หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family) - บทที่ 32 เจ้า 7

  1. หน้าแรก
  2. ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
  3. บทที่ 32 เจ้า 7
Prev
Next

บทที่ 32 เจ้า 7 

 

คาร์ลออกจากลานฝึกซ้อมพร้อมกับเชวฮัน

 

“ฮันส์..รอน….จัดการพาสองคนที่อยู่ด้านในออกมาที”

 

คาร์ลได้สั่งให้ฮันส์และรอนที่รออยู่ด้านนอกทางเข้าลานฝึกซ้อมชั้นใต้ดินให้พาโรสลินและล็อกออกมาจากด้านในและจัดการดูแลความสะดวกของทั้งสองให้เรียบร้อย ขณะที่คาร์ลมุ่งหน้ากลับไปยังห้องของตนพร้อมกับเชวฮันทันที  โต๊ะที่ถูกวางอาหารเย็นชืดที่ถูกจัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ได้อยู่ตรงหน้าระหว่างพวกเขาทั้งสองคนแล้ว ก่อนที่คาร์ลจะเริ่มพูดขึ้น

 

“เล่าให้ข้าฟังที”

 

“ขอรับ…”

 

ทั้งสองสามารถเข้าใจกันได้ในทันทีโดยไม่ต้องมีการเกริ่นนำใดๆ เชวฮันยืดตัวขึ้นเล็กน้อยและเริ่มพูด

 

“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีจนกระทั่งกระผมได้พบกับโรสลิน”

 

“..เล่าต่อไป..”

 

“กระผมมาถึงเมืองที่ท่านคาร์ลได้บอกเอาไว้ เมื่อไปถึงที่นั่นก็ได้พบกับสมาคมพ่อค้ากลุ่มหนึ่งที่มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตามที่ท่านคาร์ลได้อธิบายเอาไว้ มันเป็นเพียงแค่กลุ่มพ่อค้าเล็กๆที่มีคนเพียงห้าคนจนไม่อาจเรียกได้ว่ากลุ่มสมาคมพ่อค้าได้”

 

หากเรียกว่ากลุ่มพ่อค้าขนาดเล็กจะสามารถอธิบายได้ชัดเจนกว่ากลุ่มสมาคมพ่อค้าเสียอีก

 

“พวกเขาได้จัดหาทหารรับจ้างสองนายเพื่อคอยคุ้มกันพวกเขามันย่อมเป็นเช่นนั้นเพราะผู้คุ้มกันของพวกเขาได้รับบาดเจ็บ”

 

ตามเนื้อหาในนิยาย เชวฮันและโรสลินจะกลายเป็นทหารรับจ้างสองนายนั่น

 

“และนั่นทำให้กระผมได้พบกับโรสลินตามที่ท่านคาร์ลได้บอกเอาไว้”

 

อาณาจักรเบร็คอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรโรมัน ตอนแรกโรสลินต้องการออกจากอาณาจักรเบร็คเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอคอยพลังเวทย์ที่อยู่ในอาณาจักรวิปเปอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอาณาจักรโรมัน ก่อนที่จะมีคนพยายามลอบสังหารเธอขณะที่เดินทางผ่านอาณาจักรโรมันไป

 

เธอซ่อนทักษะการใช้พลังเวทย์ของเธอเกือบครึ่งหนึ่งเอาไว้และรอเวลาสำคัญในการหลบหนีก่อนที่เธอจะสามารถใช้ทักษะทั้งหมดที่เธอมีหลบหนีจากอันตรายมาได้ เธอคิดว่ามันคงจะเป็นเรื่องที่ดูฉลาดกว่าหากจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันเพื่อหาข้อมูลบ้างส่วนจากสมาคมพ่อค้าแทนที่จะกลับไปยังอาณาจักรเบร็คโดยที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนร้ายที่พยามลอบสังหารเธอเลย

 

‘และเมื่อถึงเวลานั้นเธอจะเป็นสาเหตุของสถานการณ์บางอย่างเมื่อเดินทางกลับไปถึงอาณาจักรเบร็ค’

 

เชวฮันได้เล่าถึงการพบกันระหว่างเขากับโรสลินที่เป็นทหารรับจ้างของกลุ่มพ่อค้าต่อไปเรื่อยๆ

 

“เธอกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงและตั้งแต่ที่เรามุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงด้วยกันเราก็ค่อนข้างที่จะเป็นมิตรต่อกันมากขึ้น”

 

‘ห๊ะ?’

 

“หืม?….เป็นมิตรเช่นนั้นหรือ?”

 

“ใช่…”

 

เชวฮันพูดขึ้นด้วยท่าทางที่ดูเก้อเขินเล็กน้อย

 

“กระผมไม่ใช้คนที่จะเริ่มพูดคุยกับคนอื่นได้ถ้าหากพวกเขาไม่พูดกับกระผมก่อนแต่…กระผมคิดว่าพวกเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้”

 

“ไม่จริงน่า….เจ้าต้องทำตัวตามปกติเหมือนที่เคยทำสิ”

 

คาร์ลมีสีหน้าเป็นกังวล ในนิยายเรื่องนี้ทั้งเชวฮันและโรสลินจะไม่ได้เข้าใกล้กันจนกว่าพวกเขาจะได้พบกับล็อก โรสลินกลายเป็นคนระวังตัวหลังจากที่โดนลอบสังหารจึงทำให้เธอไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครเช่นเดียวกับเชวฮันหลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่ในหมู่บ้านแฮร์ริสเขาจึงกลายเป็นคนที่ไม่น่าจะเป็นมิตรกับใครได้อีก

 

เชวฮันพยักหน้าตอบรับกับคำพูดของคาร์ลก่อนที่จะยิ้มออกมาและพูดเพิ่มเติม

 

“มันไม่ได้เป็นสิ่งที่กระผมมักจะทำแต่กระผมต้องการทำในสิ่งที่มันถูกต้องเพราะนี่เป็นวิธีของกระผมที่จ่ายเงินคืนท่านได้”

 

เฮ้อ……คาร์ลถอนหายใจออกมาและส่ายศีรษะของตนเบาๆ

 

เชวฮันดูเหมือนจะคาดหวังว่าเขาสามารถจัดการมันได้อย่างดีก่อนที่เขาจะพูดต่อด้วยท่าทางที่เคร่งขรึมขึ้น

 

“กลุ่มคนพวกนั้นวางแผนที่จะพักในหมู่บ้านที่ท่านคาร์ลกล่าวไว้ว่ากระผมจะได้พบกับล็อกและจะพักอยู่ที่นั่น2-3 วันก่อนออกเดินทางต่อ”

 

นั่นคือเรื่องจริงที่ว่ากลุ่มพ่อค้าเล็กๆ5คนนั่นถูกก่อตั้งขึ้นจากคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินและผู้คุ้มกันที่ได้รับบาดเจ็บก็เป็นนักรบผู้คุ้มกันจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินจริงๆ

 

พ่อค้าได้จงใจที่จะเลือกใช้เส้นทางที่ห่างไกลจากเมืองพัซเซิลไปยังเมืองหลวงเพื่อส่งมอบสิ่งของที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันให้แก่ชาวเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินและได้รับสุมนไพรหายากเป็นของแลกเปลี่ยน

 

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ยากลำบากเช่นเดียวกับการเสียเวลามากยิ่งขึ้นหากต้องเดินทางลึกเข้าไปในภูเขาซึ่งเป็นที่อยู่ของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงิน นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาได้นัดพบกันที่หมู่บ้านเล็กๆที่อยู่ด้านล่างของภูเขาแทน ในตอนนี้พ่อค้าคนนี้มีอายุได้ 60 ปีและเขาได้เป็นหุ้นส่วนกับเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินมาได้สามสิบปีแล้ว

 

“แต่มีบางอย่างเกิดขึ้น..เมื่อเรามาถึงหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้แล้ว”

 

คาร์ลเริ่มตื่นตัวเมื่อได้ยินเชวฮันเอ่ยขึ้น เรื่องที่สำคัญจะเริ่มตั้งแต่ตรงนี้สินะ?

 

“ทันทีที่เราเดินทางถึงหมู่บ้าน…กระผมจึงได้ทราบว่าผู้คุ้มกันเป็นสัตว์อสูรของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินและกระผมก็ได้รู้ว่าพวกเขากำลังวางแผนที่จะไปพบกับสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินเพื่อทำการค้าด้วยกันซึ่งก็เป็นหมู่บ้านเดียวกับที่ท่านคาร์ลได้บอกเอาไว้”

 

คาร์ลพยักหน้าให้กับคำพูดของเชวฮัน เขารู้ว่าว่าเชวฮันเป็นคนที่เข้าใจอะไรๆได้ง่ายมาก

 

“นั่นเป็นเหตุผลที่กระผมเชื่อว่า..จำเป็นที่จะต้องติดตามสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อตามหาล็อกให้เจอให้ได้”

 

‘แต่สมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินก็ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้น’

 

“แต่…ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้นเพื่อทำการค้าสักคนเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้วพ่อค้าจึงได้ขอให้เราช่วยพวกเขาเพิ่มเติม”

 

คาร์ลนึกถึงคำขอที่พวกเขาจะได้รับ

 

‘เข้าไปในหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินพร้อมกับผู้คุ้มกันจากเผ่าที่ได้รับบาดเจ็บ’

 

“เหล่าพ่อค้าขอให้พวกเราเข้าไปในหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินพร้อมกับผู้คุ้มกันที่ได้รับบาดเจ็บ”

 

“แล้วเจ้าก็เห็นด้วยเช่นนั้นหรือ?”

 

“ใช่…ทั้งกระผมและโรสลินต่างคิดเช่นเดียวกัน”

 

มันยังคงเป็นเรื่องราวเช่นเดียวกับในนิยายเพียงแต่อาจมีบางอย่างที่เปลี่ยนไปได้?

 

ในนิยายเรื่อง ‘กำเนิดวีรบุรุษ’ เชวฮันและโรสลินได้เดินทางเข้ามาถึงหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินพร้อมกับนักรบผู้คุ้มกันของเผ่า ก่อนที่จะเห็นเพียงหมู่บ้านที่ถูกทำลายพร้อมกับนักฆ่าจากองค์กรลับที่พยายามจะออกไปจากหมู่บ้าน เชวฮันได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านแฮร์ริสและเริ่มโจมตีพวกเขาทันที พร้อมๆกับที่นักรบผู้คุ้มกันของเผ่าจะเกิดการคลุ้มคลั่งและเริ่มสังหารเหล่านักฆ่าทันที เขาได้รับบาดเจ็บมากขึ้นจากการต่อสู้ในครั้งนี้และจบลงด้วยความตาย

 

‘และนั่นทำให้โรสลินเห็นความแข็งแกร่งของเชวฮัน’

 

โรสลินผู้ซ่อนความแข็งแกร่งของตนและปลอมตัวเป็นเพียงนักเวทย์ขั้นต้นเท่านั้น เธอได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของเชวฮันและขอให้เขากลับไปยังอาณาจักรเบร็คเป็นเพื่อนเธอให้ได้ แน่นอนว่าค่าตอบแทนที่เธอเสนอให้เขานั้นเป็นจำนวนมาก

 

‘ทั้งสองคนได้พบกับล็อกที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านที่ถูกทำลายอย่างราบคาบนี้’

 

‘ล็อก’เด็กชายหมาป่าที่แสนขี้ขลาดเขายังคงซ่อนตัวอยู่ในจุดที่หัวหน้าเผ่าได้บอกกับเขาไว้จนกระทั่งเชวฮันหาเขาพบ บุคลิกที่สำคัญของล็อกนั้นเขาเป็นคนที่ขี้ขลาด อ่อนแอและเชื่องช้า เรียกได้ว่าตัวละครของล็อกเป็นตัวละครที่ทำให้นักอ่านรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญได้ง่ายมาก

 

อย่างไรก็ตามความสามารถที่แท้จริงและความแข็งแรงของร่ายกายของเขาก็ถูกจัดให้เป็นผู้แข็งแกร่งในห้าอันดับแรกของนิยายเรื่องนี้หลังจากที่เขาผ่านการกลายร่างเป็นครั้งแรกแล้ว

 

“ท่านคาร์ล….”

 

“อะไร?”

 

‘แต่ทำไมเวลาการกลายร่างของเขาถึงได้เกิดเร็วกว่าในนิยายถึงหนึ่งปี?’

 

“…ที่นั่น..ข้าเห็นบางอย่างที่ข้ารู้สึกคุ้นเคย”

 

“เจ้าเห็นอะไร?”

 

เชวฮันพยักหน้าให้กับคำถามของคาร์ล อาหารที่เย็นชืดถูกวางไว้ตรงหน้าของพวกเขาแต่มันอาจจะร้อนขึ้นได้อย่างอัตโนมัติจากบรรยากาศที่เริ่มคุกรุ่นของพวกเขาในตอนนี้ ก่อนที่เชวฮันจะเริ่มพูดต่อ

 

“ดาวสีแดงและดาวสีขาวห้าดวง”

 

คาร์ลตัวแข็งทื่อไปทันที เขารู้สึกได้ว่าหัวใจได้หล่นไปกองแทบเท้าแล้ว เชวฮันกล่าวว่าเขาได้พบกับทีมนักฆ่าที่เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการขององค์กรลับในเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินนั่น คาร์ลไม่เข้าใจในเรื่องนี้นัก..ทำไมนิยายเรื่องนี้จึงให้เผ่าหมาป่าสีน้ำเงินเป็นเป้าหมายของการถูกลอบสังหารได้

 

เชวฮันมองไปยังท่าทางที่แข็งกระด้างของคาร์ลและนึกถึงอดีตที่ผ่านมาชั่วครู่ เขาเริ่มกำหมัดของเขาแน่นขึ้นกำปั้นของเขากำลังสั่นด้วยความโกรธ

 

บ้านเรือนในหมู่บ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในภูเขามีขนาดเล็กและเรียบง่ายแต่ทั้งหมดล้วนถูกทำลายลง สิ่งสำคัญที่สุดคือซากศพของคนจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินที่มีสีดำสนิทราวกับว่าโดนไฟลาวาแผดเผา ศพสีดำมีกลิ่นไหม้และมีเลือดไหลออกจากบาดแผลของพวกเขา สมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินส่วนใหญ่เสียชีวิตทั้งๆที่ตายังคงลืมอยู่

 

“หมู่บ้านนั่นถูกทำลายจนย่อยยับและเมื่อเราไปถึงที่นั่นสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินหลายคนก็จบชีวิตลงแล้ว”

 

เผ่าหมาป่าสีน้ำเงินขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่งหากเป็นเช่นนั้นทำไมองค์กรลับจึงสามารถฆ่าพวกเขาได้?

 

 

 

เพราะหมาป่าได้ยกให้ครอบครัว ฝูง และสหายมาก่อนตัวเองเสมอ

 

สำหรับสมาชิกของเผ่าที่เป็นเพียงเด็กยังคงมีกำลังอ่อนแอและไม่เคยผ่านการกลายร่างเป็นครั้งแรก นักฆ่าจากองค์กรลับได้จับพวกเขาไว้เป็นตัวประกันและใช้เครื่องมือเวทย์ที่ถูกสร้างมาจากพลังของพระเจ้าทำให้สมาชิกของเผ่าที่เป็นผู้ใหญ่อ่อนกำลังลงและลงมือฆ่าพวกเขาทันที หลังจากที่ฆ่าสมาชิกเผ่าวัยผู้ใหญ่แล้วจึงจะลงมือฆ่าเด็กๆ มีสมาชิกเผ่าวัยผู้ใหญ่จำนวน 2-3คนพยายามเข้าโจมตีกับเหล่านักฆ่าโดยการกลายร่างเป็นหมาป่าแต่พวกมันก็ใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์จัดการกับหมาป่าเหล่านั้นได้ในทันที

 

องค์กรลับนี้เป็นองค์กรที่แข็งแกร่งและสามารถเข้าถึงเครื่องมือเวทย์ที่ถูกสร้างมาจากพลังของพระเจ้าได้ทุกชนิด ความจริงที่ว่าเผ่าหมาป่าถูกปฏิเสธโดยพระเจ้านั่นจึงเป็นประโยชน์ของพวกมัน นักฆ่าจากองค์กรลับที่โหดเหี้ยมสำหรับพวกมันไม่มีปัญหาในการจับเด็กๆเป็นตัวประกันเพื่อลงมือฆ่าพ่อ แม่และสมาชิกทั้งหมดในเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินต่อหน้าของเด็กๆที่เฝ้าดูด้วยความหวาดกลัว

 

‘ในนิยายไม่ได้กล่าวถึงเครื่องมือเวทย์ของพระเจ้าที่พวกมันใช้อย่างละเอียด’

 

ถ้าคาร์ลรู้ว่าเครื่องมือเวทย์ของพระเจ้ามีลักษณะเช่นไรเขาก็สามารถเข้าใกล้ตัวตนที่แท้จริงขององค์กรลับได้อีกก้าวหนึ่ง แต่น่าเสียดายที่นิยายเรื่องนี้อธิบายแค่ว่าสมาชิกของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินอ่อนกำลังลงด้วยเครื่องมือเวทย์ที่ทำมาจากพลังของพระเจ้าเท่านั้น ทำให้เขาไม่สามารถระบุตัวตนที่แน่ชัดขององค์กรลับนี้ได้

 

คาร์ลเอ่ยถามเชวฮันอย่างช้าๆ

 

“พวกเขาตายทั้งหมดหรือไม่?”

 

เชวฮันส่ายศีรษะของเขาเบาๆ นั่นทำให้คาร์ลชะงักค้างไปอีกครั้ง เชวฮันได้สังเกตเห็นท่าทางของคาร์ลในขณะที่เขาเริ่มพูดต่อ

 

“พวกมันพยายามที่จะจับตัวเด็กๆไว้”

 

‘พยายามจะจับตัวเด็กๆไว้?’ ตามเนื้อหาในนิยายพวกมันจะต้องลงมือฆ่าทุกคนในเผ่าแต่ทำไม…พวกมันจึงต้องการจับตัวเด็กๆของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินนี้ด้วย?

 

คาร์ลเริ่มสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชวฮันได้สบสายตากับคาร์ลที่กำลังครุ่นคิดอย่างเคร่งเครียด

 

“หัวหน้าเผ่ากำลังจะตายเมื่อเรามาถึงทางเข้าหมู่บ้านของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินนี้”

 

เผ่าหมาป่าสีน้ำเงินมีสมาชิกเผ่าน้อยกว่า 100 คน

 

“…และพวกมันพยายามที่จะเอาเด็กๆ 10 คนไปกับพวกมันด้วย”

 

‘……มันต่างจากเนื้อหาในนิยายมากเกินไป’

 

“ในตอนที่หัวหน้าเผ่าหมดลมหายใจไปแล้ว…มีเด็กชายคนหนึ่งพยายามขัดขวางกลุ่มนักฆ่าที่กำลังพาตัวเด็กๆออกไปจากเผ่า”

 

“ล็อก…..?”

 

“ใช่…..เขาคือล็อก”

 

‘ทำไมล็อกจึงปรากกฎตัวขึ้นในตอนนี้? ในนิยายเขาพยายามหลบซ่อนตัวแม้แต่ในตอนที่เด็กเล็กๆถูกฆ่าตาย หรือเขาคิดว่าการฆ่าและการลักพาตัวนั่นมันแตกต่างออกไป?บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่าจำเป็นที่จะต้องปกป้องสมาชิกในครอบครัวและเหล่าพี่น้องในเผ่าที่อ่อนแอกว่าตนก็เป็นได้? เเพราะสาเหตุใดกันนะถึงทำให้สัญชาตญาณหมาป่าของล็อกลุกโชนขึ้นได้?’

 

“ข้าพยายามหยุดพวกนักฆ่า….ไม่สิ…ข้าพยายามฆ่าพวกมัน”

 

เชวฮันเอ่ยขึ้นขณะที่มองไปที่คาร์ลที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาก่อนที่คาร์ลจะเรียกร้องให้เชวฮันเล่าต่อ

 

“เล่าต่อไป…..”

 

“…..กระผมตระหนักได้ว่าคนที่ไม่มีดาวบนเสื้อผ้าของพวกมันใช้พลังแห่งความมืดเช่นเดียวกับมือสังหารที่กระผมได้ลงมือฆ่าที่หมู่บ้านแฮร์ริส”

 

คาร์ลถามกลับด้วยความตกใจ

 

“มันเป็นพลังเช่นเดียวกับที่ใช้ทำลายหมู่บ้านแฮร์ริสเช่นนั้นหรือ?”

 

“ใช่…..”

 

“…..นี่มัน…”

 

คาร์ลจับที่ศีรษะของตนและถอนหายใจ เขาพยายามทำตัวให้เหมือนว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ยินเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการแสดงละครเท่านั้น

 

“ในกลุ่มนักฆ่านั่นมีเพียงคนเดียวที่มีดาวสีแดงและดาวสีขาวห้าดวงอยู่บนอกเสื้อและมันเป็นคนลงมือฆ่าผู้คุ้มกัน”

 

เชวฮันเริ่มตัวสั่นด้วยความโกรธ

 

“ไอ้ถังขยะสกปรกนั่นดื่มเลือดของคนจากเผ่าหมาป่าสีน้ำเงิน”

 

คาร์ลปิดตาของตนลง

 

‘นักเวทย์เล่นเลือด’… เขามันเป็นคนบ้า…ความบ้าของเขาจะนำไปสู่เหตุการณ์ที่น่ากลัวในเมืองหลวง คาร์ลยังคงหลับตาของเขาในขณะที่หูก็ยังคงฟังสิ่งที่เชวฮันเล่าต่อไป

 

“แต่สุดท้ายกระผมก็ไม่สามารถจับตัวหรือฆ่าพวกมันได้ คนที่สามารถจับตัวไว้ได้ก็ชิงฆ่าตัวตายไปก่อนในขณะที่คนอื่นๆก็หายตัวไปเมื่อคนที่มีดาวติดอยู่ที่อกเสื้อใช้พลังเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสาร”

 

‘ทำไมนักเวทย์เล่นเลือดที่มีพลังเวทย์ขั้นสูงและบ้าคลั่งในเลือดเช่นนั้นจึงพยายามลักพาตัวเด็กๆของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินไปแทนการลงมือฆ่าพวกเขาทั้งหมดเหมือนในนิยายกันนะ?’

 

คาร์ลไม่สามารถคิดมันออกได้

 

‘ทำไมเรื่องมันจึงเปลี่ยนแปลงไปหมดหรือเป็นเพราะว่าฉันได้ช่วยมังกรเอาไว้?’

 

นั่นเป็นสิ่งที่เดียวที่คาร์ลนึกถึงได้มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เขาได้ลงมือทำให้มันต่างไปจากเนื้อเรื่องในนิยายมากกว่าเรื่องอื่น

 

“เจ้านักเวทย์นั่นมันได้กล่าวบางอย่าง”

 

เชวฮันเอ่ยขึ้นด้วยความโกรธและเสียงเข้มขึ้น

 

“…น่าเสียดายจริงๆ…พวกเขาเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบ..เด็กๆเหล่านี้อาจจะมีเลือดที่รสชาติดีกว่าที่ข้าเคยลิ้มลอง”

 

เมล็ดพันธุ์?…..คาร์ลไม่รู้ว่านักเวทย์คนนี้หมายถึงอะไร แต่เขาเก็บคำถามเหล่านี้ไว้ในใจและลืมตาขึ้นเพื่อเอ่ยถามเชวฮัน

 

“แล้วตอนนี้เด็กๆอยู่ที่ใด?”

 

ผู้คุ้มกันและสมาชิกวัยผู้ใหญ่ของเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินล้วนจบชีวิตลงหมดเหลือเพียงแค่เด็กๆ 10 คนและล็อกเท่านั้น

 

เชวฮันหลบสายตาของคาร์ลเป็นครั้งแรกตั้งแต่นั่งลงบนโต๊ะนี้ คาร์ลรู้สึกได้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่างในขณะที่เชวฮันเอ่ยรายงานเขาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา

 

“พวกเขาทั้งหมดพักอยู่ที่โรงแรม”

 

‘…..ว่าแล้วไง……’

 

เชวฮันอ้าปากและหุบปากของเขาสลับไปมาสักพักก่อนที่จะรายงานเพิ่ม

 

“พวกเรามาที่นี่พร้อมกันด้วยพลังเวทย์เคลื่อนย้ายมวลสารของโรสลิน”

 

‘…..มันคงจะเป็นปัญหาจริงๆสินะ’

 

คาร์ลอาจต้องปวดหัวเพิ่มเติม เชวฮันควรที่จะทิ้งเด็กไว้กับพ่อค้าที่เดินทางไปด้วยแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีอำนาจแต่ก็นับได้ว่าเป็นพ่อค้าที่ดี

 

“ท่านคาร์ล….พ่อค้าก็พักอยู่ที่โรงแรมนั้นด้วย”

 

‘….เออ….แล้วเรื่องนี้มันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันนะ?’

 

นั่นคือสิ่งที่คาร์ลกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ เขาลอบสังเกตเชวฮันที่ดูเหมือนจะหมดเรื่องที่จะรายงานแก่เขาแล้ว ก่อนที่เชวฮันจะค่อยๆเอนตัวลงบนพนักเก้าอี้เพื่อถอนหายใจ

 

เมื่อเห็นท่าทางของเชวฮันเช่นนั้น คาร์ลจึงเอ่ยถามขึ้น

 

“ดูเหมือนว่าเจ้ายังมีเรื่องที่ยังอยากรู้อยู่”

 

เชวฮันจ้องไปที่อาหารเย็นชืดบนโต๊ะและตอบคำถามของคาร์ล

 

“ใช่…กระผมมีเรื่องที่อยากรู้”

 

และเขาไม่ต้องการเอ่ยในสิ่งที่เขาอยากจะรู้ออกมาเช่นกัน

 

พวกมันเป็นใคร?

 

ทำไมพวกมันจึงทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้?

 

ทำไมท่านคาร์ลถึงรู้เรื่องพวกนี้ได้?

 

เชวฮันอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมด คาร์ลสังเกตเห็นดวงตาของเชวฮันที่จ้องไปยังอาหารบนโต๊ะและเริ่มคิด

 

‘ท่าทางเจ้านี้จะโกรธเสียแล้ว’

 

ความโกรธของเชวฮันไม่ได้พุ่งเป้าไปที่คาร์ลแต่ความโกรธมันถูกส่งไปยังองค์กรลับนั้นเฉกเช่นใบมีดอันแหลมคม การสังหารหมู่ที่หมู่บ้านแฮร์ริส การจับมังกรมาทรมานและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเผ่าหมาป่าสีน้ำเงินนั่น เชวฮันเป็นคนประเภทที่จะเข้าไปปะทะกับพวกมันมากกว่าที่จะหลบเลี่ยง

 

คาร์ลหยิบขนมปังที่เย็นชืดแต่คาดว่ายังคงมีรสชาติที่อร่อยอยู่ ก่อนจะฉีกเป็นชิ้นเล็กๆและโยนเข้าไปในปาก

 

“ข้าวางแผนที่จะบอกเจ้าอยู่สองเรื่อง”

 

“….แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่าง”

 

“ถูก….”

 

คาร์ลไม่สนใจว่าเชวฮันกำลังจ้องมองเขาอยู่ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับขนมปังที่ยังอยู่ในมือ เก้าอี้ถูกดันถอยหลังโดยไม่เกิดเสียงดังรบกวนจากพื้นพรม

 

“ลุกขึ้น!”

 

“….เรากำลังจะไปไหนกันหรือท่านคาร์ล?”

 

คาร์ลก้มลงมองนาฬิกาเพื่อตรวจสอบเวลาหลังจากที่เชวฮันลุกขึ้นยืนแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำที่ย่างกรายเข้าสู่เวลากลางคืนแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เปล่งประกายสดใสในยามค่ำคืน คาร์ลเดินไปที่ประตูและตอบคำถามของเชวฮัน

 

“วิหารของพระเจ้าแห่งความตาย”

 

คาร์ลวางแผนที่จะเดินทางไปยังที่นั่นพร้อมกับเชวฮันไปยังสถานที่ที่สว่างไสวที่สุดในยามค่ำคืน ‘วิหารของพระเจ้าแห่งความตาย’

 

มีนักบวชที่มีลักษณะพิเศษอยู่ในวิหารของพระเจ้าแห่งความตายซึ่งไม่สามารถหาพบได้จากที่ใดในทวีปนี้แล้วนอกจากที่วิหารแห่งนี้

 

‘นักบวชผู้ที่ไม่ได้ยินสิ่งใดๆหรือเรียกง่ายๆว่านักบวชหูหนวกนั่นเอง’

 

พวกเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรที่คุณพูดกับคนอื่นนั่นคือเหตุผลที่เหล่าผู้ศรัทธาในพระเจ้าแห่งความตายจะมองหานักบวชเหล่านี้ แม้ว่าคาร์ลจะไม่ได้ศรัทธาเขาก็วางแผนที่จะไปเยี่ยมเยียนที่นั่นเช่นเดียวกับขุนนางส่วนใหญ่

 

คาร์ลหันหลังกลับไปเมื่อเดินถึงประตูห้อง เชวฮันยังคงยืนอยู่ข้างโต๊ะก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้แก่เชวฮัน

 

“ข้าวางแผนที่จะบอกความจริงกับเจ้าสองข้อ”

 

ถึงแม้ว่าคาร์ลจะยิ้มแต่สิ่งที่ออกมาจากปากของเขาต่อไปนี้กลับไม่ได้ดูเบาเลยสักนิด

 

“ด้วยชีวิตของข้า….”

 

ดวงตาของเชวฮันสั่นไหวเบาๆ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นคาร์ลก็ยังคงยิ้มเต็มใบหน้าของเขาก่อนที่จะมองไปรอบๆและเอ่ยกับเชวฮันอีกครั้ง

 

“ตามข้ามา…”

 

เชวฮันค่อยๆขยับออกห่างจากโต๊ะและมุ่งหน้าไปที่ประตู ดวงตาของเขาสงบลงแล้วแต่ใบหน้ายังคงเคร่งเครียดอยู่ คาร์ลกำลังเปิดประตูและย้ำกับตัวเองอีกครั้ง

 

“ข้าจะบอกความจริงกับเจ้าโดยการใช้ชีวิตของข้าเป็นหลักประกัน”

 

คาร์ลมุ่งหน้าไปยังวิหารของพระเจ้าแห่งความตายพร้อมกับเชวฮันทันที

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 32 เจ้า 7"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

Castle of Black Iron
Castle of Black Iron
พฤษภาคม 17, 2022
กาลครั้งหนึ่ง … ในยุคราชวงศ์หมิง
กาลครั้งหนึ่ง … ในยุคราชวงศ์หมิง
มีนาคม 12, 2022
ปราณเทวะ เทพหยวน
ปราณเทวะ เทพหยวน
มีนาคม 12, 2022
love code at the end of the world
love code at the end of the world
มีนาคม 12, 2022
Legend of the Mythological Genes
Legend of the Mythological Genes
กุมภาพันธ์ 23, 2023
อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来)
อั่งเปาทะลุโลก (发个红包去未来)
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz