ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family) - บทที่ 19 พบมังกร 2
บทที่ 19 พบมังกร 2
ตำแหน่งที่ลูกแมวสองตัว ออนและฮงนำลูกกลมๆสีดำนั้นมาฝังเกินความคาดหวังของคาร์ลไปมาก คฤหาสน์ของมาร์คควิสอยู่ห่างจากถ้ำของมังกร 30 เมตร ออนและฮงได้ฝังลูกกลมสีดำอยู่ห่างจากถ้ำนั้นประมาณ 50 เมตรในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ ทำให้อาจเป็นเรื่องยากหากใครจะพบเข้ากับลูกกลมสีดำนี้ได้
“พวกเจ้าทั้งสองยอดเยี่ยมมาก”
“ง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปากอีก…”
ออนกำลังบอกว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆแต่คาร์ลก็ได้เห็นจมูกของมันเชิดสูงขึ้นด้วยความภาคภูมิใจและมีความสุข
คาร์ล เชวฮัน ออนและฮงได้มาหยุดยืนรอบๆที่ฝังลูกกลมสีดำนั้นิมันมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าเครื่องมือรบกวนพลังเวทย์และมองไปยังทางเข้าถ้ำที่ห่างออกไป 50 เมตรและคฤหาสน์ของมาร์ควิสที่อยู่ห่างไม่ไกลนัก
“พวกเจ้าจำแผนได้หรือไม่?”
คาร์ลได้อธิบายแผนการไปแล้วครั้งหนึ่ง ตามจริงก็ไม่มีอะไรในแผนมากนัก
“ตอนนี้มีคนเฝ้าระวังความปลอดภัยทั้งหมด 6 คน”
คาร์ลพยายามนึกถึงข้อมูลที่เขาอ่านในนิยายเรื่อง กำเนิดวีรบุรุษ มังกรดำเป็นมังกรที่มีความฉลาดเฉลียวมันได้รวบรวมข้อมูลสำหรับสี่ปีที่ยาวนานมันถูกคุมขังเป็นเชลยและมีเหตุผลที่มันพยายามที่จะหลบหนีในอีกสองวันต่อมาซึ่งจะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ตอนนี้มีคนจำนวน 30 คน ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์นี้ ตอนแรกมีคนอยู่ที่นี่ถึง 100 คนแต่ค่อยๆลดลงเมื่อพวกเขาตระหนักว่าในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถเข้ามายังพื้นที่นี้ได้
แน่นอนว่าในจำนวน 30 คนมีอัศวินสูงระดับหัวหน้าและรองหัวหน้าอยู่ 3 นาย และมีอัศวินระดับกลางอีก 7 นาย นอกจากนี้ยังมีทหารที่เป็นผู้คุมสำหรับทรมานมังกรและคนงานทั่วไปอีก จำนวนคนที่นี่แสดงให้เห็นว่ามาร์คควิสให้ความสำคัญกับสถานที่นี้มากแค่ไหน อย่างไรก็ตามเขามีเชวฮันคนที่สามารถล้มอัศวินผู้แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรได้ถึง 10 ครั้งและคนเช่นนั้นกำลังอยู่ข้างเขาในตอนนี้
“ให้ข้าได้อธิบายอีกครั้งหนึ่งจะมีอัศวินระดับสูง 1 นายและอัศวินระดับกลางสองนายเฝ้าที่ปากทางเข้าถ้ำรวมทั้งทหารสองนายด้วย ภายในถ้ำมีอัศวินระดับสูงอยู่เพียงคนเดียวและผู้ถูกทรมานก็อยู่ที่ปลายถ้ำ ”
เชวฮันรู้สึกโกรธหลังจากได้ยินคำว่าผู้ถูกทรมานแต่คาร์ลไม่สนใจ เขาไม่สนใจที่จะรู้เรื่องต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในใจของเชวฮันตอนนี้ สิ่งที่สำคัญคือลูกกลมสีดำจะถูกเปิดใช้งานเร็วๆนี้และพวกเขาจำเป็นต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด
“เครื่องรวบรวมพลังเวทย์ที่ตั้งอยู่จากคฤหาสน์ไปยังปากทางเข้าถ้ำจะไม่ทำงานเป็นเวลา 40 นาทีด้วยการทำงานของลูกกลมๆสีดำที่ออนและฮงนำไปฝังไว้ เช่นเดียวกับเวทย์เตือนภัย กับดักเวทย์และสิ่งอื่นๆจะไม่สามารถทำงานได้ 40 นาที”
พวกเขาต้องการที่จะให้มังกรตัวนี้เป็นขุมพลังเวทมนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่พวกเขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากเหล่านักเวทย์ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่มาร์ควิสสแตนเลือกที่จะเติมพื้นที่นี้ด้วยเครื่องรวบรวมพลังเวทย์แทน เหตุผลที่ทำให้มีทหารรักษาความปลอดภัยน้อยลงก็เป็นเพราะพวกเขาเชื่อถือในเครื่องรวบรวมพลังเวทย์เป็นอย่างมาก
นั่นคือเหตุผลที่มังกรไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอให้เกิดการระเบิดของพลังเวทย์เพื่อทำการหลบหนี
‘ตาต่อตา เงินต่อเงิน’
เมื่อมาร์ควิสใช้เงินได้ เขาก็สามารถเรียนรู้การใช้เงินได้มากพอเช่นกัน คาร์ลแตะไปที่กระเป๋าเวทย์บนเอวของเขานี่มันเป็นกระเป๋ามหัศจรรย์ที่สามารถให้คุณจัดเก็บสิ่งของเป็นจำนวนมากและในกระเป๋านี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์พลังเวทย์ เครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ต่างๆ
“ข้าต้องการให้อัศวินและทหารที่เฝ้ายามพวกนั้นออกไป”
แน่นอนว่าเชวฮันจะต้องเป็นคนที่ลงมือ คาร์ลจะต้องต่อสู้ทำไมในเมื่อมีคนที่แข็งแกร่งอยู่ข้างกายตน? เขารู้สึกว่าขนาดกระดาษบาดมือยังเจ็บแล้วนับประสาอะไรหากโดนฟันด้วยดาบ
“ใช่…และเจ้าเป็นคนเดียวที่ข้าสามารถพึ่งพาได้…เพื่อให้เจ้าเป็นคนระวังหลังให้ข้า”
‘อย่างน้อยก็ตอนนี้’
คาร์ลมองไปที่เชวฮันด้วยท่าทางที่เคร่งเครียดก่อนที่เชวฮันจะพยักหน้าตอบรับด้วยความจริงใจ
“ข้าจะทำตามความต้องการของท่านได้อย่างแน่นอน”
“ดี…ดังที่ข้าได้บอกเอาไว้เจ้าต้องแน่ใจว่าพวกนั้นจะต้องเห็นชุดของเราก่อนที่เจ้าจะลงมือจัดการพวกเขา อย่าฆ่าใครและอย่าให้ใครเห็นฝีมือการใช้ดาบของเจ้า ….เจ้าจำได้ใช่ไหมว่าจะต้องทำอย่างไรหลังจากนั้น?”
กลิ่นอายสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ของเชวฮันจะถูกพรางด้วยความมืดหากเขาใช้มันอย่างระมัดระวัง คาร์ลเชื่อว่าเชวฮันควรจะเข้าใจมันเพราะเขาได้บอกเชวฮันมาหลายครั้งแล้ว
“ข้าจำได้ทุกอย่าง…”
“ดีมาก…ข้าจะให้เจ้าไปดำเนินการแล้ว”
คาร์ลตบไปที่ไหล่ของเชวฮันเบาๆ ก่อนที่จะยื่นอุปกรณ์เปลี่ยนเสียงให้ มันคงไม่ดีหากเขาต้องพูดในระหว่างที่ต่อสู้และพวกนั้นสามารถจดจำเสียงของเขาได้
“มันมีราคาแพงดังนั้นห้ามทำมันพัง…”
“ข้าเข้าใจแล้ว…….ท่านไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้”
คาร์ลมองไปที่ลูกแมวสองตัว พวกมันส่ายหางของมันเหมือนจะขออะไรบางอย่างจากเขา
“อ่า…..ข้าจะให้เนื้อแก่พวกเจ้าเมื่องานนี้สำเร็จ”
นี่ดูเหมือนไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนักเมื่อพวกมันส่งเสียงร้องเบาๆออกมาและหันหน้าหนีไป คาร์ลไม่ได้คิดอะไรมากนักเพียงต้องการยืนยันเวลาด้วยนาฬิกาของตน
‘เหลืออีกห้านาที’
ท้องฟ้ามืดสนิทและเป็นช่วงเวลากลางคืน ก่อนจะนึกถึงบทสนทนากับบิลอส
‘เครื่องมือที่ถูกรบกวนจากเครื่องนี้จะหยุดการทำงานทันทีและส่วนใหญ่จะปิดตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ระเบิด แต่ถึงอย่างนั้นเครื่องที่มีพลังเวทย์ระดับสูงจะส่งสัญญาณเพื่อให้รู้ว่ามันเกิดการแตกหัก มันไม่ได้เป็นเหมือนเวทย์ร่ายปลุกแต่มันจะดังเหมือนนาฬิกาปลุก’
‘มันจะส่งเสียงดัง?’
‘กระผมไม่ทราบว่านายน้อยจะใช้มันที่ไหน แต่มันจะดังพอให้ศัตรูได้ยิน’
บิลอสเริ่มยิ้มหยันก่อนกล่าวต่อไป
‘อย่างไรก็ตามหากมีอุปกรณ์พลังเวทย์อยู่ที่นั่นเป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายกับสัญญาณเตือนทั้งหมดที่เกิดขึ้นพร้อมๆกัน’
สับสนวุ่นวาย เพียงพอแล้วสำหรับคาร์ล
“เตรียมพร้อมได้…..”
ขนของลูกแมวทั้งสองเต็มไปด้วยถ่านสีดำเพื่อพรางตัวเช่นกัน จากนั้นพวกมันมายืนอยู่ข้างๆคาร์ลก่อนจะหายตัวไปในความมืดนั่นทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นพวกมันได้อีก สองพี่น้องจะยังไม่ปรากฏตัวต่อหน้าศัตรูในเวลานี้อย่างไรก็ตามคาร์ลรู้ว่าสองพี่น้องจะทำตามแผนและอยู่รอบตัวเขา
เชวฮันพับผ้าเช็ดหน้าที่เขาใช้ทำความสะอาดดาบของตนก่อนเก็บมันลงในกระเป๋าเสื้อ
เมื่อเตรียมการทั้งหมดเสร็จสิ้น คาร์ลก็ลุกขึ้นยืน
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
มีบางอย่างสั่นสะเทือนจากพื้นด้านล่างที่เขายืนอยู่ ลูกกลมสีดำเริ่มทำงานแล้ว
ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก
เข็มวินาทีของนาฬิกาที่คาร์ลพกติดตัวมากำลังเดินเข้าหาตามเวลาที่กำหนดไว้อย่างช้าๆและในที่สุด
ติ๊ก!
“ไปกันเถอะ”
ขั้นตอนตามแผนของคาร์ล เชวฮันจะวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ออนจะสร้างหมอกปกคลุมพื้นที่นั้นและคาร์ลจะอยู่ตรงกลางหมอกทำให้ยากที่จะสังเกตเห็นเขาได้
ในเวลานั้น
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คลิ๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เครื่องรบกวนพลังเวทย์ได้ถูกเปิดใช้งานแล้ว
“ข้าคิดว่าพวกมันไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีพลังเวทย์ระดับสูงทั้งหมด”
อุปกรณ์เวทย์บางชิ้นเริ่มส่งสัญญาณและเริ่มดังขึ้น คาร์ลเดินตามหลังเชวฮัน พร้อมหมอกที่ล้อมรอบตัวเขาเอาไว้เพื่อมุ่งหน้าไปยังถ้ำ
ตอนนี้มันเป็นสิ่งที่ต้องแข่งกับเวลา เชวฮันกำลังสู้กับเหล่าทหารและอัศวินหน้าปากถ้ำ
‘เจ้าบ้านี่..น่ากลัวจริงๆ’
ใช้ระยะเวลาไม่นานเหล่าทหารก็ได้รับบาดเจ็บที่แขนและขาของพวกเขาก่อนจะกระเด็นออกมากองที่พื้น
“เจ้าเป็นใคร? กล้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร!”
เชวฮันสามารถเบี่ยงหลบการโจมตีจากอัศวินระดับสูงก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าและแทงไปที่สีข้างของเขาและเบี่ยงหลบหยดเลือดที่กระเด็นออกมาก่อนจะใช้ศอกโจมตีทางด้านหลังตามด้วยลำคอจนอัศวินระดับสูงคนนั้นสลบเหมือดไปทันที
“เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้น”
อัศวินระดับสูงที่อยู่ภายในถ้ำปรากฏตัวออกมาเช่นกัน
“ยาพิษ…”
คาร์ลพูดผ่านอุปกรณ์เปลี่ยนเสียง หมอกที่ล้อมรอบเขาอยู่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นและฮงกำลังเคลื่อนตัวไปรอบๆก่อนจะแพร่กระจายพิษเพื่อให้ศัตรูเป็นอัมพาต คนที่ล้มลงไปจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ชั่วขณะหนึ่งแม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกตัวแล้วก็ตาม
คาร์ลสบตากับอัศวินระดับสูงที่อยู่ต่อหน้าก่อนกล่าวขึ้น
“คุ้มกัน”
เชวฮันก้าวมายืนอยู่ด้านหน้าคาร์ลทันที ก่อนจะกระโจนเข้าไปทางเข้าถ้ำโดยมีคาร์ลเดินตามหลังเขาไปติดๆ
“จัดการพวกมัน!”
อัศวินระดับสูงตะโกนบอกแก่อัศวินระดับกลางสองนายทันที พวกเขาชักดาบขึ้นมามุ่งไปยังที่เชวฮันอยู่ ดาบของพวกเขาเริ่มเรืองแสงแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้ป้อนกลิ่นอายลงไปในดาบแล้ว แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นดาบของพวกเขาก็ถูกตัดขาดทันทีด้วยฝีมือของเชวฮัน
เคร้ง! เคร้ง!
ครึ่งหนึ่งของดาบตกลงกระทบพื้นเสียงดังสนั่น
“….อ….อะไรกัน? เขาเป็นนักดาบ?”
ทั้งตกใจและสิ้นหวังเป็นเสียงของอัศวินระดับสูง สิ่งเดียวที่สามารถตัดดาบที่มีกลิ่นอายจนขาดได้ก็คือนักดาบที่มีกลิ่นอายเช่นเดียวกัน ทันทีที่จัดการตัดอาวุธของศัตรูโดยใช้กลิ่นอายที่ถูกพรางไว้ในความมืดเสร็จ เชวฮันก็ใช้ดาบและฝักเพื่อโจมตีไปที่คอและท้องของอัศวินระดับกลางพร้อมกันทันที
“ฮึก!”
“เอื้อก!”
‘…..เขาแค่ต้องการสู้หนึ่งต่อหนึ่ง’
คาร์ลไม่สามารถซ่อนความประหลาดใจของเขาได้ในขณะที่เขาหมอบอยู่ด้านหลังเชวฮันก่อนจะลุกเดินต่อไป ในขณะนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากเบื้องหลังของพวกเขา
“มีผู้บุกรุก!”
มันเป็นเสียงที่มาจากคฤหาสน์ คาร์ลหันกลับไปมองทางเบื้องหลัง
อัศวินระดับกลางยืนโซเซก่อนจะล้มลง คาร์ลได้มองสบตากับพวกเขา
พวกเขาได้รับพิษอัมพาตชั่วขณะของฮง
“…..พ…..พิษ”
“….ฆ….ฆาตกร”
เชวฮันทำให้พวกเขาสลบไปก่อนที่จะวิ่งเข้าหาอัศวินระดับสูงก่อนจะค่อยๆแกว่งดาบของเขาช้าๆ คาร์ลมอบหมายให้เขาเป็นคนเปิดทางเข้าถ้ำให้แม้ว่าเขาจะทำให้อัศวินระดับกลางที่เรียกเขาว่าฆาตกรสลบไปเขาก็แน่ใจว่าพวกมันเห็นดาวหกดวงที่อยู่บนชุดของเขา
“ฮึ! พวกเจ้ามาจากไหน!”
“หนวกหูเว้ย!”
เชวฮันสามารถหลบดาบที่เต็มไปด้วยพลังเวทย์ของอัศวินระดับสูงได้อย่างง่ายดาย เขาต้องพาหมอนี้ออกไปด้วย ในขณะที่เขารับหน้าที่ในการทำให้พวกมันไขว้เขวท่านคาร์ลก็กำลังเข้าไปในถ้ำพร้อมกับลูกแมวจากเผ่าแมวที่เข้าไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากแน่ใจว่าท่านคาร์ลได้เข้าไปในถ้ำเรียบร้อยแล้ว เขาก็ย้ายตัวเองมาอยู่ด้านหน้าปากทางเข้าถ้ำ ก่อนจะร้องเรียกอัศวินระดับสูง
“เข้ามา………”
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่อัศวินระดับสูงแต่เป็นศัตรูทั้งหมดที่กำลังถือคบเพลิงมุ่งหน้าเข้ามา
“ข้าปล่อยให้เจ้าจัดการได้ตามสบาย”
เชวฮันได้ยินเสียงของคาร์ลเปลี่ยนไปแต่ยังคงสงบอยู่จากด้านในและค่อยเริ่มยิ้มออกมา เขามุ่งความสนใจของตัวเองไปที่การปลดปล่อยพลังบางส่วน ความแข็งแกร่งของเขาที่จะใช้เพลงดาบหายนะแห่งความมืดเพลงดาบนี้ประกอบไปด้วยองค์ประกอบสองส่วนคือ ความมืดและความหายนะ และทั้งสองส่วนนี้กำลังก่อพลังแห่งการทำลายล้างล้อมรอบตัวเชวฮัน
“ไม่มีใครผ่านเข้าไปได้…..”
เขาเป็นคนที่พูดน้อยต่อยหนักได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
ในขณะที่เชวฮันกำลังป้องกันทางเข้าถ้ำ ด้านในถ้ำก็มีคนอื่นที่ป้องกันบางสิ่งบางอย่างในลักษณะที่ต่างกันออกไป คนนั้นไม่ใช่ใครเขาคือผู้คุมที่คอยทรมานมังกร เขาเป็นคนหนึ่งที่จะปกป้องคุกของมังกร เมื่อคาร์ลเข้ามาถึงเขาก็อยู่ในอาการจิตตกและสับสนวุ่นวานเป็นอย่างมาก
“ ทำไม? ทำไม?ทำไม? ลูกบอลเวทย์คริสตัสถึงไม่ทำงาน? ทำไม?”
ลูกบอลเวทย์คริสตัส ที่เหล่าผู้คุมจัดทำขึ้นเป็นหนึ่งในอุปกรณ์การสำรองพลังเวทย์ที่เวเนี่ยนเตรียมไว้หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น
“อ….อย่าเข้ามา! เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีอะไรอยู่ที่นี่?”
ผู้คุมตัวสั่นอย่างรุนแรงขณะที่จ้องมองไปที่คาร์ล เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลัว ถ้าเขาถูกทำร้ายจากคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาร่างกายของเขาจะต้องระเบิดทันที
นี่เป็นมาตรการด้านความปลอดภัยของเวเนี่ยน ด้วยความแรงของระเบิดจะส่งผลให้ลูกกุญแจไขคุกและคุกที่ใช้คุมขังมังกรระเบิดไปพร้อมๆกับผู้คุมเช่นกัน และเป็นธรรมดาที่ผู้คุมจะรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี
“ถ้าเจ้าเข้ามา…ทุกคนที่นี่จะต้องตาย!”
เปาะ!
คาร์ลดีดนิ้วเป็นสัญญาณแล้วมองไปที่ผู้คุมที่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวอีกครั้ง ก่อนที่จะมีหมอกกลุ่มใหญ่พุ่งตรงไปที่ร่างของผู้คุมทันที ซึ่งตอนนี้เจ้าของหมอกยังคงซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของถ้ำ
“อ……อ่า…..ออกไป…ไปให้พ้น!”
เสียงของการต่อสู้จากทางเข้าถ้ำ หมอกที่ค่อยๆใกล้เข้ามาและแน่นอนว่ามันเป็นหมอกพิษ หมอกที่เต็มไปด้วยพิษอัมพาตชั่วขณะเข้าโอบรอบตัวของผู้คุมอย่างรวดเร็ว
“….แค่กๆๆ…นี่มัน…ยาพิษ”
เฮือกกก……ร่างกายของผู้คุมเริ่มสั่นอย่างรุนแรงก่อนที่จะล้มลงไปกองกับพื้นตอนนี้สภาพของเขาแย่มากไม่สามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ เขาพยายามฝืนตัวเองในขณะที่ตะเกียกตะกายไปทั่วพื้น
คาร์ลเดินเข้าหาผู้คุมที่กำลังตะเกียกตะกายบนพื้นและทำการค้นเสื้อผ้าของเขาอย่างรวดเร็ว
ถ้าคุณไม่สามารถต่อสู้กับเขาคุณก็ต้องสู้กับเขาด้วยยาพิษหรืออาจจะทำข้อตกลงให้เขามอบกุญแจให้ อย่างไรก็ตามคาร์ลไม่ต้องการเลือกวิธีหลัง
‘อยู่นี่ไง’
คาร์ลคว้าลูกกุญแจที่หาเจอมาไว้ในมือและใช้มือปิดตาของผู้คุมลง เขาคงทรมานจากพิษจนหมดสติไป เขาเคยสงสัยว่าสองพี่น้องเคยใช้พิษมากเกินไปหรือไม่แต่ก็นั่นล่ะเขาไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่นัก
‘ฉันคิดว่าเขาคงไม่ตาย แต่ถ้าตายก็ดีแล้ว’
คาร์ลสะบัดนิ้วมือของตัวเองช้าๆก่อนจะมีกลุ่มก้อนสีดำร่วงหล่นลงมาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว มันคือออนและฮงเมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในระยะของแสงไฟจากคบเพลิงส่องถึงทำให้คาร์ลมองเห็นพวกเขาได้ชัดเจนขึ้น
หลังจากตรวจสอบว่าออนและฮงปลอดภัยดี พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังมุมที่ไกลที่สุดของถ้ำ
เมื่อคาร์ลเข้ามาถึงเขามองเห็นสิ่งมีชีวิตที่ขดตัวอยู่ในมุมของคุกเวทย์แห่งนี้ซึ่งตอนนี้การเป็นเพียงคุกธรรมดาไร้ประโยชน์ใดๆ มันคือมังกร แต่สิ่งที่ทำให้คาร์ลตกใจมากกว่าคือเลือดของมังกรและกลิ่นเลือดที่ตลบอบอวลไปทั่วอากาศ
คาร์ลเดินเข้าคุกอย่างรวดเร็ว
มังกรยังคงปิดตาต่อไปแม้ว่าเขาจะเดินเข้ามาใกล้มันเพียงใดก็ตาม มังกรอาจอยู่ในสภาพที่อ่อนเพลียและสับสนวุ่นวายเกินไปในตอนนี้
คาร์ลใส่ลูกกุญแจเข้าไปเพื่อทำการปลดล็อคมัน
คลิ๊ก!
มันปลดล็อคด้วยเสียงอันเบา คาร์ลค่อยๆเปิดประตูเหล็กเข้าไปเพื่อเดินเข้าไปในคุกที่ขังมังกรไว้
มันใหญ่มาก…..สถานที่ถูกเรียกว่าที่คุมขังมังกรมีทั้งแส้และเครื่องทรมานต่างๆ รวมทั้งที่นอนอันหรูหราที่เวเนี่ยนใช้นั่งดูการทรมานมังกร คาร์ลมุ่งหน้าไปยังมุมหนึ่งของคุก
มีร่างเล็กๆขนาด 1 เมตรนอนอยู่บนกองหญ้าแห้ง ตาทั้งสองของมันยังคงสั่นระริกแม้จะยังปิดเปลือกตาไว้อยู่มีโซ่อาคมพันธนาการทั้งแขนและขาทั้งสองข้างรวมทั้งคอด้วยทำให้มันไม่สามารถขยับเพื่อใช้แรงใดๆได้
“เฮ้”
คาร์ลคุกเข่าลงตรงหน้ามังกร มันไม่แม้แต่จะเปิดเปลือกตาขึ้นแม้ว่าคาร์ลจะส่งเสียงเรียกก็ตาม คาร์ลก้มมองดูนาฬิกาเพื่อยืนยันเวลาอีกครั้ง ถึงเวลาที่จะต้องออกไปแล้ว เขายังคงพูดกับมังกรต่อไป
“ออกไปจากที่นี่กันเถอะ”
คาร์ลใช้ลูกกุญแจที่ได้มาจากผู้คุมเพื่อปลดโซ่อาคมทั้งหมดก่อนที่มังกรจะเปิดตาขึ้น คาร์ลเริ่มยิ้มหลังจากมองเห็นแววตาของมังกร
มันยังคงจ้องเขม็งมาที่คาร์ล สายตาที่มีแต่ความแข็งกร้าว สายตาของมันไม่ได้หายไปจากความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ มันไม่ใช่สายตาเดียวกับที่ใช้มองเชวฮันเหมือนในนิยาย มันยังคงจ้องมองด้วยความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ นั่นคือเหตุผลที่มันเต็มไปด้วยพลังแห่งความโกรธและความต้านทาน
มันคือสายตาของมังกร
“…..นับเป็นสายตาที่ดี”
คาร์ลอุ้มมังกรเขามาในอ้อมแขนของตน