หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family) - บทที่ 26 เจ้า 1

  1. หน้าแรก
  2. ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
  3. บทที่ 26 เจ้า 1
Prev
Next

บทที่ 26 เจ้า 1 

 

 

 

  ไม่ใช่เพียงแค่สามที่ธรรมดาๆเหมือนคนทั่วๆไป หนึ่งคือมังกรดำที่ดูซื่อบื้อไปหน่อย สองคือนักบวชหญิงผู้บ้าคลั่งที่ปรารถนาการถูกคว่ำบาตรและสามบุตรชายที่ไร้ประโยชน์ของมาร์ควิสสแตน

 

“เฮ้อ………..”

 

คาร์ลไม่สามารถจะทำอะไรกับเรื่องนี้ได้นอกจากจะถอนหายใจยาวออกมา เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนเงยหน้าขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาสังเกตว่าบริเวณโดยรอบมันเงียบผิดปกติเกินไปก่อนจะมองไปที่ฮันส์

 

ฮันส์ยกยิ้มอย่างลำบากใจก่อนที่จะเดินเข้าไปใกล้กับคนขับรถม้าที่ชื่อ ‘ทอม’และ ‘เทย์เลอร์’ที่มองออกมาจากหน้าต่างรถม้า

 

เทย์เลอร์มีรอยยิ้มที่ขมขื่นบนใบหน้าของเขาก่อนเอ่ยขึ้น

 

“ถ้ามันไม่สะดวกสำหรับการพักแรมของพวกท่าน….พวกข้าต้องขอตัวก่อน”

 

บุตรชายคนโตของมาร์คควิสสแตนและเป็นบุตรชายที่ถูกผลักไสออกจากตระกูลหลังจากที่ขาของเขาทั้งสองต้องเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต เรียกได้ว่าชีวิตของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในเวลาชั่วข้ามคืนจากชีวิตที่หรูหราเรืองอำนาจกลับหมดไป เขาได้รับการช่วยเหลือจากคนในตระกูลเพียงหนึ่งคนให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้

 

บรรดาขุนนางผู้ที่ใกล้ชิดกับตระกูลสแตนต่างทราบว่าหากผู้ใดที่ไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งมาร์คควิสในอนาคตจะต้องถูกกำจัดทันที เหล่าขุนนางที่ให้การสนับสนุนเขาต่างถอยห่างจากเทย์เลอร์และเริ่มให้การสนับสนุนเวเนี่ยนหรือน้องๆคนอื่นของเขาแทนเพื่อพยายามเป็นที่โปรดปรานของว่าที่มาร์คควิสคนใหม่ให้ได้มากที่สุด และนั่นทำให้สถานะของเทย์เลอร์ในปัจจุบันยิ่งแย่และน่ากังวลกว่าบุตรชายนอกสมรสของตระกูลบารอนเสียอีก [1] 

 

จากข้อมูลที่เทย์เลอร์รู้มาทำให้เขาคิดว่าตนรู้จักคาร์ลผู้เป็นเพียงขยะไร้ค่าของตระกูลเฮนิตัส เต่าสีทองหรูหราเป็นสัญลักษณ์ประจำตระกูลเฮนิตัสเช่นเดียวกับใบหน้าที่หล่อเหลาตัดกับเส้นผมสีแดงสดนั่น ทำให้เทย์เลอร์ไม่คิดว่าจะเป็นคนอื่นได้นอกจากคาร์ล เฮนิตัส แต่ในสถานการณ์เช่นนี้แม้แต่ท่านเคาน์เฮนิตัสผู้ไม่เข้าร่วมกับฝ่ายใดก็อาจคิดได้ว่าครอบครัวตนอาจเดือดร้อนได้หากมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับตน พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นเช่นเดียวกันหลังจากเห็นร่างกายที่ไร้ประโยชน์ของเขา

 

เทย์เลอร์ได้คำนึงถึงความจริงข้อนี้ได้เป็นอย่างดีหลังจากที่ได้ยินเสียงถอนหายใจของคาร์ล

 

“แล้วทำไมท่านจะต้องไป?”

 

คาร์ลเดินเข้าไปใกล้รถม้าของเทย์เลอร์ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์

 

“ที่นี่ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวของข้าและตัวข้าเองคงไม่ทำตัวเป็นเด็กเช่นนั้นหรอกเมื่อพวกเราอาจได้กลายเป็นเพื่อนร่วมทางกัน”

 

คาร์ลสบสายตากับเทย์เลอร์ครู่หนึ่งก่อนจะมองเข้าไปในรถม้าของเทย์เลอร์

 

‘เธออยู่ที่นั่นสินะ’

 

‘เคจ’นักบวชหญิงผู้บ้าคลั่งกำลังลอบสังเกตเขาจากในรถม้า คาร์ลรู้ว่าคำสาปแช่งของเธอร้ายกาจเพียงใดบางคนได้กล่าวว่าคำสาปแช่งของเธอเทียบได้กับพ่อมดหมอผีมืออาชีพทีเดียว

 

คาร์ลละสายตาจากเคจก่อนยื่นมือออกไป

 

“ข้าคือ คาร์ล เฮนิตัสจากตระกูลเฮนิตัส”

 

เทย์เลอร์จ้องไปที่มือที่ถูกยื่นออกมาจากด้านนอกรถม้าก่อนที่หันไปมองใบหน้าที่ปราศจากอารมณ์ใดๆของคาร์ล

 

คลิ๊ก!

 

เทย์เลอร์เปิดประตูรถม้าออกมา มารยาทที่ดีและเหมาะสมคือการที่เขาจะต้องก้าวออกจากรถม้าเพื่อส่งคำทักทายกลับไป

 

“มันเป็นเรื่องยากสำหรับข้าที่จะสามารถก้าวออกไปได้ด้วยขาคู่นี้”

 

“อืม….ข้ารู้”

 

เทย์เลอร์มองไปที่คาร์ลอีกครั้งกับท่าทีที่ไม่ได้สนใจเรื่องมารยาทที่เหมาะสมมากนักและยื่นมือไปจับมือเขา ทันทีมันเป็นเพียงการจับมือกันในเวลาสั้นๆ

 

“ยินดีที่ได้รู้จักนายน้อยคาร์ล”

 

‘ไม่เลย…ไม่ยินดีเลย’

 

คาร์ลไม่พอใจกับการพบกันในครั้งนี้เลยสักนิด เขารีบหันหน้าหนีทันทีเพราะไม่อยากต้องทำความรู้จักกับเคจแต่น่าเสียดายที่เทย์เลอร์เป็นคนที่ให้เกียรติเพื่อนตัวเองจนเกินไป

 

“นี่คือเคจเพื่อนนักบวชของข้า นางเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าแห่งการหลับใหลตลอดกาล”

 

‘หลับใหลตลอดกาล’ เรียกง่ายๆมันก็คือพระเจ้าแห่งความตายสินะ คาร์ลถอนหายใจอีกครั้งและมองไปที่เคจเธอเอ่ยทักทายเขาด้วยความสง่างามเช่นเดียวกับสิ่งที่นักบวชพึงมี

 

“ยินดีที่ได้พบท่าน…นายน้อยคาร์ล…ข้าชื่อเคจ….ขอให้ค่ำคืนที่สงบสุขจงสถิตอยู่กับท่านไปตลอดกาล”

 

‘ขอให้ค่ำคืนที่สงบสุขจงสถิตอยู่กับท่านไปตลอดกาล’นั่นคือคำกล่าวอวยพรปกติธรรมดาของนักบวชที่รับใช้พระเจ้าแห่งความตายจะกล่าวแก่ประชาชนทั่วไป

 

‘…ค่ำคืนที่สงบสุข….ตูดแกนะสิ’

 

ลืมมันซะเถอะค่ำคืนที่สงบสุข คาร์ลรู้สึกเหมือนว่าเขาไม่สามารถนอนหลับได้สนิทในค่ำคืนนี้ได้อย่างแน่นอน เขารู้สึกเหมือนกำลังดื่มน้ำมะนาวเมื่อมองไปยังเคจที่กำลังส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนมาให้ตน

 

‘เธอสามารถแสดงออกได้ดีและเป็นธรรมชาติแม้ว่าเธอจะมองว่ามันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญเพียงใดก็ตามนั่นเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่เธอต้องการการถูกคว่ำบาตร’

 

เธอเป็นนักแสดงที่ดีจริงๆ คาร์ลยิ้มตอบให้เคจที่ยังคงมีรอยยิ้มของนักบวชผู้เพียบพร้อมประดับบนใบหน้าก่อนเอ่ยต่อด้วยความมั่นใจ

 

“และข้า…ไม่เชื่อในพระเจ้า”

 

การจ้องมองของเคจคือสิ่งที่น่าสนใจ การจ้องมองของเธอดูเหมือนจะถามว่าคาร์ลกำลังบ้าคลั่งและนับถือนักบวชใช่หรือไม่? แต่คาร์ลรู้สึกยินดีไปกับมัน….คาร์ลอยากให้เธอคิดว่าเขาเป็นเพียงขยะไร้ค่าเท่านั้น

 

“ท่านเป็นคนที่น่าสนใจยิ่ง”

 

“ข้าก็คิดว่า…ข้าเป็นคนน่าสนใจเล็กน้อย”

 

คาร์ลพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเธอก่อนหันไปมองรอบๆรถม้าของพวกเขามันดูแย่มากสำหรับบุตรชายคนโตของมาร์ควิสสแตนและมีเพียงหนึ่งองครักษ์ที่ทำหน้าที่ทั้งคนขับรถม้าและผู้คุ้มกันของทั้งสองคน

 

‘ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยมีเงินกันสินะ’

 

เทย์เลอร์อาจใช้เงินเป็นจำนวนมากในการติดเครื่องสัญญาณเตือนภัยพลังเวทย์รอบๆบ้านของเขาที่เมืองพัซเซิลแล้วและเขาไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากมาร์ควิสสแตนอีกต่อไปทำให้เขาไม่มีเงินมากพอสำหรับการใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ทำให้เขาต้องลดภาระค่าใช้จ่ายทุกวิถีทาง

 

เทย์เลอร์หลับตาของเขาลงเพื่อระงับความอดสูในใจเมื่อมองเห็นสาตาของคาร์ลที่กำลังจ้องมองไปยังรถม้าของตนอยู่

 

คาร์ลไม่ได้คิดเช่นเดียวกับที่เทย์เลอร์คิดเมื่อมองไปที่รถม้าของเทย์เลอร์แต่เขากำลังคิดถึงประเด็นอื่น

 

‘พวกเขาคงจะมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงตามจดหมายของฉันสินะ’

 

มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจุดมุ่งหมายของพวกเขาอยู่ที่ไหนหากไม่ใช่เมืองหลวงเพื่อเข้าเฝ้าองค์ชายรัชทายาท

 

“ฮันส์”

 

“ขอรับ..นายน้อย?”

 

คาร์ลเรียกให้ฮันส์เข้ามาใกล้ตนก่อนเอ่ยต่อ

 

“ช่วยนำทางพวกเขาที”

 

“ได้ขอรับนายน้อย”

 

“จัดเตรียมสำรับอาหารแยกไปให้กับพวกเขาด้วย….อ้อ!…พาพวกเขาไปหาที่ตั้งพักแรมด้วยเช่นกันให้ห่างจากที่พักของพวกเราไปสักเล็กน้อย”

 

เขาไม่ต้องการที่จะทานข้าวร่วมกันกับพวกเขาหรือแม้แต่ตั้งที่พักใกล้กันก็ไม่ต้องการ

 

“แล้วไม่ต้องเรียกหาข้าอีก…เรื่องทุกอย่างให้เจ้าจัดการได้เลย”

 

เขาไม่ต้องการสร้างสถานการณ์ให้พวกเขามาใกล้ชิดกับตนมากนักและแน่นอนว่าเขารู้สึกว่าสิ่งต่างๆอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเขาต้องการ

 

“ขอรับ…กระผมจะดูแลพวกเขาเหมือนกับที่ดูแลนายน้อยขอรับ”

 

“แล้วอย่าลืมหาเหล้ามาให้ข้าดื่มด้วย”

 

‘ทำไมเขาถึงช่างเป็นคนที่หลงใหลกับการได้ดูแลใครนักนะ’

 

คาร์ลมองไปที่ฮันส์ผู้ที่หลงใหลการดูแลผู้อื่นอยู่เสมอและโค้งศีรษะให้กับเทย์เลอร์เพื่อเอ่ยขอตัว

 

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนายน้อยเทย์เลอร์”

 

“ขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่าน…นายน้อยคาร์ล”

 

“ไม่เป็นไร”

 

คาร์ลหันหน้าหนีจากสีหน้าที่เหมือนมีอาการแปลกใจของเทย์เลอร์ ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับไปที่รถม้าของตนทันทีโดยไม่คิดที่จะเหลียวมองสิ่งอื่นอีกและแน่นอนว่าเขาได้มอบคำสั่งให้กับรองหัวหน้าองครักษ์ที่เดินเคียงข้างเขามาเช่นกัน

 

“พวกเขามีองครักษ์ติดตามมาแค่คนเดียว เจ้าก็จัดการดูแลความปลอดภัยให้พวกเขาด้วยแล้วกัน”

 

“ได้ขอรับ…นายน้อย”

 

เมื่อคาร์ลแน่ใจว่ารองหัวหน้าองครักษ์เข้าใจคำสั่งของตนดีแล้วจึงเดินกลับขึ้นรถม้าไป

 

ปัง!

 

เสียงปิดประตูรถม้าดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองยังรถม้าที่มีสัญลักษณ์เต่าสีทองประดับอยู่ก่อนจะหันกลับมาสนใจกับงานของตนต่อไปคงมีเพียงแค่เทย์เลอร์และเคจที่ไม่มีอะไรทำเป็นกิจลักษณะทำให้ยังคงมองไปที่ประตูรถม้าคันนี้อยู่เช่นเดิม

 

ลูกแมวสองตัวที่คอยบนรถม้าเอ่ยทักคาร์ลทันทีเมื่อเขากลับเข้ามาในรถม้า

 

“ข้าเคยเห็นพวกเขามาก่อนหน้านี้”

 

“ใช่แล้วฮง….พี่ก็อยู่ที่นั่นด้วย”

 

ลูกแมวที่เฝ้ามองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านหน้าต่างรถม้า เมื่อพวกมันเห็นคาร์ลเดินเข้าใกล้พวกตนอย่างช้าๆจึงเริ่มพูดคุยกันขึ้นไม่แน่ใจว่าพวกมันเพียงแค่พูดคุยกันเท่านั้นหรือตั้งใจถามคำถามตนกันแน่ แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นคำถามที่ถามเขามากกว่าจะพูดคุยกันเอง

 

คาร์ลเอ่ยตอบคำถามของลูกแมวทั้งสองที่มีไหวพริบแพวพราว

 

“แกล้งทำเป็นไม่รู้ซะ”

 

“เหมือนมังกรนะหรือ?”

 

“อืม….”

 

ลูกแมวทั้งสองพยักหน้าตอบรับกับคำบอกของคาร์ลเมื่อเห็นว่าพวกมันเข้าใจดีแล้วเขาจึงกอดอกและหลับตาของตนลง

 

‘ดาราแห่งการเยียวยา’

 

นั่นคือพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่เขาเขียนในจดหมายให้แก่เทย์เลอร์และเคจ เหตุผลที่คาร์ลทราบถึงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณนี้ก็มาจากเหตุการณ์ก่อการร้ายใจกลางเมืองนั่นเอง

 

‘ดาราแห่งการเยียวยา’ คือพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นมันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บหรือความเจ็บป่วยต่างๆที่เกิดต่อร่างกายของคุณให้หายขาดได้ องค์ชายรัชทายาทเป็นผู้ครอบครองพลังดังกล่าวซึ่งตกทอดมาจากอดีตราชินีพระมารดาผู้ล่วงลับของเขา

 

การก่อการร้ายขององค์กรลับได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเหล่าเชื้อพระวงศ์เสด็จมาถึงยังใจกลางเมือง ระเบิดพลังเวทย์ได้ระเบิดขึ้นในเมืองหลวงพร้อมๆกับที่มันหยุดการทำงานของมันลงอีกครึ่งเช่นเดียวกัน

 

ในนิยายได้กล่าวว่าเชวฮันสามารถหยุดการทำงานของมันได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น มันคือสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งผู้คนในอาณาจักรต่างยกย่องว่าเขาคือวีรบุรุษแต่เชวฮันกลับคิดถึงแต่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกับการวางระเบิดในครั้งนี้จนเพิ่มความโกรธแค้นของตนต่อองค์กรลับเพิ่มยิ่งขึ้น

 

‘ในตอนนั้นพวกองค์กรลับก็ได้ติดตั้งระเบิดพลังเวทย์ไว้บนร่างกายของชาวเมืองบางส่วนด้วยเช่นกัน’

 

เชวฮัน พร้อมกับนักเวทย์อัจฉริยะเช่นโรสลินได้ปกป้องและช่วยเหลือชาวเมืองที่อยู่ในเหตุการณ์ให้หลบหนีจากระเบิดพลังเวทย์ให้ได้ แต่ในเวลานั้นมีชายชราคนหนึ่งที่เชวฮันไม่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้

 

ชายชราคนนั้นสูญเสียแขนและขาขวาในตอนที่พยายามทิ้งระเบิดพลังเวทย์ออกจากร่างกายของตนและจากเหตุการณ์นี้ทำให้เชวฮันมีอาการหัวเสียเป็นอย่างมากเมื่อเห็นอาการบาดเจ็บของชายชราผู้โชคร้ายคนนั้น

 

เมื่อองค์ชายรัชทายาทได้เห็นเหตุการณ์นี้ก็ทำให้เขานึกถึงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ‘ดาราแห่งการเยียวยา’ขึ้นมา นั่นคือสิ่งที่นิยายได้กล่าวถึงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณในตอนนี้นั่นเอง

 

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นองค์ชายรัชทายาทก็ไม่ได้ใช้พลังนี้กับชายชราผู้นั้น เขาทำเพียงแค่ปลอบขวัญเชวฮันที่เสียใจอย่างหนักกับการตายของชายชราและได้ยกย่องเขาขึ้นเป็นวีรบุรุษต่อไป

 

‘มันเป็นเรื่องธรรมดา…’

 

ฝากกดไลค์ติดตามเพจด้วยนะค่ะ ขยะแห่งตระกูลเคานต์ – นิยายแปล

 

  คาร์ลไม่คิดว่าการตัดสินใจขององค์ชายรัชทายาทจะเป็นเรื่องที่ผิด ใครเป็นคนสามารถตัดสินได้ว่าเขาควรใช้พลังของตัวเองแก่ผู้อื่นกัน? แน่นอนว่าหากเป็นเชวฮันหรือโรสลินก็อาจจะเลือกใช้มันเพื่อช่วยชีวิตชายชราได้

 

“ไม่ว่าอย่างไร….น้องชายมังกรก็ยังคงติดตามเราต่อไปใช่หรือไม่?”

 

คาร์ลพยักหน้าตอบรับกับคำถามของฮง

 

‘ถ้ามันเป็นเช่นนี้ฉันก็อาจจะใช้มังกรน้อยนั่นให้เป็นประโยชน์ได้’

 

แผนเดิมของเขาคือการช่วยชีวิตมันและปล่อยให้มันมีชีวิตตามที่มันต้องการ แต่ถ้าตอนนี้มังกรเลือกที่จะติดตามเขาไปทั่วเมืองเหมือนลูกสุนัขตัวเล็กๆแล้วล่ะก็…เขาก็อาจนำมันไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เขาคิดถึงวิธีการที่จะใช้งานมันในช่วงหลายคืนที่ผ่านมานี้แล้ว

 

คาร์ลรู้ตำแหน่งของระเบิดพลังเวทย์ทั้ง 5 ตำแหน่งที่เชวฮันหาพบในนิยายแต่เขาไม่แน่ใจกับตำแหน่งระเบิดพลังเวทย์ที่เหลืออีก 5 แห่งได้ การที่พวกเขาพบกับตำแหน่งระเบิดพลังเวทย์ได้5แห่งก็มาจากฝีมือนักเวทย์อัจฉริยะเช่นโรสลินที่ใช้พลังในการตรวจหาที่ตั้งของระเบิดไปทีละจุดนั่นเอง

 

แต่ตอนนี้คาร์ลมีตัวเลือกที่ดีกว่าโรสลินเป็นอย่างมากมันเป็นนักเวทย์ระดับสูงที่สามารถตรวจหาพลังเวทย์รอบๆได้ไม่ต่างจากการตามจับเป็ดที่หลุดหายไป

 

“มันอาจจะเป็นงานที่ยากสักหน่อย”

 

ลูกแมวทั้งสองต่างชะงักกับคำพูดของคาร์ลแต่เขามองไม่เห็นมัน เขากำลังคิดถึงงานที่จะให้เจ้ามังกรน้อยทำเมื่อเดินทางไปถึงเมืองหลวงแล้ว ส่วนเจ้ามังกรน้อยนั้นไม่ได้คิดถึงสิ่งใดมากนักมันเพียงแค่คิดจะหาหมูป่าไปส่งให้พวกมนุษย์ที่พักค้างแรมอยู่นี่ก็เท่านั้นเอง

 

คาร์ลผู้ที่เผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็วางแผนอย่างรอบคอบในสิ่งที่ต้องทำในอนาคตเมื่อเดินทางถึงเมืองหลวงแล้วและออกไปเพื่อตรวจดูซากหมูป่าก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นบรรยากาศที่แปลกไป

 

เขากินและนอนหลับไปในรถม้าเมื่อคืนนี้เขาพยายามทำให้มันดีที่สุดในการไม่พูดคุยกับเทย์เลอร์และคณะเดินทางของตน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่เข้าใจกับบรรยากาศที่แปลกๆและอึมครึมเช่นนี้

 

“ฮันส์ เกิดอะไรขึ้น?”

 

ฮันส์ยิ้มให้เขาอย่างอึดอัดใจและเอ่ยทักทายเขา คาร์ลรู้สึกว่าฮันส์และคนอื่นๆในคณะเดินทางของตนมีความสงสัยเกี่ยวกับเนื้อสัตว์และผลไม้ต่างๆที่ถูกส่งมาให้พวกเขา แม้ว่าคาร์ลจะไม่รู้ว่ารอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรเมื่อทั้งเขาและเชวฮันเอ่ยเพียงแค่ว่ามันเป็นเรื่องที่ดีและให้สนุกไปกับมัน ส่วนบารอคยิ่งโน้มน้าวใจได้ง่ายเนื่องจากเขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นวัตถุดิบที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมในทุกๆเช้า

 

“ฮาฮ่าๆๆๆ นายน้อยตื่นแล้วหรือขอรับ?”

 

ฮันส์เหลียวไปมองเทย์เลอร์และเคจ ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้คาร์ล

 

“อย่างที่เห็นขอรับ กระผมคิดว่านายน้อยเทย์เลอร์อาจจะเข้าใจผิด”

 

“เข้าใจผิด?”

 

คาร์ลสามารถมองเห็นซากหมูป่าเช่นเดียวกับเทย์เลอร์ที่อยู่บนรถเข็นและเคจที่กำลังจับรถเข็นอยู่ด้านหลังของเขา คาร์ลเดินเข้าไปใกล้ซากหมูป่าและหยุดยืนใกล้กับรถเข็นของเทย์เลอร์ก่อนเอ่ยขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

โดยปกติหมูป่าที่มังกรส่งมาให้พวกเขาจะมีขนาดที่ใหญ่เสมอ มันมีขนาดใหญ่กว่าเสือเสียอีกซึ่งนั้นทำให้บารอครู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยและตามปกติก็มักจะมีภาพวาดที่อยู่ถัดไปจากซากหมูป่าเหล่านี้เขาคิดว่ามังกรน่าจะรู้สึกยุ่งยากหรือขี้เกียจในการวาดส้อมในครั้งนี้มันจึงวาดเพียงรูปมีดไว้เท่านั้น

 

“ข้าต้องขอโทษท่านจริงๆ..นายน้อยคาร์ล”

 

‘หืม…..นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?’

 

เทย์เลอร์มีรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยคำว่าขอโทษส่งมาให้แก่เขาก่อนที่จะหันกลับไปมองซากหมูป่า

 

“ดูเหมือนการเคลื่อนไหวของพวกข้าจะถูกพบเสียแล้ว”

 

‘การเคลื่อนไหว’ คาร์ลได้ยินเสียงเคจพึมพำเบาๆอยู่ด้านหลังเทย์เลอร์ ตอนนี้เธอกำลังโกรธ

 

“การเดินทางครั้งนี้มันเป็นความลับไม่มีทางที่ใครจะรู้เรื่องนี้ได้? มีคนสามารถหลุดรอดการตรวจพบของข้าได้หรือนี่? มันมากเกินไปแล้ว!”

 

‘แล้วคนในระดับพวกเจ้าจะไปตรวจพบมังกรได้อย่างไรกัน’

 

คาร์ลอาจต้องเป็นคนจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้อย่างเร่งด่วน

 

มีบางสิ่งหรือบางอย่างหรือใครบางคนสามารถจับตัวหมูป่าขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดายและนำมันมาทิ้งไว้บริเวณที่ค้างแรมของพวกเขาโดยไม่ถูกจับตัวจากพลังของเคจหรือคนอื่นๆได้ ความแข็งแกร่งและการลอบทำเช่นนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ผู้เชี่ยวชาญพึงมี ถัดจากความสามารถเหล่านี้ยังมีการวาดรูปมีดนั่นอีก

 

มันเป็นมีดขนาดเล็กสำหรับคาร์ลแต่มันอาจจะดูเป็นมีดที่มีขนาดใหญ่มากสำหรับ….คาร์ลหันกลับไปมองเทย์เลอร์ผู้ที่กำลังมองมาที่เขาด้วยความสิ้นหวังและทุกข์ใจยิ่ง

 

“…..นายน้อยคาร์ล….ส…สำหรับเหตุการณ์นี้”

 

“บารอค” คาร์ลเรียกบารอคโดยทันที

 

บุตรชายคนที่สองของมาร์ควิสสแตนเช่นเวเนี่ยนอาจจะยุ่งมากในตอนนี้เขาคงไม่มีเวลามาสนใจกับบุตรชายคนโตที่ไม่สามารถใช้งานได้อีก?แล้วไม่ใช่ว่าเขาจะรู้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ‘ดาราแห่งการเยียวยา’ที่อยู่เมืองหลวงเสียเมื่อไหร่กัน

 

“ขอรับ…นายน้อย?”

 

บารอคกำลังยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับมีดทำครัวคู่ใจและใบหน้าที่ถูกประดับไปด้วยความตื่นเต้น

 

“ดูเหมือนว่าเราจะได้กินสเต็กสำหรับเช้านี้”

 

“ใช่แล้วนายน้อย…ดูเหมือนว่าเราจะได้กินสเต็กชั้นเลิศกันอีกครั้งขอรับ”

 

เทย์เลอร์มองมาที่คาร์ลด้วยสีหน้าว่างเปล่าก่อนจะเริ่มพูด

 

“……..อีกครั้งอย่างนั้นหรือ?”

 

คาร์ลพยักหน้าและตอบกลับ

 

“เรามีคนในคณะเดินทางที่ทำหน้าที่ในการหาวัตถุดิบเช่นนี้มาให้”

 

“…..เขาคือใครหรือ?”

 

คาร์ลพ่นลมออกจากจมูกอย่างหงุดหงิดและเอ่ยตอบ

 

“เขาเป็นคนที่ขี้อายเป็นอย่างมากดังนั้นพวกท่านจะไม่สามารถพบเขาได้”

 

คาร์ลมองเห็นใบไม้จากต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากที่เขายืนอยู่นักมีการสั่นไหวขยับขึ้นและลงเป็นจังหวะช้าๆก่อนที่เขาจะส่ายศีรษะของตนเองเบาๆ เมื่อเห็นคาร์ลส่ายศีรษะเช่นนั้นเทย์เลอร์และเคจมีสีหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความอาย

 

“…เอ่อ….เร…เรา…เราดูเหมือนว่าจะเข้าใจผิดเสียแล้ว”

 

“ไม่ใช่ความผิดของพวกท่านหรอก อ้อ…บารอคเป็นพ่อครัวที่มีฝีมือมากดังนั้นขอให้พวกท่านได้ทานสเต็กนี้ก่อนออกเดินทางแล้วกัน”

 

บารอคหยุดชะงักไปกับการลูบไล้ซากหมูป่านั้นก่อนเงยหน้าขึ้นมามองคาร์ลทันทีแต่เขาไม่ได้มองตอบบารอคได้เพราะประโยคถัดมาของเทย์เลอร์

 

“นายน้อยคาร์ล…ข้าได้ยินมาว่าพวกท่านกำลังเดินทางไปยังเมืองหลวง…หากท่านไม่มีปัญหาอะไรขอให้พวกข้าได้ติดตามพวกท่านไปได้หรือไม่?”

 

‘ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้’

 

มันเป็นไปตามที่คาร์ลได้คาดไว้

 

“โปรดอย่าลังเลที่จะทำทุกอย่างที่ดีที่สุดสำหรับท่านเถิด”

 

ไม่มีทางที่พวกเขาจะรู้ว่าคนที่ร่วมเดินทางไปด้วยจะเป็นคนเดียวกับที่ส่งจดหมายให้พวกเขา หากมันต้องเป็นแบบนี้ตนก็อาจจะดูแลพวกเขาจนกว่าจะถึงเมืองหลวงและนั่นจะทำให้พวกเขารู้สึกเป็นหนี้ตนอย่างแน่นอนและทั้งสองคนนี้อาจมีประโยชน์ต่อเขาในอนาคตข้างหน้าได้

 

“ขอบคุณท่านมาก…เราจะอยู่ภายใต้ความดูแลของท่านจนกว่าเราจะเข้าใกล้เมืองหลวง”

 

คาร์ลอมยิ้มให้กับคำพูดของเทย์เลอร์

 

‘อย่างน้อยเขาก็ยังเป็นคนมีเหตุผล’

 

เพียงแค่เดินทางเข้าใกล้เมืองหลวง นั่นคือสิ่งที่เทย์เลอร์ขอความช่วยเหลือเพียงแค่ถึงตำแหน่งที่จะไม่ทำให้ส่งผลกระทบต่อคาร์ลและท่านเคานต์เฮนิตัสได้

 

หากเวเนี่ยนหรือมาร์ควิสสแตนทราบว่าพวกตนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเทย์เลอร์ มันอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างได้หากพวกเขาเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกัน

 

“แล้วเราค่อยตัดสินใจกันอีกครั้งในภายหลัง”

 

คาร์ลมีความคิดที่ต่างออกไป เขายังคงมีเครื่องมือเวทย์อีกหลายอย่างภายในกล่องเวทย์นั่น

 

“ได้…โปรดแจ้งให้พวกเราทราบได้ทุกเมื่อหากเป็นเวลาที่สะดวกที่สุดสำหรับนายน้อยคาร์ล”

 

“อืม…แน่นอน”

 

เทย์เลอร์และเคจมองไปยังคาร์ลที่มีปฏิกิริยาตอบรับอย่างง่ายๆก่อนที่คาร์ลจะเลี่ยงจากสายตาที่จ้องมองมายังเขาเพื่อเอ่ยกับฮันส์

 

“นำอาหารของข้าไปที่รถม้าด้วยแล้วกัน”

 

“ขอรับ….นายน้อย”

 

คาร์ลกำลังจะเดินหันหลังกลับไปยังรถม้าแต่เป็นเวลาเดียวกับที่มีคนเรียกเขาไว้ก่อน

 

“นายน้อยคาร์ล”

 

นั่นคือเสียงของเคจ ดูเหมือนว่าเธอจะมีอาการปวดศีรษะจากการที่เอามือจับศีรษะของตนพร้อมกับคิ้วที่ขมวดมุ่นบนใบหน้านั่นก่อนที่เคจจะเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้น คาร์ลรู้สึกว่าน้ำลายของตนเหนียวข้นจนกลืนลำบากขึ้นเมื่อเห็นอาการเช่นนั้นของเคจ

 

“มีอะไรกับข้าเช่นหรือท่านนักบวชหญิง?”

 

“ท่านไม่เชื่อในพระเจ้าสักองค์…เช่นนั้นหรือ?”

 

‘ต้องการอะไรจากฉันกันเนี่ย?’

 

“อืม…เป็นเช่นนั้น”

 

“…..อ่า….ข้าเข้าใจแล้ว”

 

คาร์ลรีบมุ่งหน้าไปยังรถม้าของตนทันทีหลังจากได้ยินคำตอบรับจากเคจ เทย์เลอร์เข้ามาใกล้เคจเมื่อเห็นว่าคาร์ลได้เดินจากไปแล้ว

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

เคจมักไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครนอกจากนักบวชที่มาจากวิหารเดียวกันหรือเพื่อนสนิทของเธอเท่านั้น นั่นทำให้เขารู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่เคจมีต่อคาร์ล เธอสั่นศีรษะของเธอเบาๆและเอ่ยตอบด้วยท่าทางขมขื่น

 

“มันแปลก…”

 

“แล้วมันคืออะไร?”

 

“มันเหมือนกับ…..” เคจพูดขึ้นก่อนจับศีรษะของตนเบาๆและเอ่ยต่อโดยทันที

 

“….ข้ารู้สึก…ในหัวของข้า….ข้ารู้สึก…มันเหมือนกับว่าพระเจ้าแห่งความตายคอยห่วงใยและเห็นอกเห็นใจข้าอยู่ตลอดเวลา”

 

“….มันเป็นความรู้สึกเช่นไร?..เจ้าพักผ่อนไม่เพียงพอใช่หรือไม่?”

 

“อาจจะเป็นเช่นนั้น…”

 

เคจยังคงรู้สึกเช่นนี้ทุกครั้งเมื่อมองไปที่คาร์ล มีเพียงแค่ครั้งเดียวที่เธอรู้สึกเช่นนี้ มันเป็นตอนที่เธอถูกบังคับให้ใช้แรงงานในการสร้างวิหารแห่งใหม่ เธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกนั้นจากพระเจ้าแห่งความตายที่มองมายังเธอด้วยความห่วงใย

 

‘ไม่มีทางที่นายน้อยคาร์ลจะสั่งให้ข้าทำเช่นเดียวกับวิหารบ้านั่น’

 

เคจคิดว่าสิ่งที่เทย์เลอร์คิดเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เธอเพียงแค่พักผ่อนไม่พอก่อนที่จะสลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวของตน

 

นั่นคือเหตุผลที่คณะเดินทางของคาร์ลมีการเติบโตขึ้นและพวกเขายังคงมุ่งหน้าต่อไปยังเมืองหลวงโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

 

ทุกครั้งที่คาร์ลรู้สึกเหนื่อยกับการนั่งในรถม้าที่คับแคบเป็นเวลานานๆเขาก็เลือกที่จะเดินออกจากรถม้าเพื่อยืดแข้งยืดขาของตนบ้าง กลุ่มของเทย์เลอร์ยังคงมองมาที่เขาแต่ไม่ได้สนทนาใดๆต่อกัน

 

พวกเขายังคงเดินทางต่อไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงโรงแรมแห่งหนึ่งก่อนจะเดินทางเข้าเมืองหลวงในวันรุ่งขึ้น

 

“นายน้อยคาร์ล…ท่านชอบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ใช่หรือไม่?”

 

เป็นเทย์เลอร์และเคจที่ได้เข้ามาหาคาร์ลในตอนนี้

 

“พวกท่านมีอะไรกับข้าเช่นนั้นหรือ?”

 

คาร์ลรู้สึกแปลกใจว่าทำไมทั้งสองคนถึงเข้ามาหาเขากลางดึกเช่นนี้ แต่การแสดงออกของคนทั้งคู่ก็ไม่ได้มีสิ่งที่ผิดปกติไป เทย์เลอร์ส่งยิ้มให้คาร์ลเมื่อเห็นท่าทางของเขา

 

“คาร์ล เฮนิตัส ขยะไร้ค่าที่ไม่สามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากแอลกอออล์ได้”

 

เมื่อครั้งที่เทย์เลอร์คือผู้สืบทอดตำแหน่งมาร์คควิสนั้น เขาได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับขุนนางต่างๆมากมายรวมถึงข้อมูลของคาร์ลเพราะนั่นคือข้อมูลที่ไม่เหมือนใครและยากที่จะลืมเลือนได้

 

“แต่ข้าคิดว่านั่นมันไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด…”

 

อย่างไรก็ตามคาร์ลตัวจริงช่างแตกต่างจากข้อมูลที่เขาได้รับมากนัก คาร์ลอยู่บนรถม้าทั้งวันเพื่อให้พวกเขารู้สึกไม่อึดอัดและมีน้ำใจในการให้ความช่วยเหลือพวกเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งผู้ใต้บังคับบัญชายังให้เกียรติและนับถือปฏิบัติตามคำสั่งของเขาอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญที่สุดคือเขาปฏิบัติต่อพวกตนอย่างเช่นคนธรรมดาทั่วไป

 

“ท่านช่างแตกต่างจากข่าวลือยิ่งนัก”

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ด้านหน้าของเมืองหลวงแล้ว เทย์เลอร์และเคจจะต้องลอบออกไปจากโรงแรมนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ และแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องเดินเข้าไปในพระราชวังด้วยความมั่นใจแต่ยังคงมีหลายสิ่งที่พวกเขาจะต้องเตรียมพร้อมและหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่จะรับมือกับเรื่องที่ตั้งใจไว้ อย่างไรก็ตามพวกเขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแผนเดิมของพวกเขาเล็กน้อย

 

เทย์เลอร์และเคจได้เฝ้าดูคาร์ล เฮนิตัสเป็นเวลานานมากกว่าหนึ่งสัปดาห์และสิ่งนี้ก็ยังอยู่ในความคิดของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา

 

“นายน้อยคาร์ล…ท่านสนใจที่จะร่วมดื่มเหล้ากับพวกเราก่อนที่จะแยกย้ายกันหรือไม่?”

 

 

 

[1] บรรดาศักดิ์ของขุนนางทางตะวันตกประกอบไปด้วยบรรดาศักดิ์เรียงจากสูงไปต่ำดังนี้

 

ดยุก (Duke)

มาร์ควิส(Marquess)

เอิร์ล (Earl)/เคานต์ (Count)

ไวเคานต์ (Viscount)

บารอน (Baron)

 ทำให้สถานะของเทย์เลอร์อยู่ในขั้นที่ตกต่ำยิ่งกว่าลูกนอกสมรสของขุนนางที่มียศต่ำสุดเสียอีก

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 26 เจ้า 1"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่ทั้งทีขอลิขิตรักเอง (นิยายแปล) **จบแล้ว**
เกิดใหม่ทั้งทีขอลิขิตรักเอง (นิยายแปล) **จบแล้ว**
มีนาคม 12, 2022
The First Order ปฐมภาคีมวลมนุษย์
The First Order ปฐมภาคีมวลมนุษย์
มีนาคม 12, 2022
Taming Master
Taming Master
มีนาคม 12, 2022
ราชวงศ์ดาบ
ราชวงศ์ดาบ
มีนาคม 12, 2022
Demon Hunter
Demon Hunter
มีนาคม 12, 2022
หัตถ์เทวะธิดาพญายม : ชายายอดรักทรราชไร้ใจ
หัตถ์เทวะธิดาพญายม : ชายายอดรักทรราชไร้ใจ
พฤษภาคม 17, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz