หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family) - บทที่ 4 ได้พบกัน 1

  1. หน้าแรก
  2. ขยะแห่งตระกูลเคานต์ (Trash of the Count s family)
  3. บทที่ 4 ได้พบกัน 1
Prev
Next

บทที่ 4 ได้พบกัน 1 

 

คาร์ลมักจะคิดอะไรไม่ออกเมื่อมีอาหารที่แสนอร่อยวางอยู่ตรงหน้า เขาไม่สามารถแม้แต่จะห้ามปากของตนเองในการชื่นชมรสชาติของอาหารที่ละลายอยู่ในปากของเขาเลยสักครั้ง

 

“อื้ม….อร่อยมาก”

 

รองพ่อบ้านฮันส์รู้สึกตกใจกับประโยคที่ออกมาจากปากของคาร์ล ในตอนนี้คาร์ลนั่งอยู่เพียงลำพังบนโต๊ะอาหารพร้อมกับฮันส์ที่คอยยืนรับใช้อยู่ข้างๆ นอกเหนือจากมื้ออาหารหลักของครอบครัวเฮนิตัสแล้ว เหล่าข้ารับใช้อาจต้องดูแลมื้ออาหารในคาบอื่นๆตามที่คนในตระกูลต้องการ นอกจากการทำงานที่ได้รับมอบหมายได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้วความซื่อสัตย์ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนในการปกครองของท่านเคานต์เดอรัชจำเป็นต้องมีกันทุกคน

 

การเป็นข้ารับใช้ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่มักไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นข้ารับใช้ของเจ้านายที่มีตำแหน่งสำคัญในอาณาจักรหรืออยู่ในแวดวงการเมืองแล้ว การทำตามกำหนดเวลาจึงเป็นสิ่งที่เข้มงวดและต้องละทิ้งทุกสิ่งหากเจ้านายมีคำสั่งเร่งด่วนอื่นๆให้คุณจัดการ

 

ท่านเคานต์เดอรัชเป็นผู้ปกครองเมืองทำให้เขามีงานรัดตัวจึงยากที่จะร่วมรับประทานอาหารในมื้อต่างๆกับคนในครอบครัวได้ ในขณะที่น้องสาวและน้องชายก็คงจะมัวยุ่งอยู่กับการเรียนของพวกเขา ส่วนภริยาของพ่อก็ต้องสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับภริยาของครอบครัวผู้อิทธิพลในเมืองแห่งนี้

 

‘ตอนนี้ฉันนึกเรื่องนี้ออกแล้วสิ’

 

คาร์ลวางช้อนส้อมลงหลังจากจำเรื่องราวบางอย่างได้ ฮันส์เริ่มเป็นกังวลเมื่อเห็นปฏิกิริยาอันเป็นปกติที่คุ้นชินของคาร์ล ‘อีกสักพักส้อมจะเขวี้ยงไปยังทิศไหนกันนะ’ คาร์ลไม่ได้สนใจกับอาการของฮันส์เขายังจมอยู่กับความคิดของตนต่อไป

 

‘มีคนที่เก่งๆมีฝีมือแฝงตัวเป็นศิลปินและช่างฝีมือเป็นจำนวนมากทีเดียว’

 

อาณาจักรโรมันเป็นอาณาจักรที่มีการก่อสร้างและศิลปะที่สวยงามโดยเฉพาะฝีมือการแกะสลัก เป็นเพราะอาณาจักรแห่งนี้เต็มไปด้วยหินอ่อนและต้องขอบคุณเมืองเฮนิตัส ที่กลายเป็น1ใน5ของเหมืองแร่หินอ่อนชั้นดีทำให้สร้างรายได้แก่เมืองเป็นจำนวนมาก

 

นอกจากนี้ยังมีเทือกเขาในพื้นที่ของเมืองเฮนิตัสถึงแม้จะตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือแต่ก็มีภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ทำให้ชาวเมืองสามารถปลูกองุ่นในเขตภูเขาสำหรับการทำไวน์ชั้นดีและจะไม่ได้ผลิตไวน์ออกมาเป็นจำนวนมากแต่ไวน์ที่มาจากเมืองเฮนิตัสก็ยังเป็นไวน์ที่ดีแห่งหนึ่งในอาณาจัก อย่างไรก็ตามในความคิดของคาร์ลในตอนนี้ล้วนเต็มไปด้วยข้อมูลของบุคคลที่แข็งแกร่งและเป็นเพราะเหตุนี้เขาจึงเลือกที่หยุดทานอาหารเที่ยงที่แสนอร่อยนี้ไปก่อนเมื่อเริ่มคิดถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง

 

‘ทำไมคนเก่งๆถึงอยู่ในเมืองโง่ๆนี้เต็มไปหมดนะ นี่มันไม่ใช่พรรคบู๊ลิ้มสักหน่อย’

 

มีคนเก่งกาจมากมายรวมตัวกันอยู่ที่นี่ทำให้คาร์ลได้ข้อสรุปว่าที่นี่คือ ‘บู๊ลิ้ม’ นั่นเอง

 

เราไม่ควรไปยุ่งกับคนอื่นมากนักเพราะอาจจะมีพ่อครัวจำนวนมากที่เก่งเรื่องการใช้พิษและคนที่ทำงานในร้านซ่อมต่างๆอาจฆ่าคนได้ด้วยสายไฟในร้านของเขา ใช่แล้วนี่คือสิ่งที่เมืองนี้เป็น

 

“เฮ้อ….”

 

คาร์ลถอนหายใจยาว เขาเพิ่งเสร็จสิ้นการวางแผนการที่จะป้องกันไม่ให้ตัวเองตายและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข

 

“นายน้อย”

 

คาร์ลต้องการที่จะทอดถอนหายใจอีกครั้งก่อนหันไปจ้องมองยังที่มาของเสียงอย่างระมัดระวังรองพ่อบ้านฮันส์นี่เอง

 

“อะไร”

 

“เดี๋ยวกระผมให้พวกนางไปทำอาหารมาให้ใหม่นะขอรับ”

 

“หืม?”

 

ฮันส์ยืนกลั้นหายใจหลังจากเห็นคาร์ลเบิกตากว้าง เขากำลังคิดว่าคาร์ลจะต้องคว่ำโต๊ะอาหารอย่างแน่นอน ไม่รู้ทำไมท่านเคานต์จึงมอบหมายให้เขาดูแลนายน้อยด้วยนะ เขาคงหมดหวังที่จะได้เป็นพ่อบ้านผู้ยอดเยี่ยมเสียแล้วสิ เขากลั้นใจรอฟังคาร์ลต่อไป

 

“ทำไมต้องทำใหม่ด้วย”

 

“อะไรนะขอรับ?”

 

คาร์ลหยิบช้อนส้อมและมีดก่อนจะเริ่มหั่นสเต็กเนื้อช้าๆตอนนี้อาหารมันเริ่มเย็นแล้ว มันอาจจะดูแย่หากเทียบกับอาหารในมื้อเช้าแต่ท่าจะให้เทียบในตอนที่เขาเป็นคิมร็อคโซนั้น อาหารในตอนนี้ก็ดูหรูขึ้นมาทีเดียว เขาไม่รู้ว่าคาร์ลตัวจริงเติบโตมาอย่างไรแต่ก็ไม่แปลกหากเติบโตมาในตระกูลเช่นนี้ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองอยู่แล้ว คาร์ลเอาสเต็กเข้าปากช้าๆถึงแม้มันอาจจะเย็นอยู่บ้างแต่มันยังมีความฉ่ำหวานของเนื้อจนทำให้เขาลืมเรื่องมารยาทการกินไปเลย

 

“ฮันส์…ใครเป็นคนทำอาหารนี้”

 

“อ่า..เป็นพ่อครัวบารอคขอรับนายน้อย”

 

คาร์ลรู้สึกว่าความอยากอาหารของเขาลดฮวบทันที

 

บารอคเป็นคนที่เชี่ยวชาญในการใช้มีด เขาเป็นบุตรชายของหัวหน้าพ่อบ้านรอน แต่อย่างไรก็ตามถึงเขาจะเชี่ยวชาญในการใช้มีดแต่เขาก็ไม่ลอบสังหารใคร บารอคยังคงมุ่งมั่นกับการฝึกใช้มีดและหมั่นลับคมมีดของเขาให้คมอยู่เสมอเรียกได้ว่าเขาสามารถตัดหัวศัตรูได้เพียงครั้งเดียว

 

‘อ่า……เขาเชี่ยวชาญในการทรมานคนด้วย…..’

 

เมื่อครั้งที่บารอคได้เห็นทักษะการใช้ดาบของเชวฮันทำให้ยกย่องเชวฮันเป็นอย่างมากและเลือกที่จะติดตามเชวฮันไปทุกที่ ทำให้รอนต้องทำข้อตกลงเพื่อช่วยลูกชายของเขาก่อนที่จะเลือกจากทั้งสองไปเพื่อผลประโยชน์ของลูกชายตน ถึงแม้เขาทั้งสองจะไม่มีอะไรเหมือนกันแต่ก็กล่าวได้ว่ารอนรักลูกชายของเขาไม่น้อยเลย

 

คาร์ลมองไปยังสเต็กที่เนื้อของมันยังคงมีสีชมพูเล็กน้อยก่อนที่จะหั่นเข้าปากไปอีก 2-3 คำ

 

‘ฉันไม่ยอมให้เลือดไหลออกจากตัวเหมือนสเต็กชิ้นนี้อย่างแน่นอน’

 

เขาหันไปทางฮันส์ที่ยังคงมองมาทางเขาอยู่ก่อนที่จะหั่นสเต็กเข้าปากอีกคำ

 

“มันอร่อยมาก เขาเป็นลูกชายของรอนใช่มั้ย? ข้าไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นพ่อครัวที่มีพรสวรรค์มาก”

 

“กระผมจะนำคำชมของนายน้อยไปบอกพ่อครัวบารอคนะขอรับ…กระผมมั่นใจว่าเขาจะต้องมีความสุขมากๆที่ได้รับคำชมจากนายน้อย”

 

“อย่างนั้นหรือ? บอกเขาด้วยแล้วกันว่าข้ามีความสุขกับอาหารมื้อนี้จริงๆ”

 

“ขอรับนายน้อย”

 

ฮันส์รับปากคาร์ลด้วยท่าทางขึงขัง

 

คาร์ลคิดขึ้นได้ว่าเขาควรจะเลี่ยงการเป็นศัตรูกับบารอคแล้วทำให้พ่อครัวคนนี้ประทับใจในตัวเขาให้มากที่สุด คาร์ลเพลิดเพลินกับอาหารอีกครั้งด้วยใจที่ผ่อนคลายทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีเมื่อเขาได้เจอกับเชวฮันและพวกเขาจะได้ออกจากเมืองนี้ไปตามที่เขาคาดไว้ เช่นเดียวกับอาหารในมื้อเช้าคาร์ลจัดการอาหารทั้งหมดด้วยรอยยิ้มพึงใจเต็มหน้าก่อนลุกขึ้นเพื่อหันไปหาฮันส์

 

“ทำไมเจ้าถึงได้มาดูแลข้าล่ะ ฮันส์”

 

ฮันส์ได้แจ้งแก่คาร์ลเมื่อใกล้เวลารับประทานอาหารเย็นว่าท่านเคานต์ได้สั่งให้ตนเข้ามาดูแลมื้ออาหารและจัดการทุกเรื่องตามความต้องการของคาร์ล เขาก็ไม่ทราบถึงสถานการณ์ในตระกูลเฮนิตัสมากนักแต่จะว่าไปถ้าหากรอนและบารอคออกจากที่นี่ไปพร้อมเชวฮัน รองพ่อบ้านอย่างฮันส์ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการดูแลรับใช้ตนต่อไป

 

ฮันส์โค้งศีรษะให้กับคาร์ลเล็กน้อยและตอบคำถาม

 

“นายท่านเป็นกังวลยิ่งนักเมื่อทราบว่านายน้อยพลาดการรับประทานอาหารในขณะที่ยังมุ่งมั่นกับการเรียนเช่นนี้ ท่านทรงกำชับให้กระผมเข้ามาดูแลอาหารการกินของนายน้อย และกระผมจะเป็นคนดูแลมื้ออาหารในทุกๆมื้อของนายน้อยเองขอรับ”

 

“อย่างนั้นหรือ? ท่านพ่อกังวลเกินไปแล้วข้าดูแลอาหารการกินของข้าได้แต่พอดีอ่านหนังสือเพลินไปหน่อยเลยลืมว่าถึงเวลาอาหารเย็นแล้วถ้าเจ้าไม่มาบอกข้า”

 

‘ให้ฮันส์เป็นคนดูแลเขาหรือ?….’

 

คาร์ลกำลังนั่งเขียนเรื่องราวที่เกิดในนิยายทั้ง 5 เล่มเพื่อวางแผนหาทางหนีทีไล่คาร์ลยิ้มให้ฮันส์พลางเอ่ยขึ้น

 

“ฮันส์ดูแลข้าเป็นอย่างดี”

 

“อ่า…ขอรับ…ฝากตัวด้วยนะขอรับนายน้อยกระผมจะทำให้ดีที่สุด”

 

ฮันส์สะดุ้งเล็กน้อยในขณะที่ตอบคาร์ลแต่คาร์ลก็ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาเห็นรอนยืนอยู่หน้าห้องทันทีที่ฮันส์เปิดประตูออกไปก่อนจะเริ่มชักสีหน้า

 

“รอน….ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าไปทานข้าวเหรอ?”

 

คาร์ลสั่งให้รอนไปทานข้าวเพราะไม่อยากเห็นหน้า แต่รอนก็ไม่ยอมไปไหนไกลเขาเพียงแค่อยู่นอกห้องบริเวณใกล้ๆห้องที่คาร์ลใช้เรียนและอ่านหนังสือเพียงแค่ไม่ส่งเสียงหรือทำอะไรรบกวนสมาธิของคาร์ลเท่านั้น

 

“มันเป็นหน้าที่ของกระผมที่ต้องดูแลนายน้อยนะขอรับ”

 

คาร์ลเดาะลิ้นไม่พอใจเมื่อเห็นรอนยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะระงับความโกรธตัวเองให้ผ่อนคลายลง

 

“พอ….ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้ามาดูแล ถ้าข้าบอกให้เจ้าไปกินก็คือไปกิน…อย่าขัดคำสั่งข้า…เจ้าคงรู้นะว่าถ้าข้าโกรธจะเป็นยังไง”

 

คาร์ลพยายามข่มขู่รอนด้วยสายตาเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาต้องการให้รอนทำตามความต้องการของตน ก่อนจะมุ่งไปยังโต๊ะตัวเองเพื่อเขียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิยายต่อไป รอนยังคนยืนอยู่ที่เดิมและมองเขาด้วยท่าทางไม่พอใจ ในขณะที่ฮันส์มองมาทางเขาด้วยความตกใจ

 

‘ฉันไม่ควรแสดงความโกรธออกมาขนาดนี้?’

 

คาร์ลรู้สึกกลัวตาแก่ฆาตกรคนนี้ก่อนจะส่ายหัวเบาๆและเดินกลับไปที่โต๊ะเพื่อทำการเขียนเรื่องราวที่เกิดในนิยายต่อ

 

ตอนนี้บนโต๊ะมีแต่ความว่างเปล่า

 

กระดาษที่ถูกเขียนด้วยตัวอักษรเกาหลีอย่างเป็นระเบียบได้ถูกเผาเป็นจุณไปหมดแล้ว เขาจำเป็นต้องเผากระดาษพวกนี้เพื่อป้องกันตนเอง ในที่แห่งนี้อาจไม่มีใครรู้ภาษาเกาหลีแต่เขาก็ต้องระมัดระวัง เขาสั่งให้ข้ารับใช้ทุกคนห้ามเข้าห้องก่อนได้รับอนุญาตด้วยเช่นกัน

 

‘ฉันจำได้ทุกอย่างแล้ว’

 

คิมร็อคโซรู้สึกดีกับการเป็นคนช่างจดจำในสิ่งที่ตนชอบ ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน นิยายหรือภาพยนตร์อะไรก็ตามที่เขารูสึกชื่นชอบ เขาจะจดจำได้ไม่เคยลืมไม่ว่าจะเป็นชื่อหรือลักษณะของตัวละครหรือแม้แต่สิ่งที่เขาไม่ชอบเขาก็ยังสามารถจำได้เช่นกัน

 

คาร์ลเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้และคิดถึงสิ่งที่ตนจะทำในอนาคต

 

‘สิ่งแรกที่ฉันต้องทำ…พรุ่งนี้ฉันต้องเจอเชวฮันก่อนแล้วค่อยทำตามแผน’

 

มุมปากถูกยกยิ้มขึ้นช้าๆ

 

‘ต้องหาทางป้องกันให้ดี……’

 

เขาจะต้องไม่ตายจะต้องมีชีวิตอยู่ให้นานที่สุดและไม่คิดที่จะไปสู้รบปรบมือกับใครด้วย

 

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อันดับแรกเขาจะต้องมีโล่นิรันดร์กาล สองต้องฟื้นตัวให้เร็วที่สุด สามต้องเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งก้าวเสมอและสี่จะต้องมีพลังที่ไม่สามารถทำร้ายตนเองแต่ใช้ฆ่าคนอื่นได้

 

คาร์ลวาดแผนการของตนอย่างมีความสุขก่อนจะค่อยหลับตาลงถึงแม้จะหลับไปเขาก็ยังคงคิดถึงแผนการอยู่ตลอดเวลา

 

‘อย่างน้อยฉันจะต้องไม่โดนใครตีแม้เหตุการณ์นั้นจะมาถึงในไม่ช้านี้แล้วก็ตาม’

 

เขาจะต้องมีโล่นิรันดร์กาลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ไม่ว่าอะไรก็ไม่สามารถทำลายมันได้และถึงแม้เขาจะหลับไปแล้วแต่ริมฝีปากที่ถูกยกขึ้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะถูกยกลงเลย

 

‘การเผชิญหน้ากับศัตรูโดยปราศจากข้อผิดพลาดมักเป็นสิ่งที่เราได้เปรียบก่อนเสมอ’

 

วันสำคัญใกล้เข้ามาถึง เขาต้องหาอะไรทำเพื่อดับความฟุ้งซ่านของตนเพื่อไม่ให้แผนผิดพลาด ใช่แล้ว…สิ่งแรกที่ต้องทำคือการกินมื้อเช้าที่แสนอร่อย เขารู้สึกว่าสิ่งเดียวที่เขาทำอยู่ตลอดเวลาเมื่อเข้ามาอยู่ในนี้คือการสนุกไปกับการกินอาหารที่แสนอร่อยเหล่านี้ เขาต้องสนุกไปกับมันก่อนลุยกับศึกใหญ่ที่จะต้องสู้ในวันพรุ่งนี้

 

“อื้ม….พ่อได้ยินว่าลูกหลับไปตอนที่กำลังอ่านหนังสือเหรอ?”

 

“…ก็เป็นเช่นนั้นล่ะขอรับ”

 

คาร์ลตอบคำถามต่อท่านเคานต์เดอรัชอย่างไม่เป็นทางการและไม่คุยตอบโต้อะไรกับท่านเคานต์เดอรัชต่อ เขายังคงตั้งหน้าตั้งใจทานอาหารต่อไปจะเป็นไรไปในเมื่อความจริงที่ว่าเขาเป็นเพียงขยะไร้ค่าของตระกูลยังคงค้ำคอเขาอยู่ เขากินอาหารเสร็จก่อนจะลุกขึ้นยืน เสียงดังของพื้นที่โดนเก้าอี้ครูดอย่างแรงทำให้ทุกสายตาจ้องมาที่เขา

 

“กระผมขอตัวก่อนนะขอรับ”

 

แม้ไม่ใช่มารยาทที่ที่ดีนักแต่ดูเหมือนท่านเคานต์จะเข้าข้างลูกชายของตนทุกครั้งไปท่านเคานต์มองมาที่เขาก่อนยิ้มให้

 

“ได้สิลูก”

 

“ขอบคุณขอรับ”

 

คาร์ลจำเป็นต้องออกจากห้องอาหารก่อนเพราะมีสิ่งต่างๆมากมายที่เขาจำเป็นต้องจัดการภายในวันนี้แต่เคานต์เดอรัชหยุดคาร์ลไว้ก่อนที่จะได้เดินออกไป

 

“วันนี้อยากได้อะไรมั้ยลูก?”

 

“…กระผมอยากได้บางอย่าง…..”

 

จะแปลกอะไรครอบครัวนี้มีเงินมากมายถ้าเขาจะขอเพิ่มอีกสักหน่อยขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอก เขายกยิ้มเล็กน้อยเมื่อพ่อของเขาตกลงที่จะให้เงินเขาโดยจะมอบเช็คผ่านฮันส์ เขาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากบาเซ็นแต่คาร์ลก็ไม่ได้สนใจรีบเดินออกจากห้องอาหารทันที ซึ่งเป็นขณะเดียวกับที่รอนจะตามเขาออกไป

 

“รอน…ข้ากำลังออกไป…ไม่ต้องมองหาข้า”

 

ไม่ต้องมองหาข้าที่คือสัญญาณลับที่คาร์ลใช้เมื่อจะไปผ่อนคลายด้วยการดื่มเหล้าที่ร้านหลังเมือง เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการอย่างนั้นรอนจะทำเพียงแค่ยิ้มและอวยพรให้เขาเดินทางปลอดภัย

 

“แล้ววันนี้นายน้อยไม่เรียนหรือขอรับ”

 

ก็นั่นล่ะรอนมักจะทำให้เขาอารมณ์ขุ่นมัวทุกครั้งไป..

 

“ข้าว่า…ข้าไม่จำเป็นต้องตอบคำถามเจ้าหรอกนะ”

 

“ขอรับนายน้อย กระผมจะรอนะขอรับ”

 

หน้าผากของคาร์ลเริ่มย่นเข้าหากันด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินว่ารอนจะรอเขา

 

“ก็บอกว่าไม่ต้องรอ….”

 

คาร์ลสะบัดมือเรียกข้ารับใช้คนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูก่อนจะเดินออกไปพร้อมกัน อารมณ์โกรธของคาร์ลปะทุขึ้นจนข้ารับใช้ที่เดินตามไม่กล้าพูดอะไรออกมา

 

เมื่อเขาออกมาจากห้องอาหารจะมองเห็นสวนหย่อมขนาดใหญ่และประตูทางออกไกลออกไปจนลับจากสายตา เขาถอนหายใจช้าๆก่อนหันกลับไปมองทางด้านหลัง เขาทันเห็นสีหน้าของรอนก่อนที่ประตูจะปิดลง

 

‘ดีนะที่ฉันสลัดนายออกไปได้’

 

เขาดีใจที่รอนทำตามคำสั่งเขาแต่เขาก็กังวลกับการแสดงออกที่แข็งกระด้างของตนเองเช่นกันอย่างน้อยรอนก็คือนักฆ่า เอาเป็นว่าเขาจะแสดงออกต่อรอนให้ดีกว่านี้ไม่ใส่อารมณ์จนเกินไปแล้วกันก่อนจะก้าวไปนั่งรถม้าเพื่อไปยังจุดหมายที่ตนตั้งใจ

 

ใช้เวลาไม่นานคาร์ลก็ถึงที่หมาย

 

“นายน้อย ใช่ที่นี่หรือไม่ขอรับ”

 

คนบังคับรถม้าระมัดระวังก่อนที่จะเปิดประตูรถม้าให้ สายตาจ้องมองไปยังหน้าร้านด้วยความไม่แน่ใจ

 

“ใช่แล้วที่นี่ล่ะ”

 

คาร์ลสวมชุดที่ค่อนข้างแฟนซีจ๋าและเป็นจุดเด่นสำหรับคนอื่น..แต่มันก็เป็นชุดที่เด่นน้อยที่สุดในตู้เสื้อผ้าของคาร์ลแล้ว คาร์ลเดินออกจารถม้าทันทีซึ่งตอนนี้ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปภายในร้าน

 

[ร้านกลิ่นชากับบทกวี]

 

มันเป็นร้านชาที่อนุญาตให้คุณอ่านบทกวีพลางจิบชาไปอย่างสบายอารมณ์ อาคารสามชั้นที่สะอาดสะอ้านหรูหรา เจ้าของร้านเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวย ที่จริงแล้วเจ้าของร้านแห่งนี้เป็นบุตรนอกสมรสของหัวหน้าสมาคมการค้าที่มีฐานะมั่งคั่งกว่าคาร์ลเป็นเท่าตัว และสิ่งเดียวที่ทำให้เขาเลือกอยู่ที่นี่ก็คือการปกปิดตัวตนนั่นเอง

 

‘ถ้าจำไม่ผิด ในนิยายเล่มที่ 3 เจ้าของร้านจะไปยังเมืองหลวงเพื่อพบเชวฮันก่อนจะกล่าวว่าตนคือลูกชายนอกสมรสของหัวหน้าสมาคมการค้าผู้ชั่วร้าย และเขาจะต้องกลายเป็นหัวหน้าสมาคมการค้าที่ยิ่งใหญ่แทน’

 

คนที่ยืนตะโกนและสาบานต่อหน้าเชวฮันว่าจะเป็นหัวหน้าสมาคมการค้าให้ได้นั้นคาร์ลไม่รู้ว่าเจ้าของร้านแห่งนี้จะกลายเป็นหัวหน้าสมาคมการค้าจริงๆหรือไม่เพราะเขาอ่านนิยายเล่มที่ 5 ได้เพียงบทแรกๆเท่านั้นแต่เนื่องจากเขาเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกทีมของเชวฮัน เจ้าของร้านคนนี้ก็อาจประสบความสำเร็จดังที่ตัวเองต้องการก็เป็นได้ คาร์ลหันกลับไปมองคนบังคับรถม้าที่ตอนนี้เหงื่อเริ่มออกจนกลายเป็นหมูทอดเสียแล้วก่อนออกคำสั่ง

 

“เจ้ากลับไปก่อน”

 

“อะไรนะขอรับ”

 

“ทำไมต้องให้ข้าพูดย้ำสองรอบด้วย?”

 

“เอ่อ…ไม่ขอรับ กระผมไม่ต้องรอนายน้อยขอรับ”

 

“ใช่..ข้าจะอยู่ที่นี่อีกพักใหญ่”

 

คาร์ลมองคนขับรถม้าด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆก่อนเปิดประตูเพื่อพาตัวเองเข้าไปในร้าน

 

ตึงตึงตึงตึง…เขาได้ยินเสียงเคลื่อนตัวของรถม้าทางด้านหลังเขา แต่เสียงกระดิ่งที่สั่นขึ้นเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในร้านคือสิ่งที่คาร์ลสนใจมากกว่า เป็นเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบทำให้เสียงมันดังจนน่าตกใจ

 

คาร์ลยังยืนอยู่หน้าทางเข้าอาจเป็นเพราะตอนนี้ยังเป็นเวลาที่เช้าเกินไปคนในร้านจึงมีไม่ค่อยมาก แต่ก็นั่นล่ะทุกคนที่อยู่ในร้านต่างตกใจที่เห็นเขาที่นี่ รู้สึกนิยายจะให้บทเด่นเขาเหลือเกินที่คนในเมืองแห่งนี้ต่างก็รู้จักชื่อเสียงเขาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าที่หมายหัวเขาไว้เพราะกลัวว่าคาร์ลจะโมโหทำร้ายข้าวของในร้านของตน

 

“ยินดีต้อนรับขอรับ”

 

ถึงอย่างไรก็ตามเจ้าของร้านก็ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดีจากเคาน์เตอร์ของร้านที่เขายืนอยู่

 

‘นี่คงเป็นเจ้าของร้านสินะ’

 

บิลอสเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เขามีใบหน้ากลมและรูปร่างเต็มไปด้วยไขมันเขาดูคล้ายหมูน้อยเหมือนกับที่นิยายกล่าวไว้ไม่มีผิด เสน่ห์ของบิลอสก็คงจะเป็นรอยยิ้มอันแสนสดใสของเขานี่ล่ะ

 

‘เขาดูคล้ายหมูน้อยจริงๆ’

 

คาร์ลหยิบเหรียญทองวางไว้บนเคาน์เตอร์ก่อนเอ่ยปากบอกความต้องการ

 

“ข้าตั้งใจเลือกโต๊ะที่อยู่บนชั้น 3 ตลอดทั้งวันนี้นะ”

 

บิลอสจ้องมองไปยังคาร์ลด้วยรอยยิ้มก่อนผายมือชี้ไปยังชั้นหนังสือโดยที่คาร์ลแสร้งไม่สนใจ

 

“ชากลิ่นหอมดี….ท่าทางร้านนี้จะมีหนังสือเยอะมีหนังสือนิยายบ้างหรือเปล่าหรือมีแต่หนังสือกวี”

 

“แน่นอนนายน้อยคาร์ล ร้านเรามีหนังสือนิยายจำนวนมากเช่นกัน”

 

“งั้นเหรอ..หาหนังสือที่น่าสนใจให้ข้าสักเล่มและก็ชาสักถ้วยแล้วกัน”

 

“ได้ขอรับ…”

 

เหรียญทองในมือคาร์ลถูกยัดใส่มืออวบอ้วนของบิรอสอย่างรวดเร็ว เขาทำท่าชะงักไปสักครู่

 

“ข้ายังต้องดื่มชาอีกเยอะเลย”

 

“แต่นี่มันมากเกินไป นายน้อยคาร์ล”

 

เหรียญทองมูลค่า 1 ล้านแกลลอนก็เทียบได้กับ1ล้านวอน(29109.92 บาท) คาร์ลมีเหตุผลบางอย่างที่ทำเช่นนี้

 

“ข้ามีเงินเยอะมาก แค่นี้ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กๆน้อยจากข้าแล้วกัน”

 

ถ้าพูดถึงว่าใครมีเงินมากกว่าคำตอบก็คงเป็นบิลอส เขายังรู้ถึงกิจการต่างๆที่บิลอสจะทำต่อไปในอนาคตและนั่นจะทำให้บิลอสสร้างเงินได้อย่างมหาศาล คาร์ลเพียงแค่ทำตัวสบายๆก่อนส่งสายตาไปยังลูกค้าที่อยู่ภายในร้านทั้งหมด

 

“ถ้ามันมากเกินไปก็ปฏิบัติกับคนที่อยู่ในร้านนี้เหมือนที่ปฏิบัติต่อข้าล่ะกัน”

 

บิงโก!! เขาอยากจะทำอะไรแบบนี้สักครั้ง หลังจากที่เขาเอ่ยปากขอเงินจากพ่อเขาก็ได้รับเงินเป็นจำนวน 3 เหรียญทองที่มีมูลค่ากว่า 3 ล้านแกลลอน(87329.77 บาท)

 

“แต่นายน้อยคาร์ล…มัน”

 

“พอแล้ว ไปเอาชามาให้ข้าได้แล้ว”

 

ข้อดีของการเป็นขยะก็คือไม่ต้องสนใจเรื่องมารยาทใดๆ ในขณะที่เขาเดินขึ้นชั้น 3 เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบตามหลังมาเป็นระยะแต่เขาก็ไม่เป็นกังวลเพราะยังไงเขาก็มีชื่อเสียงมากพอตัวอยู่แล้ว(ในด้านที่ไม่ดีด้วยนะ)

 

‘เป็นอย่างที่คิด…’ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่บนชั้น 3 เลยเพราะนี่มันเป็นเวลาที่เช้ามาก เขาเลือกนั่งมุมข้างในสุดของชั้น 3 ก่อนที่จะหันมองออกนอกหน้าต่าง

 

‘มุมดีซะด้วย’ ถ้ามองจากจุดนี้เขาสามารถมองเห็นประตูเข้าเมืองได้อย่างชัดเจน และเขาก็มีแผนที่จะมองดูเชวฮันจากจุดๆนี้นั่นเอง

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "บทที่ 4 ได้พบกัน 1"

0 0 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

600
ที่หลบภัยของฉัน อัพเลเวลไม่จำกัด
ตุลาคม 7, 2022
เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก (My Hermes System)
เฮอร์มีส ระบบเปลี่ยนโลก (My Hermes System)
มีนาคม 12, 2022
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
แต่งก่อน…ค่อยอ้อนรัก
มีนาคม 12, 2022
Castle of Black Iron
Castle of Black Iron
พฤษภาคม 17, 2022
สาวงามตัวร้าย : ท่านจอมมารได้โปรดโดนตกซะทีเถอะ! [卿本腹黑 : 邪君请上钩]
สาวงามตัวร้าย : ท่านจอมมารได้โปรดโดนตกซะทีเถอะ!
มีนาคม 12, 2022
ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me)
ตัวเอกพวกนั้นฉันฆ่าเองแหละ (The Protagonist Are Murdered by Me)
มีนาคม 12, 2022
Tags:
แฟนตาซี
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz