หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family) - บทที่ 16 ออกเดินทาง 3

  1. หน้าแรก
  2. ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
  3. บทที่ 16 ออกเดินทาง 3
Prev
Next

บทที่ 16 ออกเดินทาง 3 

 

“นายน้อยจะออกไปไหนหรือขอรับ?”

 

รอนเดินเข้ามาหาเขาทันทีที่ก้าวออกจารถม้า

 

“แล้วใครจะไปถ้าไม่ใช่ข้า?”

 

รอนและรองหัวหน้าทหารองครักษ์ได้ติดตามคาร์ลซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุอย่างไม่ลังเล ทั้งสองล้อมรอบคาร์ลราวกับว่าโลกกำลังจะถล่มในเร็วๆนี้ แต่เขาไม่ได้สนใจมัน

 

มีคนเดินลงจากรถม้าอีกคันอย่างช้าๆ เวเนี่ยน สแตน

 

คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วอย่างขุ่นมัวเมื่อมองเห็นเขา มีเพียงบรรทัดเดียวในข้อมูลที่เขาได้มาจากบิดาเกี่ยวกับบุคลิกและนิสัยใจคอของเวเนี่ยน สแตน

 

[ขุนนางทั่วไปและเผด็จการ]

 

คาร์ล…ไม่สิ….คิมร็อกโซยังสามารถใช้ข้อมูลจากนิยายเรื่องกำเนิดวีรบุรุษเพื่อประเมินเวเนี่ยนได้อีกทางหนึ่ง

 

ลักษณะของตัวร้ายทั่วไปนั่นล่ะ

 

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดอาการปวดหัวได้ง่ายเมื่อเจอตัวร้ายเช่นนี้ในชีวิตจริงมากกว่าการเจอตัวร้ายแบบในนิยาย คาร์ลไม่ใช่คนที่สามารถปล่อยให้สิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นได้เพียงเพราะไม่ชอบขี้หน้าใครแม้กระทั่งจะเป็นเชวฮันก็ตาม

 

ตอนนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้บานปลายไปมากกว่าเดิมเมื่อคาร์ลได้เดินมาถึงซึ่งใช้เวลาไม่นานมากนัก เขาเห็นว่าเชวฮันโกรธมากจนไหล่ของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

 

“ใครใช้ให้พวกเจ้ามาขวางทางรถม้าของขุนนางด้วย ห๊ะ?”

 

“ให้ตายเถอะ! เจ้าพูดอะไรออกมาในเมื่อมันมีคนเจ็บ? ขวางทางงั้นเหรอ?เรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะเจ้าที่บังคับรถม้าวิ่งเหมือนคนบ้าเช่นนั้น”

 

“พวกบ้านนอกก็ควรเดินออกจากทางเมื่อเห็นรถของขุนนางสิ ไม่ใช่ความผิดของพวกข้า ไอ้บ้านนอกนี่โง่เองที่มายืนอยู่กลางถนนเช่นนั้นโดยไม่ขยับหลีกทางเลยสักนิด”

 

เชวฮันกำลังโต้เถียงกับข้ารับใช้ของเวเนี่ยน ก่อนที่ฮันส์ที่ยืนอยู่ข้างเชวฮันจะเริ่มขมวดคิ้วมุ่นและเดินเข้ามาหาคาร์ลพร้อมกับกระซิบไปที่หูของคาร์ล

 

“ดูเหมือนท่านเชวฮันจะโมโหมากขอรับ”

 

ฮันส์ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเจ้าของรถม้าคันนั้นเป็นของตระกูลมาร์ควิส และก็ดูจะรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เวเนี่ยน สแตน

 

เจ้าโรคจิตหลงตัวเองก้าวออกมาจากรถม้าทันทีเมื่อมองเห็นสัญลักษณ์ที่อยู่บนรถม้าของตระกูลเฮนิตัส

 

“พอได้แล้ว….”

 

เวเนี่ยน ชายผมสีบลอนด์สวยพูดเบาๆกับข้ารับใช้ของตน ทันทีได้ยินคำพูดของเวเนี่ยนพวกเขาก็รีบขยับไปข้างหลังเวเนี่ยนราวกับไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันตั้งแต่แรก มีเพียงเฉพาะเชวฮันเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ ลมหายใจของเขาสะท้อนเข้าออกรุนแรงก่อนจะข่มอารมณ์ตนเพื่อปลอบโยนชายชราที่กำลังหวาดกลัวอยู่

 

เตราะ! คาร์ลเดาะลิ้นของเขา

 

ข้ารับใช้นั่นดูไม่ได้โกรธจริงจัง เขาสามารถมองเห็นรถม้าของคาร์ลที่อยู่ไม่ไกลนักซึ่งเหมือนกับเวเนี่ยนที่มองเห็นสัญลักษณ์เต่าทองบนรถม้าของคาร์ลได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ข้ารับใช้นั่นพูดเกินจริงและส่งเสียงดังเกินความจำเป็นเพื่อที่จะให้คาร์ลออกไปยังที่เกิดเหตุ ฮันส์รู้ว่าข้ารับใช้นั่นจะทำอะไร ฮึ!อยากหาเรื่องนายข้ารึไงและนั่นทำให้เขาขมวดคิ้วมุ่นเพื่อรอการมาถึงของคาร์ล

 

คาร์ลจ้องมองไปที่เวเนี่ยนและข้ารับใช้ของเขาก่อนที่จะจับไปที่ไหล่ของเชวฮัน

 

“เจ้าก็ด้วย…”

 

“แต่!……”

 

คาร์ลรู้ว่าทำไมเชวฮันถึงโกรธ หมู่บ้านแห่งนี้มีความคล้ายคลึงกับหมู่บ้านแฮร์ริสซึ่งเป็นบ้านหลังที่สองของเขา เชวฮันโกรธกับความจริงที่ว่าคนเหล่านี้ทำให้ชีวิตของคนอื่นตกอยู่ในอันตรายแต่ไม่ได้มีความสำนึกผิดหรือคิดจะขอโทษเลยสักคำ

 

อย่างไรก็ตามเหยื่อของเหตุการณ์ในครั้งนี้คือชายชราเขาไม่สมารถแสดงอาการโกรธใดๆได้เพราะเขาไม่มีผู้สนับสนุนเช่นเชวฮัน

 

“พวกเขาอาจใช้เส้นทางอื่น แล้วทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งมันอาจจะทำร้ายผู้อื่นได้อีก ข้าจะปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร”

 

“เชวฮัน”

 

คาร์ลเพิ่มแรงลงไปบนไหล่ของเชวฮันที่เขาจับไว้

 

“ใจเย็นๆ”

 

รูม่านตาสีดำของเชวฮันจ้องมองมาที่คาร์ลและคาร์ลสามารถมองเห็นความโกรธในม่านตานั้นได้มันไม่ได้เป็นความโกรธกับเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันยังมีเรื่องราวของหมู่บ้านแฮร์ริสอีกด้วย ก่อนที่เขาจะค่อยๆสงบลง

 

หลังจากแน่ใจว่าเชวฮันได้สงบลงแล้วเขาจึงหันมามองเวเนี่ยน สแตน อีกครั้ง

 

ผมสีบลอนด์ที่สวยงามและรอยยิ้มน้อยๆที่ประดับอยู่บนริมฝีปากของเขา เครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์แบบถูกรีดโดยไม่มีรอยยับแม้แต่รอยเดียว รองเท้าบู๊ทก็ไม่ร่องรอยขูดขีดแม้แต่รอยเดียวเช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดสายตาของคาร์ลได้คือจุดสีแดงเล็กน้อยที่ติดอยู่ปลายเสื้อสีขาวของเวเนี่ยน

 

‘มีเลือดจากบางสิ่งกระเด็นมาโดนเขา น่าจะเป็นตอนที่หมอนี่เพลินเพลินไปกับการเฝ้าดูมังกรดำที่ถูกทรมาน’

 

ไอ้บ้า เวเนี่ยน สแตน คนนี้เป็นคนที่ชื่นชอบทานอาหารของเขาขณะนั่งดูมังกรดำถูกทรมานจนตัวของมันเต็มไปด้วยเลือด

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก…ท่านเป็นใครจากตระกูลเฮนิตัสหรือ?”

 

“ใช่…ยินดีที่ได้พบท่านเช่นกัน นายน้อยเวเนี่ยน สแตน”

 

ตามที่คาดไว้อีกฝ่ายรู้เรื่องของตน เวเนี่ยนไม่ใช่คนที่มีชีวิตหรือคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งทายาท ปัญหาคือเขาค่อนข้างเป็นคนหยาบคาย

 

“อืม….”

 

เวเนี่ยน สแตน เป็นคนที่ส่งยิ้มให้คุณได้อย่างอ่อนโยนแต่คุณก็ยังไม่รู้สึกอะไรหรอก นอกจากจะมีแต่ความรังเกียจเขา

 

“ข้าไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะมาที่นี่และก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรมากนัก แต่ข้าได้ยินมาว่ามีบางคนในตระกูล เฮนิตัสที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองและก็ไม่ได้เป็นขุนนาง”

 

เวเนี่ยนยิ้มขณะที่เขาลอบสังเกตคาร์ลไปด้วย

 

‘มันดูน่ารำคาญเล็กน้อยราวกับว่าหมอนี่ต้องการจะเริ่มอะไรบางอย่าง’

 

“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยบาเซ็น เฮนิตัสได้เข้าร่วมประชุมกับเหล่าขุนนางเมื่อปีก่อน”

 

‘แล้วทำไมต้องถามในเรื่องที่ตัวเองรู้อยู่แล้ว’

 

คาร์ลไม่ได้มีพรสวรรค์ในการสนทนาเช่นนี้ นั่นเป็นเหตุผลให้เขายิ้มอย่างสดใสและตอบอย่างสุภาพ

 

“ใช่ ข้าคือขยะไร้ค่าผู้นั้น…”

 

ขยะ ช่วงเวลาที่คำพูดนั้นออกมาจากปากคาร์ล ข้ารับใช้ของเวเนี่ยนถึงกับสะดุ้งไปเล็กน้อย

 

“ก็คงจะเป็นเศษขยะที่ไร้ค่าสักอย่างในถังขยะนั่นกระมัง”

 

มุมปากของเวเนี่ยนกระตุกเล็กน้อย การแสดงออกของเขาดูเหมือนจะบอกว่าไม่เคยเห็นคนบ้ามาก่อนแต่คาร์ลไม่ได้สนใจแต่อย่างใด

 

มาร์ควิสสแตนเป็นคนที่มีอำนาจมากพอที่จะเป็นผู้นำของทุกฝ่ายได้แต่สำหรับเวเนี่ยนไม่ใช่เช่นนั้น เขาไม่สามารถจะได้การยอมรับจากขุนนางคนอื่นได้จนกว่าเขาจะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งมาร์ควิสใน อนาคตอย่างเป็นทางการ

 

ตำแหน่งมมาร์ควิสโดยปกติแล้วจะต้องมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเด็กคนใดได้ถูกรับเลือกเป็นผู้สืบทอดเพื่อที่จะให้การคุ้มครองเด็กคนนั้นเช่นเดียวกับที่จะต้องสร้างเครือข่ายของพวกเขาตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตามมาร์ควิสสแตนไม่ได้ทำเช่นนั้น

 

‘ยังมีเด็กอีกสามคน’

 

เวเนี่ยนมีน้องสาวสองคนและน้องชายอีกหนึ่งคน มาร์ควิสชอบดูการแข่งขันระหว่างพี่น้องเช่นเดียวกับที่เวเนี่ยนชื่นชอบการดูมังกรดำที่ถูกทรมานเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการแข่งขันกับพี่น้องของตน มาร์ควิสจะพิจารณาการแข่งขันของลูกๆว่าเป็นการเล่นสนุกที่น่าตื่นเต้นเพียงใด และการที่บุตรชายคนโตต้องพิการลงก็เป็นผลมาจากการแข่งขันนี้เช่นกัน

 

มันเป็นตระกูลที่บ้าคลั่งมาก

 

ตระกูลเฮนิตัสของเราเป็นที่ตระกูลที่ยอดเยี่ยมมากหากต้องเปรียบเทียบกับตระกูลบ้าคลั่งนั่น

 

“เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจมาก”

 

เวเนี่ยนเพิ่งมีปฏิกิริยาตอบรับกับคำตอบของคาร์ล

 

ท่านเคานต์ผู้มั่งคั่งที่อยู่ในเขตชานเมืองอันห่างไกลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยไม่ได้เข้าพวกกับฝ่ายใด ใครบ้างที่จะไม่อยากกระชับความสัมพันธ์กับตระกูลนี้?ใครๆก็มีความโลภที่อยากครอบครองอาณาเขตนี้เป็นของตนกันทั้งนั้น

 

แต่สำหรับเวเนี่ยนไม่เป็นเช่นนั้น เขาไม่ชอบคาร์ลที่เป็นเพียงขยะไร้ค่าบุตรชายคนโตของท่านเคานต์ที่มีน้องชายที่เฉลียวฉลาดและเก่งกาจมากกว่า เขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคาร์ลและบาเซ็นก็คงเหมือนกับความสัมพันธ์ของเขากับพี่ชายเช่นกัน

 

แต่ถึงอย่างนั้นเวเนี่ยนก็เก็บรักษาอาการของขุนนางชั้นสูงก่อนจะมอบหน้าที่ให้คาร์ลเป็นคนจัดการในเรื่องนี้

 

“อุปสรรคที่ไม่คาดคิดทำให้ข้าเสียเวลาเป็นอย่างมาก แต่ข้าก็ยังคิดว่านับเป็นเรื่องดีที่ทำให้ข้าได้มารู้จักกับท่าน นายน้อยคาร์ล เฮนิตัส”

 

‘อุปสรรคที่ไม่คาดคิด’เขาหมายถึงชายชราคนนั้น เขารู้สึกผิดหวังกับความจริงที่ว่าเวลาของเขาเสียไปเพราะชายชราผู้นี้และอยากจะจบเรื่องนี้ด้วยความสุข

 

“ดูเหมือนว่าท่านจะต้องสอนผู้ใต้บังคับบัญชาให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่มีสิทธิ์ที่จะเดินทางข้ามเส้นทางไปมายังดินแดนนี้และคนที่มีสิทธิ์ที่จะทำให้พวกเขาต้องหยุดลง”

 

ในฐานะผู้สืบทอดอย่างไม่เป็นทางการของมาร์ควิสสแตนซึ่งใครๆก็ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เขาคิดว่านี่คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะทำให้ขยะไร้ค่าจากตระกูลเคานต์เฮนิตัสได้ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าถึงทั้งสองจะเป็นนายน้อยเช่นเดียวกันแต่สถานะของคนทั้งคู่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

แน่นอนว่าคาร์ลกำลังฟังอย่างเงียบๆแต่เขาไม่ใช่คนที่จะให้ความสนใจกับการเล่นตลกของสุนัขเท่าใดนัก

 

เวเนี่ยนเสร็จสิ้นสิ่งที่เขาต้องการจะพูดและมองไปยังคนที่สมควรจะอึดอัดที่สุดในกลุ่มนั่น

 

พลั่ก! ชายชราคุกเข่าลงบนพื้นดินอย่างแรงเมื่อเห็นว่าเวเนี่ยนมองมาที่ตน

 

“…….เอ่อ…..ข้าน้อยขอโทษขอรับ”

 

มือของชายชราคู่นั้นถูกวางไปที่พื้นดินพร้อมกับศีรษะของเขาที่โขกพื้นดินส่งเสียงดังเป็นระยะ มือของ เชวฮันสั่นไหวด้วยความโกรธขณะเฝ้ามองดูชายชราคุกเข่าขอโทษ

 

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในดินแดนแต่ละท้องที่จะมีลักษณะเฉกเช่นเดียวกับขุนนางที่ประจำอยู่เมืองนั้น นายอำเภอของเมืองนี้เป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลมาร์คควิสสแตน ส่งผลให้พวกเขามีอำนาจและเผด็จการต่อชาวบ้านที่นี่นัก

 

บทที่ 16 ออกเดินทาง 3 (1)

 

“นายน้อยจะออกไปไหนหรือขอรับ?”

 

รอนเดินเข้ามาหาเขาทันทีที่ก้าวออกจารถม้า

 

“แล้วใครจะไปถ้าไม่ใช่ข้า?”

 

รอนและรองหัวหน้าทหารองครักษ์ได้ติดตามคาร์ลซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังที่เกิดเหตุอย่างไม่ลังเล ทั้งสองล้อมรอบคาร์ลราวกับว่าโลกกำลังจะถล่มในเร็วๆนี้ แต่เขาไม่ได้สนใจมัน

 

มีคนเดินลงจากรถม้าอีกคันอย่างช้าๆ เวเนี่ยน สแตน

 

คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วอย่างขุ่นมัวเมื่อมองเห็นเขา มีเพียงบรรทัดเดียวในข้อมูลที่เขาได้มาจากบิดาเกี่ยวกับบุคลิกและนิสัยใจคอของเวเนี่ยน สแตน

 

[ขุนนางทั่วไปและเผด็จการ]

 

คาร์ล…ไม่สิ….คิมร็อกโซยังสามารถใช้ข้อมูลจากนิยายเรื่องกำเนิดวีรบุรุษเพื่อประเมินเวเนี่ยนได้อีกทางหนึ่ง

 

ลักษณะของตัวร้ายทั่วไปนั่นล่ะ

 

อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดอาการปวดหัวได้ง่ายเมื่อเจอตัวร้ายเช่นนี้ในชีวิตจริงมากกว่าการเจอตัวร้ายแบบในนิยาย คาร์ลไม่ใช่คนที่สามารถปล่อยให้สิ่งที่เลวร้ายเกิดขึ้นได้เพียงเพราะไม่ชอบขี้หน้าใครแม้กระทั่งจะเป็นเชวฮันก็ตาม

 

ตอนนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้บานปลายไปมากกว่าเดิมเมื่อคาร์ลได้เดินมาถึงซึ่งใช้เวลาไม่นานมากนัก เขาเห็นว่าเชวฮันโกรธมากจนไหล่ของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

 

“ใครใช้ให้พวกเจ้ามาขวางทางรถม้าของขุนนางด้วย ห๊ะ?”

 

“ให้ตายเถอะ! เจ้าพูดอะไรออกมาในเมื่อมันมีคนเจ็บ? ขวางทางงั้นเหรอ?เรื่องนี้มันเกิดขึ้นก็เพราะเจ้าที่บังคับรถม้าวิ่งเหมือนคนบ้าเช่นนั้น”

 

“พวกบ้านนอกก็ควรเดินออกจากทางเมื่อเห็นรถของขุนนางสิ ไม่ใช่ความผิดของพวกข้า ไอ้บ้านนอกนี่โง่เองที่มายืนอยู่กลางถนนเช่นนั้นโดยไม่ขยับหลีกทางเลยสักนิด”

 

เชวฮันกำลังโต้เถียงกับข้ารับใช้ของเวเนี่ยน ก่อนที่ฮันส์ที่ยืนอยู่ข้างเชวฮันจะเริ่มขมวดคิ้วมุ่นและเดินเข้ามาหาคาร์ลพร้อมกับกระซิบไปที่หูของคาร์ล

 

“ดูเหมือนท่านเชวฮันจะโมโหมากขอรับ”

 

ฮันส์ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเจ้าของรถม้าคันนั้นเป็นของตระกูลมาร์ควิส และก็ดูจะรู้ว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เวเนี่ยน สแตน

 

เจ้าโรคจิตหลงตัวเองก้าวออกมาจากรถม้าทันทีเมื่อมองเห็นสัญลักษณ์ที่อยู่บนรถม้าของตระกูลเฮนิตัส

 

“พอได้แล้ว….”

 

เวเนี่ยน ชายผมสีบลอนด์สวยพูดเบาๆกับข้ารับใช้ของตน ทันทีได้ยินคำพูดของเวเนี่ยนพวกเขาก็รีบขยับไปข้างหลังเวเนี่ยนราวกับไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันตั้งแต่แรก มีเพียงเฉพาะเชวฮันเท่านั้นที่ยังยืนอยู่ ลมหายใจของเขาสะท้อนเข้าออกรุนแรงก่อนจะข่มอารมณ์ตนเพื่อปลอบโยนชายชราที่กำลังหวาดกลัวอยู่

 

เตราะ! คาร์ลเดาะลิ้นของเขา

 

ข้ารับใช้นั่นดูไม่ได้โกรธจริงจัง เขาสามารถมองเห็นรถม้าของคาร์ลที่อยู่ไม่ไกลนักซึ่งเหมือนกับเวเนี่ยนที่มองเห็นสัญลักษณ์เต่าทองบนรถม้าของคาร์ลได้อย่างชัดเจน จึงทำให้ข้ารับใช้นั่นพูดเกินจริงและส่งเสียงดังเกินความจำเป็นเพื่อที่จะให้คาร์ลออกไปยังที่เกิดเหตุ ฮันส์รู้ว่าข้ารับใช้นั่นจะทำอะไร ฮึ!อยากหาเรื่องนายข้ารึไงและนั่นทำให้เขาขมวดคิ้วมุ่นเพื่อรอการมาถึงของคาร์ล

 

คาร์ลจ้องมองไปที่เวเนี่ยนและข้ารับใช้ของเขาก่อนที่จะจับไปที่ไหล่ของเชวฮัน

 

“เจ้าก็ด้วย…”

 

“แต่!……”

 

คาร์ลรู้ว่าทำไมเชวฮันถึงโกรธ หมู่บ้านแห่งนี้มีความคล้ายคลึงกับหมู่บ้านแฮร์ริสซึ่งเป็นบ้านหลังที่สองของเขา เชวฮันโกรธกับความจริงที่ว่าคนเหล่านี้ทำให้ชีวิตของคนอื่นตกอยู่ในอันตรายแต่ไม่ได้มีความสำนึกผิดหรือคิดจะขอโทษเลยสักคำ

 

อย่างไรก็ตามเหยื่อของเหตุการณ์ในครั้งนี้คือชายชราเขาไม่สมารถแสดงอาการโกรธใดๆได้เพราะเขาไม่มีผู้สนับสนุนเช่นเชวฮัน

 

“พวกเขาอาจใช้เส้นทางอื่น แล้วทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งมันอาจจะทำร้ายผู้อื่นได้อีก ข้าจะปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร”

 

“เชวฮัน”

 

คาร์ลเพิ่มแรงลงไปบนไหล่ของเชวฮันที่เขาจับไว้

 

“ใจเย็นๆ”

 

รูม่านตาสีดำของเชวฮันจ้องมองมาที่คาร์ลและคาร์ลสามารถมองเห็นความโกรธในม่านตานั้นได้มันไม่ได้เป็นความโกรธกับเรื่องนี้เท่านั้น แต่มันยังมีเรื่องราวของหมู่บ้านแฮร์ริสอีกด้วย ก่อนที่เขาจะค่อยๆสงบลง

 

หลังจากแน่ใจว่าเชวฮันได้สงบลงแล้วเขาจึงหันมามองเวเนี่ยน สแตน อีกครั้ง

 

ผมสีบลอนด์ที่สวยงามและรอยยิ้มน้อยๆที่ประดับอยู่บนริมฝีปากของเขา เครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์แบบถูกรีดโดยไม่มีรอยยับแม้แต่รอยเดียว รองเท้าบู๊ทก็ไม่ร่องรอยขูดขีดแม้แต่รอยเดียวเช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดึงดูดสายตาของคาร์ลได้คือจุดสีแดงเล็กน้อยที่ติดอยู่ปลายเสื้อสีขาวของเวเนี่ยน

 

‘มีเลือดจากบางสิ่งกระเด็นมาโดนเขา น่าจะเป็นตอนที่หมอนี่เพลินเพลินไปกับการเฝ้าดูมังกรดำที่ถูกทรมาน’

 

ไอ้บ้า เวเนี่ยน สแตน คนนี้เป็นคนที่ชื่นชอบทานอาหารของเขาขณะนั่งดูมังกรดำถูกทรมานจนตัวของมันเต็มไปด้วยเลือด

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก…ท่านเป็นใครจากตระกูลเฮนิตัสหรือ?”

 

“ใช่…ยินดีที่ได้พบท่านเช่นกัน นายน้อยเวเนี่ยน สแตน”

 

ตามที่คาดไว้อีกฝ่ายรู้เรื่องของตน เวเนี่ยนไม่ใช่คนที่มีชีวิตหรือคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งทายาท ปัญหาคือเขาค่อนข้างเป็นคนหยาบคาย

 

“อืม….”

 

เวเนี่ยน สแตน เป็นคนที่ส่งยิ้มให้คุณได้อย่างอ่อนโยนแต่คุณก็ยังไม่รู้สึกอะไรหรอก นอกจากจะมีแต่ความรังเกียจเขา

 

“ข้าไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะมาที่นี่และก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรมากนัก แต่ข้าได้ยินมาว่ามีบางคนในตระกูล เฮนิตัสที่ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองและก็ไม่ได้เป็นขุนนาง”

 

เวเนี่ยนยิ้มขณะที่เขาลอบสังเกตคาร์ลไปด้วย

 

‘มันดูน่ารำคาญเล็กน้อยราวกับว่าหมอนี่ต้องการจะเริ่มอะไรบางอย่าง’

 

“ข้าได้ยินมาว่านายน้อยบาเซ็น เฮนิตัสได้เข้าร่วมประชุมกับเหล่าขุนนางเมื่อปีก่อน”

 

‘แล้วทำไมต้องถามในเรื่องที่ตัวเองรู้อยู่แล้ว’

 

คาร์ลไม่ได้มีพรสวรรค์ในการสนทนาเช่นนี้ นั่นเป็นเหตุผลให้เขายิ้มอย่างสดใสและตอบอย่างสุภาพ

 

“ใช่ ข้าคือขยะไร้ค่าผู้นั้น…”

 

ขยะ ช่วงเวลาที่คำพูดนั้นออกมาจากปากคาร์ล ข้ารับใช้ของเวเนี่ยนถึงกับสะดุ้งไปเล็กน้อย

 

“ก็คงจะเป็นเศษขยะที่ไร้ค่าสักอย่างในถังขยะนั่นกระมัง”

 

มุมปากของเวเนี่ยนกระตุกเล็กน้อย การแสดงออกของเขาดูเหมือนจะบอกว่าไม่เคยเห็นคนบ้ามาก่อนแต่คาร์ลไม่ได้สนใจแต่อย่างใด

 

มาร์ควิสสแตนเป็นคนที่มีอำนาจมากพอที่จะเป็นผู้นำของทุกฝ่ายได้แต่สำหรับเวเนี่ยนไม่ใช่เช่นนั้น เขาไม่สามารถจะได้การยอมรับจากขุนนางคนอื่นได้จนกว่าเขาจะถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งมาร์ควิสใน อนาคตอย่างเป็นทางการ

 

ตำแหน่งมมาร์ควิสโดยปกติแล้วจะต้องมีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเด็กคนใดได้ถูกรับเลือกเป็นผู้สืบทอดเพื่อที่จะให้การคุ้มครองเด็กคนนั้นเช่นเดียวกับที่จะต้องสร้างเครือข่ายของพวกเขาตั้งแต่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตามมาร์ควิสสแตนไม่ได้ทำเช่นนั้น

 

‘ยังมีเด็กอีกสามคน’

 

เวเนี่ยนมีน้องสาวสองคนและน้องชายอีกหนึ่งคน มาร์ควิสชอบดูการแข่งขันระหว่างพี่น้องเช่นเดียวกับที่เวเนี่ยนชื่นชอบการดูมังกรดำที่ถูกทรมานเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการแข่งขันกับพี่น้องของตน มาร์ควิสจะพิจารณาการแข่งขันของลูกๆว่าเป็นการเล่นสนุกที่น่าตื่นเต้นเพียงใด และการที่บุตรชายคนโตต้องพิการลงก็เป็นผลมาจากการแข่งขันนี้เช่นกัน

 

มันเป็นตระกูลที่บ้าคลั่งมาก

 

ตระกูลเฮนิตัสของเราเป็นที่ตระกูลที่ยอดเยี่ยมมากหากต้องเปรียบเทียบกับตระกูลบ้าคลั่งนั่น

 

“เจ้าเป็นคนที่น่าสนใจมาก”

 

เวเนี่ยนเพิ่งมีปฏิกิริยาตอบรับกับคำตอบของคาร์ล

 

ท่านเคานต์ผู้มั่งคั่งที่อยู่ในเขตชานเมืองอันห่างไกลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือโดยไม่ได้เข้าพวกกับฝ่ายใด ใครบ้างที่จะไม่อยากกระชับความสัมพันธ์กับตระกูลนี้?ใครๆก็มีความโลภที่อยากครอบครองอาณาเขตนี้เป็นของตนกันทั้งนั้น

 

แต่สำหรับเวเนี่ยนไม่เป็นเช่นนั้น เขาไม่ชอบคาร์ลที่เป็นเพียงขยะไร้ค่าบุตรชายคนโตของท่านเคานต์ที่มีน้องชายที่เฉลียวฉลาดและเก่งกาจมากกว่า เขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างคาร์ลและบาเซ็นก็คงเหมือนกับความสัมพันธ์ของเขากับพี่ชายเช่นกัน

 

แต่ถึงอย่างนั้นเวเนี่ยนก็เก็บรักษาอาการของขุนนางชั้นสูงก่อนจะมอบหน้าที่ให้คาร์ลเป็นคนจัดการในเรื่องนี้

 

“อุปสรรคที่ไม่คาดคิดทำให้ข้าเสียเวลาเป็นอย่างมาก แต่ข้าก็ยังคิดว่านับเป็นเรื่องดีที่ทำให้ข้าได้มารู้จักกับท่าน นายน้อยคาร์ล เฮนิตัส”

 

‘อุปสรรคที่ไม่คาดคิด’เขาหมายถึงชายชราคนนั้น เขารู้สึกผิดหวังกับความจริงที่ว่าเวลาของเขาเสียไปเพราะชายชราผู้นี้และอยากจะจบเรื่องนี้ด้วยความสุข

 

“ดูเหมือนว่าท่านจะต้องสอนผู้ใต้บังคับบัญชาให้เห็นความแตกต่างระหว่างคนที่มีสิทธิ์ที่จะเดินทางข้ามเส้นทางไปมายังดินแดนนี้และคนที่มีสิทธิ์ที่จะทำให้พวกเขาต้องหยุดลง”

 

ในฐานะผู้สืบทอดอย่างไม่เป็นทางการของมาร์ควิสสแตนซึ่งใครๆก็ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี เขาคิดว่านี่คงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะทำให้ขยะไร้ค่าจากตระกูลเคานต์เฮนิตัสได้ น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าถึงทั้งสองจะเป็นนายน้อยเช่นเดียวกันแต่สถานะของคนทั้งคู่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

แน่นอนว่าคาร์ลกำลังฟังอย่างเงียบๆแต่เขาไม่ใช่คนที่จะให้ความสนใจกับการเล่นตลกของสุนัขเท่าใดนัก

 

เวเนี่ยนเสร็จสิ้นสิ่งที่เขาต้องการจะพูดและมองไปยังคนที่สมควรจะอึดอัดที่สุดในกลุ่มนั่น

 

พลั่ก! ชายชราคุกเข่าลงบนพื้นดินอย่างแรงเมื่อเห็นว่าเวเนี่ยนมองมาที่ตน

 

“…….เอ่อ…..ข้าน้อยขอโทษขอรับ”

 

มือของชายชราคู่นั้นถูกวางไปที่พื้นดินพร้อมกับศีรษะของเขาที่โขกพื้นดินส่งเสียงดังเป็นระยะ มือของ เชวฮันสั่นไหวด้วยความโกรธขณะเฝ้ามองดูชายชราคุกเข่าขอโทษ

 

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในดินแดนแต่ละท้องที่จะมีลักษณะเฉกเช่นเดียวกับขุนนางที่ประจำอยู่เมืองนั้น นายอำเภอของเมืองนี้เป็นสุนัขรับใช้ของตระกูลมาร์คควิสสแตน ส่งผลให้พวกเขามีอำนาจและเผด็จการต่อชาวบ้านที่นี่นัก

 

มุมปากของเวเนี่ยนถูกยกขึ้นด้วยความพึงพอใจ หลังจากสังเกตเวเนี่ยนแล้วคาร์ลจึงเรียกเขาอีกครั้ง

 

“นายน้อยเวเนี่ยน”

 

เมื่อเวเนี่ยนหันศีรษะกลับมามองที่ตน คาร์ลจึงเอ่ยถามเขาอีกครั้ง

 

“เสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่?”

 

“อืม….เป็นเช่นนั้น”

 

คาร์ลค่อยๆคุกเข่าของตนลงเบื้องหน้าชายชรา เสื้อผ้าราคาแพงของเขาเริ่มสัมผัสไปที่พื้นดิน จากนั้นเขาก็เอื้อมมือไปจับมือที่สั่นเทาของชายชราคู่นั้น

 

‘มันจะเป็นอันตรายถ้าเรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไป’

 

คาร์ลมั่นใจว่าเขาได้ยินมัน

 

“เฮือกกกกกกกกก ~………”

 

เสียงของเชวฮันหายใจลึกยาวนั่นเป็นเสียงที่แสดงว่าความโกรธของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น ช่วงเวลาที่คาร์ลได้ยินเขารู้สึกขนลุกชันไปทั่วลำคอ ถ้ายังปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปคนที่จะโดนอัดจนน่วมจะไม่ใช่เขาแต่จะเป็นเจ้าโรคจิตเวเนี่ยนอย่างแน่นอน มันไม่สำคัญว่าเขาจะเอาชนะเวเนี่ยนหรือไม่? แต่เชวฮันไม่สามารถที่จะชกต่อยทำร้ายร่างกายลูกขุนนางได้ในตอนที่เขายังอยู่ในความดูแลของตนเช่นนี้

 

คาร์ลเอามือของตนไปจับที่ไหล่ของชายชราเบาๆ คิ้วของเวเนี่ยนเริ่มขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจมือลูก ขุนนางไปวางไว้บนไหล่ชาวบ้าน ‘ฮึ!’

 

“ท่านผู้เฒ่า”

 

ชายชราดูเหมือนจะตกใจมากในขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมามองที่ใบหน้าของคาร์ล

 

“…..เอ่ออ……ขอรับ ขอรับ?…….”

 

คาร์ลเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

 

“ร้านเหล้าอยู่ที่ใด?”

 

“อะไรนะขอรับ?”

 

“ข้าจะได้รับรสชาติแสนอร่อยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้จากที่ใด? ดังที่ท่านผู้เฒ่าได้ยินข้าเป็นเพียงขยะ ข้ารู้สึกไม่สดชื่นเท่าใดนักหากไม่ได้ดื่มมัน ข้าต้องแน่ใจว่าการดื่มจะทำให้วันพรุ่งนี้เป็นวันที่ยิ่งใหญ่อีกวันหนึ่ง ดังนั้น…………………………..”

 

คาร์ลพยายามพยุงร่างของชายชราขึ้น เวเนี่ยนลอบสังเกตและตัดสินคาร์ลอย่างเงียบๆพลางส่ายหัวหลังจากได้ยินคาร์ลกล่าวถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

“นำทางให้ข้าที…”

 

แววตาของชายชราที่ส่งมาให้เขามีแต่ความสั่นระริก ทำให้คาร์ลรู้สึกหน้าตึงด้วยความโมโหเล็กน้อย

 

“ท่านจะไม่ลุกขึ้น?”

 

ชายชรายังคงลังเลและมองไปมาระหว่างเวเนี่ยนกับคาร์ล คาร์ลไม่ได้สนใจกับอาการนั่นก่อนจะลุกขึ้นและดึงมือของตนออกจากไหล่ของชายชราไปยื่นไว้ต่อหน้าเวเนี่ยน

 

“วันนี้ถือเป็นวันที่ดีที่เราได้พบกัน นายน้อยเวเนี่ยน”

 

คาร์ลกำลังต้องการขอจับมือเขา

 

เวเนี่ยนยังคงยืนเงียบและมองไปที่คาร์ล ในขณะนั้นข้ารับใช้ของเวเนี่ยนจึงเข้ามาหาเขาอย่างเร่งรีบก่อนจะกระซิบบอกอย่างเงียบๆแต่มันก็ดังพอที่ทุกคนจะได้ยิน

 

“นายน้อยเราเสียเวลามากแล้วขอรับ”

 

“……..อย่าขัดการสนทนาระหว่างขุนนางสิ………”

 

เวเนี่ยนมองไปที่ข้ารับใช้โดยไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนที่ข้ารับใช้จะโค้งคำนับให้อย่างรวดเร็ว เวเนี่ยนยิ้มอีกครั้งขณะคว้ามือของคาร์ลไปจับ

 

“ข้าต้องขอตัวก่อน ช่วงนี้ข้ายุ่งมาก”

 

จากนั้นก็ปล่อยมือทันที เป็นการจับมือที่สั้นมาก คาร์ลเริ่มยิ้มหวานเหมือนคนเมาเมื่อตอบกลับไป

 

“ถ้าเราพบกันที่เมืองหลวง…เรามาดื่มเหล้ากันเถอะ”

 

“ข้าไม่แน่ใจนักว่า เราสองคนอาจจะมีความชอบในสิ่งเดียวกัน”

 

รอยยิ้มของเวเนี่ยนเริ่มไม่พอใจนัก คาร์ลตัดสินใจที่จะทำบางสิ่งเพื่อจบการสนทนานี้

 

“อืม… จากการพบปะกันในวันนี้ดูเหมือนนายน้อยจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เพียงคนเดียวที่สมควรจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของตระกูลสแตนได้ ท่านเป็นคนที่วิเศษมาก”

 

ผู้นำของตระกูล คำพูดนั้นทำให้ดวงตาของเขาเริ่มวาวขึ้นเล็กน้อย เป็นอย่างที่คาร์ลคาดไว้ เวเนี่ยนเริ่มกลับมายิ้มสดใสอีกครั้งและได้ให้คำชมเชยแก่คาร์ลด้วย

 

“นายน้อยคาร์ลท่านเป็นคนที่น่าสนใจมากและยังเป็นตัวของตัวเองยิ่งนัก ไว้เรามาเจอกันอีกครั้งในอนาคต”

 

‘ครั้งนี้ ฉันไม่ปรารถนาที่จะพบเจอนายอีกเลยแม้ว่าจะต้องเจอฉันก็จะหนีไปให้ไกลๆ’

 

คาร์ลซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอาไว้ก่อนจะก้มศีรษะให้แก่เวเนี่ยน ก่อนที่เวเนี่ยนจะรีบตรงไปยังรถม้าของเขาราวกับกำลังยุ่งและเร่งรีบเป็นอย่างมาก

 

คาร์ลมองดูรถม้าที่ค่อยๆหายไปจากสายตา ก่อนที่จะยื่นมือมาตบที่ไหล่ของเชวฮันเบาๆ

 

“ครึ่งหนึ่งของขุนนางมักเป็นเช่นนั้น….”

 

ไหล่ของเชวฮันสะดุ้งขึ้นเล็กน้อยกับคำพูดที่ราบเรียบของคาร์ลแต่ตอนนี้คาร์ลก้มลงไปหาชายชราอีกครั้ง

 

“ท่านผู้เฒ่า ท่านไม่สามารถลุกได้?หรือท่านบาดเจ็บที่ขาของท่านหรือไม่?”

 

ปั่ด ปั่ด!!!!!

 

คาร์ลตรวจร่างกายของชายชราตามที่ตนได้สงสัยไว้ เขาดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ คาร์ลเริ่มสังเกตเห็นคนที่กำลังสับสนวุ่นวายใจ ก่อนจะเอ่ยเรียกเชวฮันออกไป

 

“เชวฮัน”

 

แทนที่จะเอ่ยตอบใดๆ เชวฮันเพียงแค่มองไปที่ด้านหลังของคาร์ลที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆชายชราเท่านั้น

 

“เจ้าพาท่านผู้เฒ่าไปส่งบ้านที”

 

“ไม่ขอรับ ข้าไม่เป็นไร ข้าจะพาท่านไปร้านเหล้าที่ท่านพูดถึง” ชายชราเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“ไม่จำเป็น ข้าไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากดื่มนัก”

 

คาร์ลหยุดชายชราจากการที่จะพาเขาไปร้านเหล้าและมองตรงไปที่เชวฮันที่ยืนอยู่ข้างๆเขา

 

“ด้วยเหตุนี้เจ้าก็สามารถช่วยชีวิตเขาไว้ได้ ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตามเจ้าก็สามารถพาเขาไปส่งที่บ้านได้อย่างปลอดภัย”

 

ปากของเชวฮันขยับเปิดและปิดสลับกันไปมาแต่ไม่สามารถที่จะเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้ เป็นขณะเดียวกันที่ชายชราพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเต็มสองหูของคาร์ล

 

“สถานที่ที่ข้าน้อยอยู่เป็นร้านเหล้าขอรับ”

 

“ฮืม? ท่านผู้เฒ่าบ้านของท่านเปิดร้านขายเหล้ารึ?”

 

แววตาของคาร์ลแสดงให้เห็นว่าเขารู้สึกประหลาดใจจริงๆ ชายชรายิ้มอย่างงุ่มง่าม แต่ยังคงพูดด้วยความรู้สึกผ่อนคลายขึ้น

 

“ขอรับนายท่าน…มันเป็นโรงแรมแห่งเดียวของหมู่บ้านนี้ มีทั้งเหล้าและอาหารอีกด้วยขอรับ”

 

“ในเมื่อมันเป็นโรงแรมที่เดียวของที่นี่ ก็ต้องเป็นที่ที่ดีที่สุดนะสิ ฮันส์!……”

 

ฮันส์รีบเดินเข้ามาหาชายชราและช่วยพยุงเขาขึ้นก่อนที่จะเอ่ยถามเกี่ยวกับที่พัก เมื่อทั้งสองคนเริ่มขยับสิ่งต่างๆรอบตัวก็เริ่มกลับมาปกติเช่นกัน

 

รอนรีบเดินเข้ามาใกล้คาร์ลและปัดสิ่งสกปรกออกจากเสื้อผ้าของคาร์ล ก่อนที่เขา รองหัวหน้าองครักษ์และคนอื่นๆจะมุ่งหน้าเข้าไปยังหมู่บ้าน มีเพียงแค่คาร์ลและเชวฮันเท่านั้นที่เหลืออยู่

 

“…….ท่านคาร์ล”

 

“อะไร?”

 

“ท่านไม่โกรธหรือ?”

 

“เรื่องอะไร?”

 

เชวฮันลังเลอยู่ครู่หนึ่งและไม่สามารถพูดอะไรต่อได้ คาร์ลยักไหล่ของเขาขณะเริ่มพูด

 

“เรื่องที่ว่าเจ้านั่นดูถูกข้า?หรือจะเรื่องที่เจ้านั่นทำตัวแบบนั้นกับเจ้า?หรือเรื่องที่เจ้านั่นแทบจะฆ่าท่านผู้เฒ่าก่อนที่เขาจะคุกเข่าขอโทษว่าเป็นคนขวางทางของเจ้านั่น?”

 

เสียงของคาร์ลสงบและมั่นคง เขาได้ได้โกรธอะไรเลยแม้แต่สนใจสักนิดก็ไม่มี และพูดต่อไป

 

“เจ้าต้องลงมือเมื่อเขายืนอยู่ต่อหน้าเจ้าด้วยหรือ?ทำไมเจ้าไม่พยายามที่จะหลีกเลี่ยงเขา?เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังอาจจะทำร้ายท่านผู้เฒ่าได้?เจ้าจะรู้ได้อย่างไรว่าวิธีที่เจ้าจะใช้มันจะทำให้เขารอดจากความตายได้?”

 

เชวฮันยังคงจ้องมองคาร์ลด้วยความสนใจผู้ที่กำลังจ้องมองไปยังภูเขาสูงที่ห่างไกล ในขณะเดียวกันเขาก็เห็นด้วยกับสิ่งที่คาร์ลพูดทุกๆคำ คาร์ลยังคงพูดต่อไปอย่างหนักแน่น

 

“เวเนี่ยน…..ทำไมท่านผู้เฒ่าจะต้องของโทษเจ้า? เจ้าต่างหากที่ต้องขอโทษเขา”

 

คาร์ลสามารถพูดเหมือนเชวฮันได้และมีบางครั้งที่เขาก็อยากทำเช่น?

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 16 ออกเดินทาง 3"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

เรียกพี่ว่าชาวนาสิ! (异能小神农)
เรียกพี่ว่าชาวนาสิ!
มีนาคม 12, 2022
Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
Heavenly Curse ยอดเซียนเต๋า เขย่ายุทธภพ (นิยายแปล)
พฤษภาคม 17, 2022
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
มีนาคม 12, 2022
Badge in Azure
Badge in Azure
มีนาคม 12, 2022
ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me)
ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me)
มีนาคม 12, 2022
Neet
Neet
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (162)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz