หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣) - ตอนที่ 24 เคล็ดวิชาจิตฉงน

  1. หน้าแรก
  2. คุณพ่อยอดหมอเทวดา (重生之奶爸医圣)
  3. ตอนที่ 24 เคล็ดวิชาจิตฉงน
Prev
Next

ตอนที่ 24 เคล็ดวิชาจิตฉงน

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยหันกลับไปพูด " ทำไมถึงต้องคืนให้คุณ?"

 

"ผมไม่ได้พูดไว้ชัดเจนแล้วเหรอว่าปู่ของคุณให้รถคันนั้นแก่ผม"

 

ฉินห้าวตงคิดไม่ถึงเลยว่าในเมื่อเขาพูดชัดเจนดีแล้ว แต่น่าหลันอู๋เซี๋ยกลับไม่ยอมคืนรถให้เขา ตอนแรกเขาวางแผนที่จะขับรถพาแม่หนูน้อยไปกินลมชมวิวตอนเย็น

 

"ต่อให้ปู่ของฉันมอบมันให้คุณ แต่แล้วยังไงล่ะ? รถคันนี้ยังไม่ได้ดำเนินการให้ถูกต้อง ถือว่าเป็นรถที่ไม่มีใบอนุญาต ตอนนี้ต้องยึดไว้ก่อน!"

 

ถึงแม้ว่าเธอจะเข้าใจเรื่องรถอย่างชัดเจน แต่เมื่อกี้น่าหลันอู๋เซี๋ยถูกฉินห้าวตงตีก้นตอนที่ถูกสกัดจุดตรงกลางหน้าอก ความโกรธของเธอยังไม่ถูกระบายออกมา เธอจะคืนรถให้เขาได้ยังไงล่ะ?

 

"คุณเอารถคืนผมมาก่อน พรุ่งนี้ผมจะไปดำเนินการขอใบอนุญาตอย่างแน่นอน!" ฉินห้าวตงพูดขึ้น

 

"หลีกทางให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันมีคดีใหญ่ต้องทำ?" น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา

 

แรงฝ่ามือของฉินห้าวตงไม่เบาเลยทีเดียว ตอนนี้ก้นของเธอเริ่มแสบขึ้นมาแล้ว

 

“จะไปสอบสวนผู้ต้องหาใช่ไหม? เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะช่วยคุณจัดการเรื่องการสอบสวน ส่วนคุณก็คืนรถให้ผม ว่าไงล่ะ”

 

ฉินห้าวตงต้องการที่จะเอารถกลับคืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทันไปรับแม่หนูน้อยในตอนเย็น

 

“เลิกล้อเล่นดีกว่าไหม? คุณก็เป็นแค่หมอคนหนึ่งจะมาเข้าใจเรื่องการสอบสวนได้อย่างไร?” น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดขึ้น “ฉันจะบอกคุณให้นะ ตอนนี้ทางตำรวจมีมาตรฐานในการสอบสวนผู้กระทำผิด ไม่อนุญาตให้มีการทรมานผู้ต้องหา”

 

“อะไรนะ?” ฉินห้าวตงเหลือบมองน่าหลันอู๋เซี๋ยด้วยสายตาดุดัน เมื่อกี้ไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นคนเอากระบองมาฟาดเขา แค่พริบตาเดียวก็ทำมาเป็นอ้างว่ามีมาตรฐานในการสอบสวนผู้กระทำผิดซะแล้ว

 

ฉินห้าวตงจึงพูดขึ้นว่า “ผมไม่เข้าใจเรื่องการสอบสวน แต่ผมเป็นหมอ พอเข้าใจเรื่องจิตวิทยาและการสะกดจิตอยู่บ้าง ผมจะต้องถามถึงสิ่งที่คุณต้องการได้อย่างแน่นอน”

 

ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่เข้าใจถึงความสัมพันธ์ของน่าหลันอู๋เซี๋ยกับฉินห้าวตง แต่เขาก็อดที่จะพูดขึ้นไม่ได้ว่า “คุณรู้ไหมว่าการสอบสวนคืออะไร? มันไม่ได้สอบสวนได้ง่ายๆ โดยการใช้จิตวิทยาหรือการสะกดจิตอย่างที่คุณคิด พวกผู้ค้ายาเสพติดเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ ไม่สามารถใช้วิธีการปกติกับพวกเขาได้หรอก!”

 

ฉินห้าวตงหันหน้าไป แล้วมองเข้าไปลึกในดวงตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้น นัยน์ตาของเขาส่องประกายกระพริบ จากนั้นแววตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นก็เริ่มเหม่อลอยในทันที

 

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาใช้ไม่ใช่การสะกดจิตอะไรนั่นหรอก แต่มันคือเคล็ดวิชาจิตฉงนซึ่งเป็นวรยุทธ์ที่เขาใช้ฝึกเซียน แม้ว่าการฝึกตนของเขาจะอ่อนแอลงกว่าเมื่อก่อนมาก และพลังของเคล็ดวิชาจิตฉงนที่มีเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับตอนที่เขาฝึกจนถึงขั้นสูงสุด แต่เท่านี้ก็เพียงพอที่จะจัดการกับคนธรรมดาได้

 

เพียงแต่ว่าวรยุทธ์แบบนี้ไม่ควรที่จะพูดออกมา ดังนั้นจึงทำได้เพียงบอกคนอื่นว่ามันคือการสะกดจิต

 

หลังจากที่ควบคุมจิตใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สำเร็จ เขาจึงเอ่ยถาม “รองผู้บัญชาการน่าหลันเป็นคนแบบไหน?”

 

“เฮ้ คุณกำลังทำอะไรน่ะ?”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยไม่เข้าใจว่าฉินห้าวตงจะทำอะไร ทำไมจู่ๆ ถึงได้ถามลูกน้องของเธอเกี่ยวกับคำถามพวกนี้

 

ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดขึ้นว่า :“ถึงแม้ว่ารองผู้บังคับบัญชาน่าหลันจะสวย แต่เธอเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก ปกติพวกผมจะเรียกเธอว่าสาวงามไทแรนโนซอรัส ไม่มีใครกล้ายั่วให้เธอโมโห……”

 

ฉินห้าวตงหันไปยิ้มให้น่าหลันอู๋เซี๋ยพลางพูดขึ้นว่า “เป็นไงบ้าง? วิชาสะกดจิตของฉันยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ?”

 

“เขาถูกคุณสะกดจิตเหรอ?”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยประหลาดใจ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าในที่ทำงานมีคนเรียกเธอว่าสาวงามไทแรนโนซอรัส แต่ไม่มีใครกล้าพูดถึงมันต่อหน้าเธอ

 

“ไม่เชื่อเหรอ? งั้นผมจะถามให้คุณดูอีกแล้วกัน!” ขณะที่พูด ฉินห้าวตงหันไปถามเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อ “คุณเคยคิดจะจีบรองผู้บังคับบัญชาน่าหลันไหม?”

 

“ฉินห้าวตง คุณกำลังพูดอะไร?”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยเริ่มเขินจนหน้าแดง ฉินห้าวตงกล้าถามคำถามพวกนี้กับลูกน้องของเธอได้อย่างไร เธอจึง เธออดที่จะถลึงตาใส่เขาไม่ได้

 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นไม่ได้สนใจอารมณ์ของน่าหลันอู๋เซี๋ยเลยแม้แต่น้อย เขาพูดขึ้น " ไม่เคยคิดเลยครับ ถึงแม้ว่ารองผู้บัญชาการน่าหลันจะสวย แต่เธออารมณ์ร้ายเกินไป ผมกลัวว่าหลังจากแต่งงานกับเธอแล้วจะถูกเธอตีตาย!"

 

พอฟังเจ้าหน้าที่ตำรวจตอบ ฉินห้าวตงระเบิดหัวเราะออกมาทันที "ได้ยินหรือยัง ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้อีก ต่อไปมีหวังขายไม่ออกแน่!"

 

"คุณนี่มัน……ไอ้บ้าเอ้ย!"

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยรู้สึกโกรธจนอกของเธอแทบจะระเบิดแล้ว!

 

ฉินห้าวตงไม่ได้รู้สึกจริงจังขนาดนั้น เขาหัวเราะพลางพูดขึ้นว่า “เป็นไงล่ะ? ตอนนี้เชื่อผมแล้วหรือยัง? ขอแค่คุณพาผมไป ผมจะเค้นถามให้คุณได้แม้กระทั่งว่าพ่อค้ายาเสพติดคนนั้นใส่กางเกงในสีอะไร!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยเปลี่ยนสีหน้า ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดผู้ชายตรงหน้านี้มาก แต่เขาก็มีความสามารถจริงๆ เมื่อครู่นี้ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์หลายปีของกองปราบปรามอาชญากรยังไม่สามารถทำได้เลย ถ้าพาเขาไปลองน่าจะเหมาะสมที่สุด

 

“เอางั้นก็ได้ ถ้าหากคุณถามถึงสถานที่ซื้อขายยาเสพติดได้ ฉันจะคืนรถให้คุณ!”

 

ในที่สุดตอนนี้น่าหลันอู๋เซี๋ยก็ตอบรับแล้ว ฉินห้าวตงดีดนิ้ว ไม่นานแววตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กลับคืนสู่ปกติ

 

แต่เขาจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย เขารู้สึกมึนงงกับท่าที่ของน่าหลันอู๋เซี๋ยที่จ้องมายังเขาด้วยความไม่พอใจ หรือเขาพึ่งจะทำลายเรื่องดีของรองผู้บัญชาการน่าหลันไป ทำให้เธอโกรธเข้าแล้วใช่ไหม? ต้องเป็นแบบนี้แน่เลย ดูเหมือนว่าต่อไปนี้เขาต้องระมัดระวังให้มากขึ้นแล้ว!

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยพาฉินห้าวตงไปยังห้องทำงานของผู้บัญชาการ ตำรวจวัยกลางคนที่มีสีหน้าเป็นกังวลกำลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้องทำงาน เขาคือหวางเจี้ยนเฟิง ผู้บังคับบัญชาการกองปราบปรามอาชญากร

 

หลังจากที่น่าหลันอู๋เซี๋ยเดินเข้ามาในห้อง หวางเจี้ยนเฟิงรีบพูดขึ้นว่า “รองผู้บัญชาการน่าหลัน ผมจำได้ว่าคุณเคยบอกว่ามีเพื่อนเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสอบปากคำ รีบเชิญเขามาช่วยได้ไหม?”

 

“คดีในวันนี้สำคัญมาก อีกสองชั่วโมงจะมีการซื้อขายยาเสพติดครั้งใหญ่ขึ้น พวกเราต้องใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อค้นหาสถานที่ซื้อขายยาเสพติด จากนั้นรีบดำเนินการจับกุมให้เร็วที่สุด"

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดขึ้นว่า “ ผู้บังคับบัญชาหวาง เราไม่จำเป็นต้องหาผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบสวนในตอนนี้ สามารถให้คุณหมอฉินลองดูก่อนได้”

 

เธอแนะนำฉินห้าวตงให้แก่หวางเจี้ยนเฟิง “ผู้บังคับบัญชาหวาง นี่คือคุณหมอฉินห้าวตง เขามีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมมาก!"

 

หวางเจี้ยนเฟิงมองน่าหลันอู๋เซี๋ยด้วยความประหลาดใจพลางพูดขึ้น “รองผู้บัญชาการน่าหลัน คุณไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม พวกเราต้องทำการสอบปากคำ ไม่ใช่มารักษาอาการป่วยของผู้ต้องหา คุณเอาหมอมาทำไม?”

 

ตอนนี้เขากำลังรีบร้อนจริงๆ เวลาดำเนินเข้ามาใกล้ถึงช่วงทำการซื้อขายยาเสพติดเข้าไปทุกที ถ้ารออีกพักหนึ่งคงไม่ทันการแล้ว

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดขึ้นว่า “ผู้บังคับบัญชาการหวาง คุณหมอฉินมีทักษะการสะกดจิตที่ยอดเยี่ยมมาก สามารถให้เขาลองดูได้”

 

“รองผู้บังคับบัญชาน่าหลัน ตอนนี้มันกี่โมงแล้ว? มีเวลาลองที่ไหนกัน? พวกเราต้องรีบเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบปากคำมาเดี๋ยวนี้!”

 

เห็นได้ชัดว่าหวางเจี้ยนเฟิงไม่มองฉินห้าวตงอยู่ในสายตา ถึงแม้ว่าเขาจะเคยได้ยินว่าการสะกดจิตช่วยให้การสอบปากคำของคดีประสบความสำเร็จ แต่เขาไม่คิดว่าชายวัยรุ่นอายุยี่สิบต้นๆ ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้จะมีความสามารถแบบนั้น

 

ฉินห้าวตงดึงน่าหลันอู๋เซี๋ยที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างไว้ จากนั้นเดินไปที่หน้าโต๊ะทำงาน หยิบเอากระดาษและปากกาขึ้นมา พลางหันไปถามหวางเจี้ยนเฟิง “บอกรหัสปลดล็อคโทรศัพท์ของคุณและรหัสบัตรเอทีเอ็มของคุณมา”

 

หวางเจี้ยนเฟิงพูดขึ้น “รหัสปลดล็อคโทรศัพท์ของฉันคือ 6666 รหัสบัตรเอทีเอ็มคือ 666888”

 

ฉินห้าวตงจดตัวเลขพวกนี้ลงในกระดาษ A4 แล้วสะบัดมือคลายเคล็ดวิชาจิตฉงน จากนั้นยื่นกระดาษ A4 ไปตรงหน้าหวางเจี้ยนเฟิง

 

หวางเจี้ยนเฟิงรู้สึกเวียนหัวอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาไม่รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองทำอะไรลงไป และก็ไม่รู้ว่าชายวัยรุ่นคนนี้ยื่นกระดาษ A4 มาให้เขาทำไม เขาหยิบมาดูพักหนึ่งแล้วก็ตกใจ เขาถามฉินห้าวตงด้วยแววตาตกตะลึงว่า “คุณรู้รหัสปลดล็อคโทรศัพท์และรหัสบัตรเอทีเอ็มของผมได้อย่างไร?”

 

“แน่นอนว่าคุณเป็นคนบอกผมเอง ผมไม่ใช่เทพเจ้าซะหน่อย จะไปรู้ได้อย่างไร” ฉินห้าวตงยิ้มบาง “ตอนนี้ผู้บัญชาการหวางน่าจะเชื่อในวิชาสะกดจิตของผมได้แล้วใช่ไหม?”

 

“นะ……นี่มันมหัศจรรย์เหลือเกิน!”

 

หวางเจี้ยนเฟิงตกใจกับความสามารถของฉินห้าวตงมาก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนมาทำให้สติสัมปชัญญะของเขาสับสนได้ในพริบตาเดียว ทำให้เขาบอกได้แม้กระทั่งรหัสบัตรเอทีเอ็มอย่างเชื่อฟัง

 

แต่ในเวลานี้เขาจะมัวมาคิดเล็กคิดน้อยก็ไม่ได้ จึงรีบเดินไปจับมือฉินห้าวตงพลางพูดขึ้นว่า “คุณหมอฉิน ขอโทษด้วยครับ เมื่อกี้ฉันผิดเอง โปรดช่วยพวกเราด้วยเถอะ”

 

“คดีนี้มีความสำคัญมากจริงๆ จากข้อมูลที่พวกเราได้มา ปริมาณยาที่จะทำการซื้อขายในวันนี้มีมากถึงหลายร้อยกิโลกรัม ถ้ายาจำนวนมหาศาลนี้แพร่กระจายออกไป จะต้องเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศของเรา”

 

“วางใจเถอะครับผู้บังคับบัญชาหวาง ตอนนี้พาผมไปที่นั่นเลย ผมสัญญาว่าจะถามความลับของเขาออกมาให้หมด”

 

“ขอบคุณครับคุณหมอฉิน ขอบคุณจริงๆ!”

 

สีหน้าท่าทางของหวางเจี้ยนเฟิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแตกต่างจากคนที่เคยเย็นชาเมื่อก่อนหน้านี้มาก

 

หลังจากพูดจบ เขาและน่าหลันอู๋เซี๋ยพาฉินห้าวตงไปยังห้องสอบปากคำที่อยู่ติดกัน บนเก้าอี้เหล็กในห้องสอบปากคำมีชายวัยรุ่นผมสีทองอายุประมาณยี่สิบกว่าปีนั่งอยู่

 

ชายคนนี้เจาะจมูกและสวมต่างหู มีลักษณะเหมือนพวกนักเลง ถึงแม้ว่าเขาจะถูกจับใส่กุญแจมืออยู่ แต่ก็ยังคงเงยหน้าจ้องมองด้วยสีหน้าท้าทายและประชดประชัน

 

หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว หวางเจี้ยนเฟิงพูดกับเด็กหนุ่มหัวทองว่า “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้รับการลดย่อนโทษ คุณจะสารภาพหรือไม่?”

 

เด็กหนุ่มหัวทองมองไปที่หวางเจี้ยนเฟิงแล้วมองไปที่น่าหลันอู๋เซี๋ยที่ยืนอยู่ด้านข้าง สายตาของเขาเผยแววลามกอนาจาร พลางพูดด้วยเสียงหัวเราะว่า “พาตำรวจหญิงที่สวยขนาดนี้มาสอบปากคำฉัน อยากจะล่อลวงฉันหรือไง? ถ้าหากคืนนี้เธอสามารถนอนกับฉันได้ ฉันก็อาจจะพิจารณาที่จะบอกพวกแก”

 

“รนหาที่ตายใช่ไหม!”

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยพูดขึ้นพลางยกมือเตรียมตบไปที่หน้าของเด็กหนุ่มผมสีทองนั่น แต่หวางเจี้ยนเฟิงรีบจับไว้

 

เด็กหนุ่มหัวทองกลับพูดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งว่า “เป็นไรล่ะ ไม่กล้าตีเหรอไง? ฉันรู้ว่าตอนนี้พวกแกไม่มีหลักฐานอะไร เดี๋ยวพวกแกก็ต้องปล่อยฉันภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าแกตีฉัน ฉันจะฆ่าแก!”

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ทันใดนั้นก็มีฝ่ามือขนาดใหญ่ตบไปที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง แรงตบทำให้เขามึนเวียนศรีษะไปพักหนึ่ง เขาถ่มน้ำลายที่ผสมกับเลือดออกมา

 

เด็กหนุ่มหัวทองหันหน้ามา เห็นเพียงชายวัยรุ่นรูปหล่อคนหนึ่งยิ้มให้เขา ชายคนนี้ไม่ได้สวมเครื่องแบบและดูไม่เหมือนพวกตำรวจ

 

หวางเจี้ยนเฟิงนึกไม่ถึงเลยว่าฉินห้าวตงจะอารมณ์ร้อนได้ขนาดนี้ พอบทจะลงมือก็ลงมือทันที เขาจึงรีบพูดขึ้น “คุณหมอฉินอย่าพึ่งวู่วามไป!”

 

พอเด็กหนุ่มหัวทองได้ยินว่าฉินห้าวตงคือหมอ จึงตะโกนด่าทันที “แม่แกสิวะ เป็นแค่หมอยังจะกล้ามาตบหน้าฉัน รอให้ฉันออกไปได้ก่อนเถอะ ฉันจะฆ่าแก……”

 

ไม่ทันรอให้เขาด่าจบ ฉินห้าวตงพลิกฝ่ามือตบไปที่ใบหน้าอีกด้านของเขาทันที “หนุ่มน้อย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่ตำรวจ แต่ฉันก็ส่งนายเข้าคุกได้ นายเชื่อไหมล่ะ?”

 

เด็กหนุ่มหัวทองจ้องฉินห้าวตงด้วยความโมโห ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างนั้น จู่ๆ ในแววตาของเขาปรากฏร่องรอยแห่งความมึนงง พลันกลืนคำพูดเมื่อครู่นี้ไปทันที

 

“พูดมาสิ คืนนี้พวกแกจะทำการซื้อขายยาเสพติดที่ไหน? มีคนกี่คน?”

 

ฉินห้าวตงถามคำถามตามที่หวางเจี้ยนเฟิงบอกเขาไว้ล่วงหน้า

 

น่าหลันอู๋เซี๋ยและหวางเจี้ยนเฟิงมองไปที่เด็กหนุ่มหัวทองอย่างเป็นกังวล ไม่รู้ว่าวิชาสะกดจิตของฉินห้าวตงจะใช้ได้ผลหรือเปล่า

 

“พวกเราจะทำการซื้อขายกันในโรงงานเคมีที่ถูกทิ้งร้างในเขตชานเมืองทางตะวันตกของเจียงหนาน พวกเราเป็นฝั่งผู้ค้ามีทั้งหมด 12 คน อีกฝ่าย……”

 

เด็กหนุ่มหัวทองเปิดเผยสิ่งที่เขารู้โดยไม่มีความลังเล เขาพูดข้อมูลทั้งหมดออกมา จากนั้นฉินห้าวตงจึงถามคำถามเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งเขาเองก็พูดมันออกมาได้อย่างชัดเจน

 

จบตอน

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 24 เคล็ดวิชาจิตฉงน"

4.4 17 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เรื่อง PS Im (not) Over You
เรื่อง PS Im (not) Over You
มีนาคม 12, 2022
ดาบพิโรธสวรรค์
ดาบพิโรธสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
ฉันแค่อยากเป็น “จ้าวอสูร”
ฉันแค่อยากเป็น “จ้าวอสูร”
มีนาคม 12, 2022
ยุคใหม่ของผู้อัญเชิญ
ยุคใหม่ของผู้อัญเชิญ
มีนาคม 12, 2022
I Am In Mavel​ ฉันอยู่ในโลกมาร์เวล
I Am In Mavel​ ฉันอยู่ในโลกมาร์เวล
มีนาคม 12, 2022
The Soul Purchasing Pirate
The Soul Purchasing Pirate
มิถุนายน 19, 2024
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz