หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ข้าคือราชาแห่งเทคโนโลยี (am the King Of Technology) - Chapter 6: สำรวจ (1)

  1. หน้าแรก
  2. ข้าคือราชาแห่งเทคโนโลยี (am the King Of Technology)
  3. Chapter 6: สำรวจ (1)
Prev
Next

 

พอพวกเขาออกมาจากปราสาท, แลนดอนก็รีบตรวจสอบกับระบบ

 

ระบบ, ฉันจะเรียกดูรายละเอียดแผนที่ของดินแดนนี้ได้ยังไง?

 

ตอบคำถามท่านโฮสท์, สิ่งที่ท่านโฮสท์จำเป็นต้องทำก็แค่เลือกดูแผนที่ของอาณาจักรที่จัดเก็บเอาไว้ในระบบ, และวงเน้นดินแดนที่เป็นของท่านโฮสท์เพียงเท่านั้น

 

            แค่นั้นอะนะ?

 

แลนดอนถามด้วยความรู้สึกที่แทบจะไม่เชื่อระบบ

 

            ถูกต้อง!

 

            แล้วถ้าเกิดในอนาคตฉันขยายดินแดนของตัวเองออกไปหล่ะ?

 

            ถ้าในกรณีนั้นสิ่งที่ท่านโฮสท์จำเป็นต้องทำก็แค่วงเน้นอาณาเขตที่เพิ่มออกมาในแผนที่ระบบก็พอแล้ว

 

แลนดอนพยักหน้าในขณะที่ฟังระบบ

 

            นอกจากนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างนึง, ระบบจะทำการแจ้งท่านโฮสท์ถ้าเกิดว่ามีศัตรูโจมตีหรือมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาในดินแดนของท่านโฮสท์

 

            ได้แบบนั้นก็ดี

 

แลนดอนมองแผนที่และตัดสินใจที่จะวงกลมรอบเบย์มาร์ดหนึ่งวง และเขาก็ทำให้มั่นใจว่าได้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 20 เมตรระหว่างกำแพงเมืองกับสภาพแวดล้อมรอบๆ

 

ในตอนที่เขาวงเสร็จเรียบร้อย, จอแสดงผลก็ปรากฎขึ้นมา

 

            ท่านต้องการแสดงดินแดนที่ท่านเลือกบนจอแสดงผลหรือไม่?

 

เขารู้สึกตื่นเต้น ด้วยจอแสดงผลนี้เขาจะสามารถตรวจสอบทุกพื้นที่ในเบย์มาร์ดได้โดยไม่ต้องไปดูด้วยตัวเอง นี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในกรณีที่เขามีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกดินแดนด้วยธุระด่วนต่างๆนาๆ เขาตอบตกลง, และดูภาพรวมของดินแดนโดยไม่ลังเล

 

พอมองดูจอแสดงผลนี้, เขาก็รู้สึกว่ามันคล้ายกับหน้าจอทีวีแบบจอกว้างทั่วๆไป

 

 เขามองเห็นชาวทะเลกำลังตกปลาอยู่ที่บริเวณชายหาด, ชาวสวนกำลังทำเกษตรอยู่ในเมือง, ผู้คนที่กำลังออกไปล่าสัตว์, กำแพงเมือง, ปราสาท, และอื่นๆ

 

เขารู้สึกพึงพอใจกับฟังก์ชั่นแผนที่ของระบบนี้

 

เบย์มาร์ดนั้นแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคใหญ่ๆ ได้แก่ ตอนบน, ตอนกลาง, ตอนล่าง

 

ในตอนที่เขาเดินทางมาถึงภูมิภาคตอนบนของเมืองนั้น, เขาก็เห็นที่ดินใหญ่ๆมากมาย มันมีที่ดินอยู่ 16 แห่ง, โดยแต่ละแห่งนั้นจะมีคฤหาสน์หินอย่างน้อย 6 หลังและอาคารเล็กๆอีกประมาณ 10 หลัง

 

คฤหาสน์พวกนี้ใหญ่โตมาก, และทุกหลังก็มีลานบ้านกับที่พักข้ารับใช้เป็นของตัวเอง

 

ที่ดินแต่ละแห่งจะถูกล้อมรอบด้วยรั้วสูงประมาณ 120 เซนติเมตร ดังนั้นแค่ไปยืนดูอยู่ตรงรั้วก็มองเห็นที่ดินทั้งหมดโดยไม่ต้องเขย่งตัวเลย

 

ถ้านี่เป็นโลกปัจจุบัน, ที่ดินแต่ละแห่งนั้นน่าจะสามารถใช้เปิดมหาวิทยาลัยใหญ่ๆได้เลย พวกมันกว้างขวาง, แต่ก็ไม่ได้กว้างเท่าปราสาทของเขา

 

            อย่างน้อยก็ไม่มีพวกขุนนางในเมืองมาคอยกวนใจฉันนะ

 

เจ้าเมืองคนก่อนนั้นเคยอาศัยอยู่ในปราสาทของแลนดอน, ในขณะที่ที่ดินเหล่านี้เคยเป็นของพวกบารอนกับดยุค

 

ในตอนที่พวกเขาได้ยินว่าเบย์มาร์ดจะไม่ได้รับการคุ้มครองจากอาร์คาดิน่าอีกต่อไป, พวกเขาทุกคนก็รีบหนีกลับไปที่เมืองหลวง

 

พวกเขาไม่อยากรับใช้แลนดอน การรับใช้เจ้าชายอายุ 15 ที่ไม่มีอำนาจนั้นมันน่าสมเพศเกินไป ในสายตาของพวกเขาแลนดอนก็เป็นแค่ขยะ, เจ้าชายที่มีทหารติดตามแค่ 330 คนงั้นหรอ? พวกเขาแข็งแกร่งกว่าเขาในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือจำนวนอัศวินที่อยู่ภายใต้การปกครองของพวกเขา ในโลกนี้พลังอำนาจคือทุกๆอย่าง

 

พวกเขารู้ว่าแลนดอนถูกเนรเทศมาที่เบย์มาร์ดพร้อมกับครอบครัวของเขา การอยู่ที่นี่ต่อไปก็มีแต่จะทำให้ตัวเองถูกพระราชาเกลียดชัง

 

การเลือกรับใช้แลนดอนก็ไม่ต่างอะไรจากการแทงข้างหลังพระราชา

 

นอกจากนี้, พวกเขาก็ไม่อยากให้ยืมอัศวินของพวกเขาไปใช้ปกป้องเบย์มาร์ดด้วย ณ ตอนนี้ถ้ามีสงครามระหว่างเบย์มาร์ดกับเมืองข้างเคียงเกิดขึ้น, ก็จะไม่มีกำลังเสริมที่ไหนส่งมาช่วยพวกเขาเลย

 

และเมื่อผนวกกับอาหารที่ขาดแคลนในดินแดน, มันก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่พวกเขาไม่เต็มใจจะยอมรับ

 

พวกเขารู้ว่าการที่พระราชาทำแบบนี้ก็เหมือนกับเป็นการบอกอ้อมๆว่า ‘ข้าอยากให้เจ้าชายแลนดอนออกไปจากอาร์คาดิน่า, และถ้ามีใครให้ความช่วยเหลือเขา, ก็จงเตรียมรับผลที่จะตามมาให้ดี’

 

พอแลนดอนกับเหล่าอัศวินของเขาออกมาจากภูมภาคตอนบน, พวกเขาก็มาถึงภูมิภาคตอนกลางของเบย์มาร์ด ภูมิภาคนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน

 

 ในตอนที่กลุ่มของเขาเดินไปตามเมือง, พวกเขาก็ทักทายเหล่าชาวบ้านและคอยช่วยเหลือพวกเขาต่างๆนา ในขณะนั้นเองแลนดอนก็สังเกตุสภาพรอบๆอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อเปรียบเทียบกับบ้านเรือนในเมืองหลวง, บ้านเรือนที่นี่ดูพังง่ายกว่า, แค่เจอสภาพอากาศที่เลวร้ายก็น่าจะไม่รอดแล้ว

 

จากความทรงจำของเขา, บ้านเรือนในเมืองหลวงนั้นทุกหลังสร้างมาจากไม้และหิน, ทำให้พวกมันมีความคงทนและอยู่ได้นาน

 

อย่างไรก็ตามบ้านเรือนในเบย์มาร์ดนั้นทำมาจากไม้, ฟางและโคลนดิน โดยโครงบ้านทั้งหมดทำมาจากไม้ซุง กำแพงทำจากกิ่งไม้แห้งผสมกับดิน และหลังคาก็ทำมาจากฟาง บ้านพวกนี้โดยทั่วไปแล้วเรียกว่าบ้านอิฐมอญ

 

เขาคิด

 

            ไม่แปลกใจเลยที่มีรายงานว่าเบย์มาร์ดมีอัตราการตายสูงสุดในอาร์คาดิน่า

 

นอกจากนี้ถนนที่นี่ยังเลวร้ายกว่าภูมิภาคตอนบนของเมือง มีแอ่งโคลนอยู่บนพื้นเป็นหย่อมๆและมีรูจำนวนมากอยู่ตามถนน

 

ในระหว่างทางไปภูมิภาคตอนล่างนั้น, พวกเขาเห็นกลุ่มคนกำลังแบกธนูกับลูกศรออกล่าสัตว์โดยหวังว่าจะได้เนื้อกลับไปให้ครอบครัวของพวกเขา, มีกลุ่มผู้หญิงกำลังแบกน้ำและมีพวกเด็กๆกำลังวิ่งเล่นอยู่รอบๆ

 

พอมาถึงภูมิภาคตอนล่าง, พวกเขาก็เห็นว่าทั้งหมดนั้นเป็นพืชพันธุ์ต่างๆและที่ดินทำการเกษตร

 

แลนดอนมองเห็นแปลงเกษตรกว่า 300 แปลง, แต่มีคนแค่ประมาณ 5 คนเท่านั้นที่อยู่บริเวณแปลงพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าแม้กระทั่งชาวเมืองก็ยังเชื่อว่าดินแดนของพวกเขาแห้งแล้ง

 

จากแปลงเกษตรมองไปทางตะวันตก, แลนดอนก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นที่ดินขนาดใหญ่สองแห่ง

 

จากนั้นเขาก็หันไปทางตะวันออกจากแปลงเกษตรและมองเห็นที่ดินที่ใหญ่โตมากที่นั่น แลนดอนรู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที เขาหันไปคุยกับลูเซียสและพวกอัศวิน

 

“ทำไมถึงมีขุนนางออกมาจากภูมิภาคตอนบนเพื่อมาสร้างที่ดินของตัวเองที่นี่? รู้สึกว่ามันแปลกไหม?”

 

            “นั่นสินะครับฝ่าบาท”

 

ลูเซียสพูดและคนอื่นๆก็พยักหน้า

 

            “ฝ่าบาทครับ, บางทีพวกเขาอาจจะเจออะไรบางอย่างที่มีค่าในภูมิภาคตอนล่างนี้และตัดสินใจอยู่ที่นี่ก็ได้นะครับ”

 

อัศวินขี้อายคนนึงพูด

 

อัศวินคนนี้มีผมสีบลอนด์และมีดวงตาสีน้ำตาลเข้ม ถ้าเขาเกิดในโลกปัจจุบันเขาคงจะดูเหมือนกับนักร้องเกาหลีเลย เขาไม่มีกล้ามเนื้อและดูอ่อนแออย่างเหลือเชื่อ, เหมือนกับกิ่งไม้ แต่แลนดอนก็ไม่ได้กังวลเพราะเมื่อเขาเริ่มฝึกพวกอัศวินแล้ว, พวกเขาก็จะมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

น้ำเสียงของอัศวินคนนี้แสดงให้เห็นถึงความเขินอายและความหวาดกลัว มันเห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีความมั่นใจในตัวเอง

 

            “เจ้าชื่ออะไร, อายุเท่าไหร่, อยู่ยศไหนแล้วพันเอกที่รับผิดชอบเป็นใคร?” แลนดอนถาม

 

            “ฝ่าบาท, ข้าชื่อบิลลี่ เวน, อายุ 17 ปี, เป็นทหารรับใช้อยู่ภายใต้การชี้นำของพันเอกมาร์คครับ”

 

            “บิลลี่, แสดงความคิดเห็นได้น่าสนใจมาก ข้าเองก็คิดว่าพวกเขาอาจจะมีสิ่งที่สามารถช่วยให้พวกเราพัฒนาอาณาจักรให้ดีขึ้นได้” แลนดอนพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ลึกๆในใจนั้นแลนดอนตกใจที่บิลลี่มีอายุ 17 ปีแล้ว เขาดูเหมือนกับเด็กชายอายุ 14 เลย

 

บิลลี่รู้สึกดีใจอย่างสุดๆในตอนที่ได้รับคำชมจากราชาของเขา  ก่อนอื่นต้องรู้เอาไว้ว่าในขณะที่เขาพูดเมื่อสักครู่นี้นั้นเขาตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า แต่พอเห็นว่าราชาของเขามีจิตวิญญาณที่สูงสุด, เขาก็รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

 

อัศวินคนอื่นๆเองก็พยักหน้าและคิดว่าสิ่งที่บิลลี่พูดมามีเหตุผล ถึงยังไง, แม้กระทั่งชาวบานก็ยังไม่ค่อยอยู่ที่นี่กัน แล้วทำไมถึงมีขุนนางบางคนอยู่หล่ะ? นี่มันดูน่าสงสัยมาก

 

“ไปทางตะวันตกกันก่อนเถอะ, ข้าอยากรู้ว่าทำไมพวกขุนนางถึงต้องมีที่ดินตรงนั้นถึงสองแห่ง, เมื่อเทียบกับทางฝั่งตะวันออก”

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "Chapter 6: สำรวจ (1)"

3 1 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Black Tech Internet Cafe System
Black Tech Internet Cafe System
มีนาคม 12, 2022
เกมสังหารวันอวสานโลก 末世虐杀游戏最新章节
เกมสังหารวันอวสานโลก 末世虐杀游戏最新章节
มีนาคม 12, 2022
มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์
มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์
มีนาคม 12, 2022
ปก_ระบบสร้างซอมบี้-01
ระบบสร้างซอมบี้
กันยายน 24, 2023
ปล้นสวรรค์
ปล้นสวรรค์
มีนาคม 12, 2022
Seized by the System
Seized by the System
มีนาคม 12, 2022
Tags:
sci-fi
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz