หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family) - บทที่ 27 เจ้า 2

  1. หน้าแรก
  2. ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
  3. บทที่ 27 เจ้า 2
Prev
Next

บทที่ 27 เจ้า 2

 

“เข้ามาก่อนสิ”

 

คาร์ลเดินนำพวกเขาเข้ามาในห้องโดยมีเคจผลักรถเข็นที่มีเทย์เลอร์นั่งอยู่เข้ามาภายในห้อง เมื่อเห็นเคจได้นั่งลงบนเก้าอี้แล้ว คาร์ลก็ไม่ได้สนใจที่จะไปหยิบขวดเหล้าก่อนเอ่ยถามทันที

 

“ท่านต้องการอะไร?”

 

น้ำเสียงของคาร์ลเรียบเย็นเช่นเดียวกับใบหน้าที่ยังคงเป็นปกติ อย่างไรก็ตามในสิ่งที่เทย์เลอร์เห็นในตอนนี้เป็นการยืนยันความคิดของเขาว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่เพียงขยะไร้ค่าแต่ความเป็นจริงเขาฉลาดยิ่งกว่าที่คนส่วนใหญ่คาดไว้เสียอีก

 

เทย์เลอร์ไม่ได้มาที่นี่เพื่อดื่มเหล้ากับคาร์ล เครื่องดื่มแอลกอฮอร์เป็นสิ่งที่ดีมากหากดื่มกับคนที่ไว้วางใจหรือแม้แต่เป็นวิธีดื่มเพื่อกระชับความสัมพันธ์โดยง่ายและสังเกตพฤติกรรมของคนอื่นได้ด้วยเช่นกัน

 

“ท่านคิดว่าข้าเป็นคนเช่นไรกันเล่า…นายน้อยคาร์ล?”

 

คาร์ลลอบสังเกตเทย์เลอร์อย่างเงียบๆเมื่อเขาได้เอ่ยคำถามนั้นแก่ตนก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนเพื่อหยิบกระเป๋าออกมาและนำมันกลับไปวางที่โต๊ะต่อหน้าคนทั้งสอง

 

เคร้ง!

 

เสียงเหมือนโลหะตกกระทบกับพื้นดังไปทั่วห้อง มันเป็นเสียงที่ดังมาจากสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋าที่ถูกเปิดออกแล้วข้างในของมันประกอบไปด้วยเหรียญทอง เหรียญเงินและเหรียญทองแดง พร้อมๆกับเสียงที่เอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจของคาร์ล

 

“ข้าไม่รู้ว่าทำไมท่านต้องเดินทางไปยังเมืองหลวงในตอนที่เหล่าขุนนางทั่วทั้งอาณาจักรต่างก็มุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงเช่นกัน แต่ข้ารู้ว่าสิ่งที่คนเช่นท่านต้องการจากข้าเมื่อได้เข้ามาในถ้ำเสือเช่นนี้แล้ว….”

 

คาร์ลได้คาดเอาไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่เทย์เลอร์ขอติดตามเขาเข้ามายังเมืองหลวงด้วยและตลอดเวลาเขารู้สึกได้ว่าถูกสายตาของพวกเขาจ้องมองตลอดการเดินทาง

 

“ตระกูลเฮนิตัสผู้ร่ำรวยและมั่งคั่ง ท่านคงต้องการเงินใช่หรือไม่?”

 

เฮ่อ

 

เคจถอนหายใจออกมาด้วยความทึ่งกับคำกล่าวของคาร์ล สำหรับเทย์เลอร์เป็นคนที่อยู่จุดสูงสุดก่อนตกลงมาจาหน้าผาสูงส่วนคนเช่นเคจคือคนที่อยู่พียงพื้นดินด้านล่างมาโดยตลอด แต่สำหรับคาร์ลคือคนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างออกไป

 

เขามักจะให้รองพ่อบ้านฮันส์เตรียมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มาให้เขาดื่มทุกครั้งที่มีเวลาว่าง เขาไม่สนใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของตนกำลังทำอะไรยุ่งขนาดไหนเขาก็เพียงแค่กินอาหารที่หรูหราและคุณภาพสูงในขณะที่มองดูพวกเขาก็เท่านั้น เขาเลือกเข้าพักในโรงแรมที่หรูหราที่สุดและมักจะผ่อนคลายเสมอโดยไม่สนใจว่าตนจะพูดกับคนอื่นเช่นไร

 

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ใช่ขยะไร้ค่าจริงๆ โดยเฉพาะเทย์เลอร์เพื่อนของเธอย่อมรู้เรื่องนี้ดียิ่งกว่าเธอมากนัก

 

“ท่านรู้แล้วสินะ?”

 

“มันเป็นเรื่องง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก”

 

คาร์ลตอบเหมือนกับว่ามันไม่ยากที่จะคาดเดาได้เลย

 

“ฮึ…จากพาหนะที่พวกท่านใช้ในการเดินทางก็ดูเหมือนว่าพวกท่านจะร้อนเงิน…แล้วยิ่งต้องเข้าไปในเมืองหลวงด้วยแล้วมันคงไม่มีสิ่งอื่นที่พวกท่านต้องการนอกเหนือไปจากเงิน ข้าเดาว่านี่อาจไม่ใช่แผนเดิมของพวกท่านแต่มันก็เป็นเรื่องธรรมดา…หากท่านจะเอ่ยถามกับผู้ที่มีตราสัญลักษณ์เต่าสีทองเมื่อได้มีโอกาสร่วมเดินทางมากับพวกเราเช่นนี้แล้ว”

 

เทย์เลอร์ไม่สามารถปฏิเสธกับคำกล่าวของคาร์ลได้มันคือความจริงที่ว่าคาร์ล เฮนิตัสไม่ได้พยายามที่จะหลีกเลี่ยงจากบุตรชายคนโตที่ถูกผลักไสออกจากตระกูลเช่นเขา การเอ่ยปากเพื่อขอความช่วยเหลือและหวังว่าจะได้รับเงินจากคาร์ลนั่นคือวิธีที่ดีที่สุดที่เคาคาดหวังไว้

 

ถึงแม้ว่าคาร์ลจะปฏิเสธว่า ‘ไม่’ เขาก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะเอาเรื่องของเขาไปแจ้งกับเวเนี่ยนให้ทราบเช่นกันดูเหมือนว่าเขาจะเกลียดสิ่งที่สร้างความวุ่นวายให้ตัวเขาเอง ในสายตาของเทย์เลอร์…คาร์ลคือคนที่พยายามซ่อนความสามารถที่แท้จริงจากสายตาผู้อื่น

 

“ขอบคุณท่านมาก…นายน้อยคาร์ล”

 

คาร์ลไม่ได้พูดอะไรออกมาเช่น ‘ไม่เป็นไรข้ายินดีช่วยเหลือ’ แต่ท่าทางของเขาคือคนที่ยินดีจะเล่นไปตามแผนของเทย์เลอร์ที่คิดวางแผนมาโดยตลอดในช่วงเวลาที่ตนได้พบกับคาร์ล

 

“พวกท่านจะออกจากที่นี่ก่อนรุ่งสางสินะ?”

 

“ใช่…เราวางแผนที่จะลอบออกไปแต่มาที่นี่เพื่อพบท่านก่อนที่เราจะจากไป เรายังต้องดูแลและเตรียมความพร้อมกับหลายสิ่งมากนัก”

 

เววตาของเทย์เลอร์กระจ่างใสในขณะที่นั่งอยู่บนรถเข็นนี้แต่คาร์ลไม่สามารถมองเห็นแววตาที่ปราศจากความกังวลของเทย์เลอร์ได้เมื่อพวกเขาได้สบตากัน

 

“พวกท่านวางแผนจะแฝงตัวเข้าไปในวิหารสินะ?”

 

ในช่วงเวลานั้นเหมือนว่าเทย์เลอร์จะตกใจกับสิ่งที่คาร์ลถาม…เขารู้มันได้อย่างไรนะ? ก่อนที่เคจจะก้าวเข้ามาและเอ่ยขึ้น

 

“ใช่…พวกเราวางแผนที่จะแฝงตัวเข้าไปในวิหาร”

 

พวกเขาวางแผนที่จะปิดบังตัวตอนของเทย์เลอร์โดยแฝงตัวเข้าเป็นสมาชิกคนหนึ่งของวิหาร อย่างไรก็ตามการทำเช่นนี้ย่อมเป็นสัญญาณเตือนให้กับวิหารแห่งความตายที่เคจเคยอยู่ได้ เธอยินดีที่จะให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายเพื่อช่วยเหลือเทย์เลอร์ อย่างไรก็ตามการแฝงตัวเข้าไปเช่นนั้นก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะสำเร็จได้ คาร์ลมองเห็นว่ามันคือปัญหามากกว่า

 

“แม้ว่าพวกท่านจะแฝงตัวเข้าไปในวิหารนั่นได้ เวเนี่ยนหรือมาร์ควิสสแตนจะทราบข้อมูลนี้ภายใน 3 วัน พวกเขามักมีสายข่าวอยู่ทุกที่รวมถึงวิหารแห่งความตายนั่นด้วย”

 

“……ข้อมูลที่ได้รับจากท่านนับเป็นสิ่งที่ดีนัก”

 

เคจเริ่มยิ้มออกมา มีหลายสิ่งที่เธอเพิ่งรู้จากคาร์ล

 

“นายน้อยคาร์ล… ข้าแน่ใจว่าท่านอาจจะอยากรู้ถึงแผนการของพวกเรา?”

 

ก๊อก ก๊อก

 

คาร์ลเคาะนิ้วชี้กับโต๊ะจนเกิดเสียงเบาๆ

 

“เอาเงินนี้ไปและทำให้เจ้าของโรงแรมเข้าใจว่าท่านและคนของท่านจะพักอยู่ที่นี่อีกหนึ่งวัน”

 

ก่อนจะยกนิ้วชี้มายังด้านหน้าของคนทั้งสอง

 

“สำหรับพวกท่านสองคนจะได้นั่งไปบนรถม้าของข้า ส่วนที่เหลือในกลุ่มของเจ้าจะเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงหลังจากนั้นอีกหนึ่งวัน”

 

ครืด!

 

คาร์ลผลักเก้าอี้ให้ถอยหลังออกไปก่อนจะลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินไปหยิบบางอย่างออกมาจากกล่องเวทย์และวางมันลงบนโต๊ะ

 

“นี่คือเครื่องมือเวทย์….มันสามารถทำให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในพื้นที่ที่เราเลือกไม่สามารถมองเห็นได้เป็นเวลา 5 นาที”

 

นี่เป็นเครื่องมือชิ้นที่สองที่ต้องเช่าซื้อภายใต้ชื่อของบิลอส

 

‘นายน้อยคาร์ล…ท่านวางแผนที่จะขโมยสิ่งใดหรือไม่?’

 

‘ขโมย? ไม่….ข้ามีแผนที่จะทำลายบางอย่าง’

 

‘ทำลายสิ่งใดหรือขอรับ?’

 

เขาวางแผนที่จะใช้เครื่องมือนี้กับเหตุการณ์ก่อการร้ายใจกลางเมืองนั่นแต่เขามีเหตุผลที่จะใช้มันในตอนนี้ เขารู้สึกขอบคุณที่เครื่องมือเวทย์ชิ้นนี้ไม่ใช่เครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

 

ความเงียบถูกปกคลุมทั่วทั้งห้อง เทย์เลอร์และเคจมองไปมาระหว่างคาร์ลและเครื่องมือเวทย์ชิ้นนี้ปากของพวกเขาถูกปิดและเปิดอยู่หลายครั้งแต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะพูดอะไรออกมาได้ก่อนจะรวบรวมกำลังใจของตนในการถามหลังจากเงียบเป็นเวลานาน

 

“…ท..ทำไม”

 

นายน้อยเทย์เลอร์ที่เงียบไปสักพักเริ่มเอ่ยถาม

 

“ทำไม..ท่านถึงช่วยเหลือพวกเราเช่นนี้?ทั้งๆที่ไม่ได้ประโยชน์อันใดจากเรื่องนี้เลย”

 

‘ทำไม? งั้นหรือ….ฉันก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือพวกเจ้าสักเล็กน้อยเพราะฉันเป็นคนสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา..แล้วใช่ว่ามันจะเป็นอันตรายต่อตัวฉันเสียเมื่อไหร่กัน’

 

นอกจากนี้ถ้าเทย์เลอร์สามารถขึ้นครองตำแหน่งมาร์คควิสได้ คาร์ลก็ไม่ต้องกังวลเรื่องมาร์คควิสสแตนหรือเจ้าเวเนี่ยนผู้โลภมาก เมื่อการทำสงครามกับอาณาจักรอื่นได้เริ่มต้นขึ้น และนั่นจะช่วยให้อาณาเขตการปกครองของท่านเคานต์เฮนิตัสสงบร่มเย็นรวมถึงตัวเขาเองก็ร่มเย็นด้วยเช่นกัน

 

“ข้าจำเป็นต้องตอบงั้นรึ?”

 

“ใช่…ข้าอยากได้ยินเหตุผลของท่าน”

 

เทย์เลอร์ต้องการฟังคำตอบของคาร์ล ก่อนที่คาร์ลจะเอ่ยตอบด้วยท่าทีไม่ยินดียินร้ายพร้อมกับคำตอบที่ค่อนข้างโหดร้ายและเย็นชา

 

“เพราะท่านน่าสงสาร….ข้าอยากรู้ว่าอะไรถึงทำให้คนเช่นท่านต้องกลายเป็นคนพิการเช่นนี้อีกทั้งไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีชีวิตอยู่อีกได้นานแค่ไหนและที่สำคัญการที่บุตรชายคนโตของมาร์ควิสสแตนมาขอความช่วยเหลือเรื่องเงินจากขยะไร้ค่าจากตระกูลเฮนิตัสเช่นข้านั้น….มันช่างน่าเวทนายิ่งนัก”

 

ปากของเทย์เลอร์ค่อยๆอ้าและหุบลง ก่อนที่เขาจะเริ่มหัวเราะอย่างเงียบๆ เทย์เลอร์ตบเข่าของตนฉาดใหญ่แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับขาคู่นั้นก็ตาม แต่ถึงอย่างไรตา จมูก ปาก มือและส่วนที่เหลือของเขายังคงมีชีวิตอยู่ ก่อนที่เทย์เลอร์จะยกยิ้มสดใสขึ้น

 

“ขอบคุณสำหรับความเห็นอกเห็นใจจากท่าน ข้าต้องการความเห็นอกเห็นใจเช่นนี้ยิ่งนัก”

 

คาร์ลไม่ได้สนใจกับคำขอบคุณของเทย์เลอร์และเอ่ยขึ้น

 

“อย่างไรก็ตาม…สำหรับเรื่องทั้งหมดนี้ข้ามีเพียงเงื่อนไขอยู่หนึ่งข้อ”

 

“มันคือสิ่งใด?”

 

“จงลืมทุกอย่างไปซะ”

 

คาร์ลพูดย้ำอีกครั้งเมื่อเลื่อนถุงเงินไปยังเทย์เลอร์

 

“จงลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้น”

 

คาร์ลแสดงให้พวกเขาเห็นว่าตนยินดีจะช่วยเหลือแต่ก็ไม่อยากจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาอีกต่อไป เคจก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง นี่เป็นเหตุผลที่เธอตามเทย์เลอร์มาในครั้งนี้

 

“นายน้อยเทย์เลอร์และข้าจะสาบานต่อหน้าพระเจ้าแห่งความตายว่าจะไม่เปิดเผยสิ่งใดที่เกิดขึ้น ข้าให้ความมั่นใจแก่ท่านได้…ว่าผู้ที่ผิดคำสาบานต่อพระเจ้าแห่งความตายนั้นล้วนตายตกไปตามๆกัน”

 

“…ได้ เชิญพวกท่านให้คำสาบานเถิด”

 

คาร์ลเริ่มยิ้มกับคำพูดของเคจ คำสาบานต่อพระเจ้าแห่งความตายเป็นสิ่งที่คาร์ลเชื่อมั่นในคำสาบานที่มีชื่อเสียงนี้และนั่นจะทำให้คาร์ลยินดีที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้

 

เคจไม่สามารถช่วยในเรื่องนี้ได้แต่หัวเราะขึ้นกลังจากเห็นรอยยิ้มของคาร์ลเกี่ยวกับการที่พวกเขาจะเอ่ยคำสาบานต่อพระเจ้าแห่งความตาย

 

“ข้าเดาว่า…นายน้อยคาร์ลจะไม่สาบาน?”

 

“ถูกต้อง….หากว่าเรื่องเล่านี้มันจะยุ่งยากมากขึ้นในอนาคต..ข้าก็มีแผนที่จะเปิดเผยมัน”

 

“แก่เวเนี่ยนสินะ….”

 

“ใช่…..” คาร์ลเอ่ยตอบด้วยความมั่นใจ

 

เมื่อได้ฟังคำตอบของคาร์ลทำให้เทย์เลอร์รู้สึกสงบมากขึ้น เขาชอบความจริงที่ว่าคาร์ลเป็นคนที่ซื่อสัตย์จริงใจเมื่อเขาเลือกที่จะบอกกับพวกตนว่าเขาจะเปิดเผยทุกสิ่งหากเขาเกิดความไม่สะดวกใจขึ้นในอนาคต

 

“เคจ…มาทำกันเถอะ”

 

“ตกลง”

 

ทั้งเทย์เลอร์และเคจไม่ได้พูดอย่างเป็นทางการต่อหน้าคาร์ล ดูเหมือนว่าพวกเขาจะส่งสัญญาณให้กันเพื่อทำบางอย่างต่อหน้าคาร์ล

 

“เราจะเริ่มกันตอนนี้เลย”

 

ในคืนนี้เป็นคืน ‘พระจันทร์ดับ’ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นพระจันทร์ได้มันส่งผลให้พลังของพระเจ้าแห่งความตายมีพลังที่รุนแรงและแข็งแกร่งกว่าวันใด เคจปิดตาของเธอลงและรวบมือของเธอทั้งสองข้างมาวางไว้ต่อหน้าของเธอ มันดูต่างจากคนที่กำลังอธิษฐานขอพร เธอหันฝ่ามือไปทางด้านเทย์เลอร์และตัวของเธอเอง

 

ครืนนนนนนนนนนนนนนน

 

แรงสั่นสะเทือนไม่เบานักดังขึ้นทั่วห้องและเป็นเวลาเดียวกับที่มีควันสีดำเริ่มออกมาจากปลายนิ้วของเคจและโอบล้อมพวกเขาทั้งสามไว้

 

‘พลังศักดิ์สิทธิ์นี่มัน?’

 

คาร์ลเต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ ในขณะที่รู้สึกถึงพลังรอบตัวของเขามันต่างจากพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณแต่มันก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่แม้ว่าจะเป็นสีดำก็ตาม

 

“ข้า…เคจ…บุตรสาวของพระเจ้าแห่งความตาย..มีความปรารถนาที่จะยืมชื่อของท่านสู่ค่ำคืนที่มืดมิดนี้ว่าจะให้คำสาบานร่วมกับ ‘เทย์เลอร์ สแตน’ หากผิดจากคำสาบานนี้พวกข้าจงลงสู่ความมืดมิดตราบนิรันดร”

 

เคจเปิดตาขึ้นและมองไปยังคาร์ลและเทย์เลอร์ก่อนเอ่ยต่อไป

 

“ข้าและเทย์เลอร์ สแตนขอสาบานว่าจะเก็บสิ่งที่สนทนากับนายน้อยคาร์ล เฮนิตัสไว้เป็นความลับพวกเราจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้กับผู้ใด”

 

“จะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ต่อผู้ใด” เทย์เลอร์กล่าวย้ำเพื่อสิ้นสุดการกล่าวคำสาบาน

 

เคจปิดตาลงหลังจากที่ได้ยินเสียงของเทย์เลอร์เอ่ยขึ้น ควันสีดำเริ่มโอบล้อมพวกเขาอีกครั้ง จากนั้น….

 

ครืนนนนนนน

 

มีแรงสั่นสะเทือนดังขึ้นเบาๆอีกครั้งก่อนที่ควันดำจะหายไป การกล่าวคำสาบานได้สิ้นสุดลงแล้ว

 

“มันก็ค่อนข้างง่าย”

 

คาร์ลรู้สึกแปลกๆกับมือของเขาและเริ่มวิจารณ์กับพลังนี้มันคล้ายกับพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเขาสามารถสัมผัสได้กับพลังนี้

 

“ความรู้สึกที่ท่านรู้สึกในตอนนี้คือพลังของคำสาบาน หากพวกข้าผิดคำสาบาน…นายน้อยจะทราบถึงการตายของพวกเราทันทีในฐานะที่ท่านเป็นสักขีพยาน”

 

“อ่า….ข้าเข้าใจแล้ว”

 

คาร์ลยอมรับคำอธิบายของเธอได้ง่ายๆ เขาไม่มีทางเลือกอื่นเพราะหลักฐานก็ประจักษ์อยู่ที่ความรู้สึกในมือของเขา คาร์ลเริ่มตรวจสอบความแตกต่างระหว่างพลังของพระเจ้ากับพลังศักดิ์สิทธ์โบราณภายในตัวเขาและในขณะนั้นเองเทย์เลอร์ก็วางขวดเหล้าที่เขาเตรียมมาเองวางไว้ที่กลางโต๊ะ

 

ปัง!

 

เสียงขวดเหล้ากระทบกับโต๊ะจนส่งเสียงดัง

 

“นายน้อยคาร์ล…ท่านอยากดื่มหรือไม่?”

 

“ดื่ม?”

 

คาร์ลโยนความต้องการของตนออกไปและเอ่ยถามพวกเขาว่าหมายถึงสิ่งใด เทย์เลอร์พยักหน้าให้กับคำถามของคาร์ล

 

“ใช่…..เหล้า…เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับวันดีๆเช่นนี้”

 

เทย์เลอร์อยากดื่มกับคาร์ลคนที่เขาไม่ไว้ใจจนกระทั่งรู้สึกเปลี่ยนใจเมื่อเร็วๆนี้ เคจดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้จากการกระทำของเธอในตอนนี้และเริ่มยิ้มออกมาก่อนที่จะเอามือของเธอล้วงเข้าไปในชุดนักบวชของเธอ

 

“แท่น แท๊น!”

 

แก้วใบเล็กถูกล้วงออกมาจากชุดนักบวชของเธออย่างรวดเร็ว

 

“โหววว……..”

 

คาร์ลมองแก้วที่ถูกหยิบออกมาจากชุดนักบวชของเธอมันเป็นแก้วสำหรับใส่เหล้าโดยเฉพาะ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่าเคจจะใส่มันไว้ในแขนเสื้อของเธอ

 

“ท่านนักบวช…”

 

“มีอะไรหรือ?”

 

“ท่านช่างน่าทึ่งนัก”

 

เธอเป็นคอเหล้าตัวจริงสินะ คาร์ลหยิบแก้วเหล้ามาจากเธอและผลักแก้วเหล้าไปไว้ด้านหน้าของเทย์เลอร์เมื่อแก้วทั้งสามใบถูกรินเหล้าจนเต็มแก้วแล้ว เคจจึงเอ่ยขึ้น

 

“นายน้อยคาร์ล…มันคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักบวชจะดื่มเหล้าใช่มั้ย?”

 

คาร์ลเอียงศีรษะของเขาไปข้างหนึ่งและเอ่ยถาม

 

“แล้วมันใช่ธุระอะไรของข้าด้วยหรือ?”

 

คาร์ลไม่สนใจว่าเธอจะดื่มหรือไม่

 

“ว้าว…..ข้าชื่นชอบท่านยิ่งนัก”

 

เคจเอ่ยชื่นชมในขณะที่ตบเข่าของเธอดังฉาดใหญ่ จากนั้นเธอก็ถามคาร์ลด้วยความเขินอายเล็กน้อย

 

“นายน้อยคาร์ล…ท่านไม่มีความปรารถนาที่จะสนิทสนมกับพี่สาวที่มีบุคคลิกภาพที่ดีบ้างหรือ?”

 

“ไม่…..”

 

คาร์ลตอบอย่างจริงจังและหนักแน่น ก่อนที่เทย์เลอร์จะแทรกเข้ากับบทสนทนานี้อย่างรวดเร็ว

 

“…….แล้วพี่ชายที่มีบุคลิกภาพที่ดีล่ะ?”

 

“ไม่เลย…ไม่อยากแม้แต่น้อย”

 

เคจและเทย์เลอร์เริ่มหัวเราะออกมาแทนที่จะผิดหวังกับคำตอบของคาร์ลและคาร์ลไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือความตลกจากคำตอบของตนกัน เขาเพียงแค่ยกแก้วขึ้นและเริ่มพูด

 

“ไชโย…”

 

เคร้ง ! เสียงของแก้วเหล้ากระทบกันสามใบดังขึ้น คืนแห่งพระจันทร์ดับไม่มีแสงสว่างจากพระจันทร์แม้แต่น้อยแต่แสงจากแก้วเหล้ากับส่องสว่างขึ้นเฉกเช่นว่ามันกำลังเชื่อมสายสัมพันธ์ของคนทั้งสามคนเข้าด้วยกัน

 

เช้าวันรุ่งขึ้น

 

“เราจะออกเดินทางกันแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”

 

คาร์ลไม่ทราบว่าฮันส์รู้สึกช้าหรือพบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก รองพ่อบ้านฮันส์เคยได้ยินสถานการณ์เช่นนี้มาจากคาร์ลบ้างแล้วและแสร้งทำมองไม่เห็นคนสองคนที่อยู่ภายในรถม้าของคาร์ลแทนที่จะถามว่าเขาควรออกไปจากรถม้านี้ดีหรือไม่

 

“อืม….ออกเดินทางได้แล้ว”

 

แน่นอน..ว่าคาร์ลก็ออกคำสั่งอย่างง่ายๆเช่นกัน

 

สองชั่วโมง พวกเขาจะไปถึงทางเข้าของเมืองหลวงภายในสองชั่วโมงเท่านั้น

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 27 เจ้า 2"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

davisam
จักรพรรดิเทพมรณะ
มกราคม 14, 2023
Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
Rebirth Of the Urban Immortal Cultivator
มีนาคม 12, 2022
บุรุษที่ถูกทิ้ง
มีนาคม 12, 2022
แม่มดสาวมุ้งมิ้ง
แม่มดสาวมุ้งมิ้ง
มีนาคม 12, 2022
ฉันมีแผงหน้าจอศิลปะการต่อสู้สุดเจ๋ง !
ฉันมีแผงหน้าจอศิลปะการต่อสู้สุดเจ๋ง ! (จบแล้ว)
กันยายน 10, 2024
The Soul Purchasing Pirate
The Soul Purchasing Pirate
มิถุนายน 19, 2024
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz