับ”

 

“พ่อของถังถังเหรอคะ?” ครูสาวมองสำรวจฉินห้าวตงด้วยความประหลาดใจ พลางพูดขึ้น “สวัสดีค่ะ ฉันคือคุณครูของถังถัง ชื่อว่าหวางเจียหนี พวกเราไม่เคยเจอกันมาก่อน ดังนั้นฉันเลยจำเป็นต้องโทรหาแม่ของถังถังเพื่อตรวจสอบสถานะของคุณก่อนนะคะ”

 

หลังจากพูดจบ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากในกระเป๋า เตรียมที่จะโทรหาหลินโม่โม่

 

“ครูหวางครับ ไม่ต้องโทรหรอกครับ โทรไปก็ไม่ติดหรอก” ฉินห้าวตงพูดขึ้น “วันนี้แม่ของถังถังติดประชุม ไม่สะดวกที่จะรับสายในตอนนี้ ดังนั้นเลยให้ผมมารับเธอ”

 

ฉินห้าวตงพูดขึ้นพลางหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา กดไปหน้าบันทึกการโทร แล้วยื่นให้หวางเจียหนีดู

 

“ป่าป๊า ป่าป๊ามารับหนูแล้ว!” พอแม่หนูน้อยเห็นฉินห้าวตง เธอก็วิ่งออกมาจากในห้องเรียนแล้วพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของเขาทันที

 

เห็นท่าทีที่สนิทสนมกันของถังถังและฉินห้าวตง แล้วมองไปที่บันทึกการโทรในโทรศัพท์มือถือของเขา หวางเจียหนีจึงพูดขึ้น “ขอโทษนะคะ ฉันไม่เคยเห็นพ่อของถังถังมาก่อน ดังนั้นจึงถามเยอะไป!”

 

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าคุณทำตามหน้าที่ของคุณ ผมชื่อฉินห้าวตง ต่อไปเดี๋ยวพวกเราก็คุ้นเคยกันมากขึ้นแล้วครับ”

 

ฉินห้าวตงชื่นชอบครูประจำชั้นคนสวยคนนี้ หลังจากที่เขากล่าวลาเธอแล้ว ก็พาถังถังเดินออกจากประตูโรงเรียนอนุบาลไป

 

พึ่งจะเดินออกจากประตูมาได้ไม่นาน ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งวิ่งเข้ามาล้อมเขาไว้

 

จบตอน

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 26 ตกหลุมพราง"

4.4 17 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Chronicles of Primordial Wars
Chronicles of Primordial Wars
มีนาคม 12, 2022
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
มีนาคม 12, 2022
The Beginning After The End ราชาผู้โดดเดี่ยว
The Beginning After The End ราชาผู้โดดเดี่ยว
มีนาคม 12, 2022
I Am In Mavel​ ฉันอยู่ในโลกมาร์เวล
I Am In Mavel​ ฉันอยู่ในโลกมาร์เวล
มีนาคม 12, 2022
IF the Deep sea forgets you  ขอเพียงให้ทะเลได้ลืมเธอ
IF the Deep sea forgets you ขอเพียงให้ทะเลได้ลืมเธอ
มีนาคม 12, 2022
main-qimg-9b25e6cb2a9b0514175f768be289b119-lq (1)
Hokage Ryos Path
มีนาคม 12, 2022
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz