กระทะเหล็กกู้โลก - ตอนที่ 39 เขตC
ตอนที่ 39 เขตC
“พวกเราต้องเพิ่มความเร็วกันหน่อยแล้วล่ะ ฉันวางแผนไว้แล้วว่าเราจะไม่หยุดพักกันอีก ตรงไปที่เขตCเลย” ซ่งเจิงพูดกับฉู่อี้
“ทำไมต้องรีบขนาดนี้ด้วยล่ะ ? การที่เราเดินทางไปจัดการซอมบี้ระหว่างทางไปเรื่อยๆไม่ได้ทำให้พลังในการต่อสู้ของพวกนายพัฒนาขึ้นเหรอ ? ” ฉู่อี้ถามออกมาด้วยความสงสัย
“ถ้าฉันบอกว่าเราใช้น้ำยาวิวัฒนาการที่ได้จากซอมบี้ที่เราฆ่าสามวันมานี้หมดแล้วนายจะเชื่อไหม ?” ซ่งเจิงยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
ซ่งเจิงเคยถามกระทะเหล็กถึงราคาในการทำอาหารหลักว่าเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งคำตอบคือต้องการวัตถุดิบมากถึงสามเท่า ! ข้าวผัดไข่หนึ่งจานต้องใช้น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำถึงสามสิบส่วน บะหมี่หยางชุนเพิ่มขึ้นมาน่ากลัวที่สุด ต้องใช้น้ำยาถึงหกสิบส่วน
แบบนี้เป็นการใช้กระทะเหล็กได้แค่เพื่อดับกระหายเท่านั้น หลังจากที่ซ่งเจิงได้คำนวณการใช้วัตถุดิบในการทำอาหารของสองวันนี้อย่างดีแล้วทำให้เขาเกิดอาการตกใจอยู่เหมือนกัน สองสามวันมานี้ที่พวกเขาฆ่าซอมบี้ตามทางนั้น ทำให้ได้น้ำยาวิวัฒนาการมาหนึ่งร้อยส่วน ส่วนใหญ่แล้วเป็นซ่งเจิงที่รวบรวมมาได้ หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ใช้กระทะ ทำให้น้ำยาที่ได้มีประมาณแค่สิบส่วนเท่านั้น ตัวเลขจากการคาดเดานี้ถือว่าต่ำมาก เช่นวันนี้ที่น้ำยาได้เหลือน้อยเพียงไม่กี่ส่วนเท่านั้น
การได้รับประโยชน์จากกระทะเหล็กขนาดนี้ ทำให้ซ่งเจิงต้องบังคับให้ตัวเองรีบพัฒนากระทะเหล็กโดยด่วน
“เพราะแบบนี้ มันทำให้รู้ว่าบนโลกนี้ไม่มีหรอกอาการกลางวันฟรีๆน่ะ เดาว่าคงจะเป็นข้าวผัดไข่สินะ แต่ว่ามันคงแพงไป แพนเค้กหนึ่งแผ่นใช้น้ำยาวิวัฒนาการหนึ่งส่วนเอง” คำพูดของฉู่อี้แสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจมาตลอดว่าอาหารที่มาจากกระทะเหล็กนั้นเป็นแบบบุฟเฟ่ต์
“หลังจากทำภารกิจนี้เสร็จ นายก็สามารถไปที่อื่นได้แล้วนะ ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงความปลอดภัยของฉัน แต่ว่าตอนนี้พลังของลิงผอมและพี่ชายกุ้ยก็ตื่นขึ้นมาแล้ว พวกเราสามคนสามารถต่อสู้กับสุนัขกลายพันธุ์ระดับสองได้แล้ว นายสบายใจได้” ซ่งเจิงหยิบบุหรี่ขึ้นมาจากกระทะเหล็กหนึ่งซอง แล้วแบ่งให้ฉู่อี้หนึ่งมวน
ฉู่อี้รับบุหรี่มา ใช้ไฟจากนิ้วชี้ของตัวเองจุดบุหรี่ เมื่อควันขึ้นที่ปลายบุหรี่ของตัวเอง เขาก็จุดให้ซ่งเจิงต่อ
“โอเค !” ฉู่อี้สูบบุหรี่ แล้วพ่นควันของมันออกมาก่อนจะตอบซ่งเจิง
“ฉันจะรอนายอยู่ข้างในนะ !” พูดจบฉู่อี้ก็สูบบุหรี่อีกหนึ่งรอบก่อนจะเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ซ่งเจิงที่มองตามหลังฉู่อี้ไปรู้สึกอ้างว้างขึ้นมานิดหน่อย
{ต่อไปก็จะเป็นสงครามของพวกเราแล้วซินะ ! ไม่ต้องห่วงเรื่องการแก้แค้นนะ ฉันจะต้องไปเจอนายที่ข้างในแน่ !}
หลังจากที่ซ่งเจิงสูบบุหรี่เสร็จ เขาก็ไปนอนหลับพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน สองสามวันมานี้เขานอนหลับไม่สนิทเลย เขาคิดเรื่องต่างๆเกือบจะตลอดเวลา เรื่องพวกนี้ทำให้เขาคิดถึงตอนที่เป็นพ่อครัว ตอนนั้นชีวิตช่างดียิ่งนัก !
เช้าวันต่อมา ซ่งเจิงและพวกของเขาออกเดินทางกันแต่เช้า พวกเขามุ่งหน้าไปยังเขตC เมื่อพวกเขาพบเจอซอมบี้กลุ่มเล็กๆตามทาง พวกเขาจะหลบเลี่ยงมัน แต่หากเป็นกลุ่มใหญ่ พวกเขาก็จะปล่อยให้ฉู่อี้จัดการ ไม่กี่นาทีทางก็สะดวก
“ที่นี่คือเขตCเหรอ ?” ซ่งเจิงลงจากรถ พื้นที่ที่เขาเห็นเต็มไปด้วยโรงงาน เมื่อก่อนที่นี่คงจะเป็นเขตอุตสาหกรรมเป็นแน่
“ที่นี่คือเขตนอกเมืองของเขตC และมักจะมีซอมบี้มารวมกันที่ใต้ดินเป็นจำนวนมาก” พี่ชายกุ้ยอธิบาย
“พวกเราไม่ต้องเดินตามท่อน้ำนี่ ไม่ได้เป็นหนูเสียหน่อย” ลิงผอมพูดหยอกล้อแล้วหัวเราะออกมา
“ที่นี่มีคนอาศัยอยู่” ฉู่อี้ค่อยๆเอ่ยออกมา สายตาของเขาหยุดมองไปยังคลังสินค้า
“ไปดูกันเถอะ ระวังตัวด้วยล่ะ ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่ค่อยอยากจะต้อนรับแขกจากทางไกลสักเท่าไหร่” ซ่งเจิงหยิบกระทะเหล็กออกมา ทำให้ทั้งสามคนเกิดอาการตื่นตัว
“เอี๊ยด เอี๊ยด!” เสียงประตูคลังสินค้าดังขึ้นเมื่อซ่งเจิงเปิดมัน เนื่องจากมันเป็นประตูม้วนเหล็ก แถมยังมีสนิมเกาะอีก ทำให้เกิดเสียงเปิดประตูดังลั่นไปทั่ว
ทุกคนมองเข้าไปยังคลังสินค้าแล้วขมวดคิ้ว ยกเว้นก็แต่ฉู่อี้ ที่เห็นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
ข้างในคลังสินค้าขนาดเล็กนั้น เต็มไปด้วยร่างของคนที่นอนอยู่อย่างหนาแน่น พวกเขานอนพิงกันและกัน ร่างกายซูบผอมราวกับกิ่งไม้ สีหน้าไร้ชีวิตชีวา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้กินอะไรกันมานานแล้ว
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นเหม็นลอยออกมาจากตัวของพวกเขาตลอดเวลา ไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ได้อาบน้ำกันนานเท่าไหร่แล้ว
ซ่งเจิงกวาดสายตามองไปรอบๆ เขาเห็นว่ารอบๆคนเหล่านั้นมีของเสียอยู่เต็มไปหมด แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะออกมาจากคลังสินค้า เรื่องการถ่ายของเสียจึงถูกจัดการอยู่ในนี้ด้วยเช่นกัน
คนเหล่านั้นไม่ได้แสดงอาการกลัวออกมาเมื่อเห็นพวกของซ่งเจิง พวกเขาทำแค่ใช้สายตาอันหมดหวังมองมาเท่านั้น ราวกับว่าพวกเขากำลังจะถอดใจแล้ว
“ทีมสำรวจของพวกนายล่ะ ? พวกเราเป็นทีมสำรวจจากเขตB ” ซ่งเจิงยืนถามเหล่าผู้คนเหล่านั้น
ไม่มีใครตอบ มีคนจำนวนหนึ่งที่มองซ่งเจิงไปมาตั้งแต่หัวจรดเท้า สำหรับพวกเขาแล้วไม่ว่าพวกซ่งเจิงจะเป็นใคร มันก็ไม่มีความหมายอะไร
พวกเขาไม่ใช่พระเจ้า จึงไม่สามารถให้น้ำอาหารและช่วยชีวิตพวกเราได้
“ใครตอบคำถามของฉัน คนนั้นจะได้แพนเค้กชิ้นนี้” ซ่งเจิงหยิบแพนเค้กหนึ่งแผ่นขึ้นมาจากกระทะเหล็กแล้วชูขึ้น ก่อนจะถามอีกครั้ง
ชั่วพริบตาที่ซ่งเจิงชูแพนเค้กขึ้น คนทั่วทั้งคลังสินค้าก็เคลื่อนไหวทันที พวกเขาส่งเสียงอื้ออึงแล้วพุ่งตรงเข้ามาหาซ่งเจิง
อาหาร ! อาหาร ! เพียงแค่แย่งมาได้ ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ !
“ฉู่อี้ !” เมื่อซ่งเจิงเห็นกลุ่มคนที่กำลังเข้ามาหาเขา เขาก็เกิดสับสนจนต้องตะโกนเรียกฉู่อี้
“บึ้ม !” เกิดเปลวไฟลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรงทันที แสงสว่างจากเปลวไฟทำให้คนเหล่านั้นต้องหลับตา สัญชาตญาณของพวกเขาทำให้ต้องถอยหลัง
เพราะว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในคลังสินค้าเป็นเวลานาน ทำให้ไม่ได้เห็นแสงสว่าง หลังจากที่เห็นแสงจากเปลวไฟของฉู่อี้ พวกเขาจึงรู้สึกแสบตาขึ้นมา
“พอแล้วล่ะ ฉู่อี้ ไปเอาน้ำยาวิวัฒนาการจากใต้ดินมา ยิ่งเยอะยิ่งดี เร็วเข้า !” ซ่งเจิงพูดกับฉู่อี้
“อยากได้ทั้งเยอะและรวดเร็ว แต่นายพูดราวกับเป็นเรื่องง่ายๆเลยนะ” ฉู่อี้พูดอย่างโมโหก่อนจะรีบไปจัดการ
“ฉันจะพูดอีกครั้ง ใครตอบคำถามของฉัน ฉันจะให้น้ำและอาหาร !” เสียงของซ่งเจิงดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เหล่าคนที่สงบเมื่อครู่เกิดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง
“ฉันเอง !”
“ฉัน ! ฉันรู้ทุกเรื่องเลยนะ !”
“ให้ฉันดื่มน้ำหน่อย !”
“ขอร้องล่ะ พวกเราไม่ได้กินอะไรมาห้าวันแล้ว !”
……
“นาย ! บอกฉันมา ทีมสำรวจของพวกนายอยู่ที่ไหน ?” ซ่งเจิงลากชายแก่คนนึงขึ้นมาถาม ร่างกายของชายแก่นั้นอ่อนแอมาก จะพูดได้คำหนึ่งนั้นช่างยากเย็นนัก
“ดื่มน้ำก่อนเถอะ กินแพนเค้กก่อนแล้วค่อยพูด” ซ่งเจิงยื่นถ้วยที่ใส่น้ำไว้ไปตรงหน้าชายแก่ แล้วฉีกแพนเค้กให้หนึ่งชิ้น เมื่อเขาดื่มน้ำเสร็จ เขาก็ส่งถ้วยกลับคืน
“พวกเขาออกไปห้าวัน ตอนนี้ยังไม่มีใครกลับมาเลย เจ้าสัตว์เดรัจฉานพวกนั้น เอาอาหารของพวกเราไปหมด !” ชายแก่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆพูดออกมา
“ผมรู้แล้วล่ะ !” ซ่งเจิงเดินเข้าไปอยู่ต่อหน้าหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่ง แต่ว่าเธอนั้นไม่มีแม้แต่แรงที่จะยืน แม้แต่จะลืมตายังทำได้ยาก ซ่งเจิงให้เธอกินอาหารให้เสร็จก่อนถึงถามออกไปว่า “เธอบอกมาสิว่าทีมสำรวจมีกี่คน ?”
“ห้าคนค่ะ พวกเขาออกไปฆ่าซอมบี้ แต่ว่าพวกเรารู้ดีว่าพวกเขานั้นทิ้งพวกเราแล้ว” ดวงตาของหญิงคนนั้นแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะร่างกายขาดน้ำหลายวัน หรือเพราะน้ำตาที่กลั้นเอาไว้กันแน่
เมื่อหญิงตั้งครรภ์พูดออกมา เสียงอื้ออึงที่ดังไปทั่วก็หยุดลง ในสถานการณ์แบบนี้ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการถูกทิ้ง ชีวิตของพวกเขาถูกทิ้งให้หิวตายอีกทั้งการที่ไม่กล้าออกไปไหนทำให้พวกเขามีความรู้สึกหมดหวัง
ซ่งเจิงไม่ได้ถามอะไรอีก คนพวกนี้ต่างเป็นคนมีอายุ ผู้หญิงและเด็ก ชายหนุ่มที่มีลักษณะแข็งแรงแม้แต่สักคนเดียวก็ไม่มี
“มาแล้ว ยี่สิบส่วน เพียงพอที่จะให้พวกเขาทานได้หนึ่งมื้อล่ะนะ” ฉู่อี้กลับมา พร้อมกับน้ำยาวิวัฒนาการจำนวนมาก เขามอบน้ำยาให้ซ่งเจิงแล้วนั่งลงบนพื้นเพื่อพักหายใจ
“ไม่เป็นไร ให้พวกเขากินก่อนเถอะ ฉันไม่เป็นไร” ซ่งเจิงส่งแพนเค้กให้ฉู่อี้ แต่กลับโดนปฏิเสธ
“พวกนายทั้งสามคนตามฉันออกมา” ซ่งเจิงตะโกนไปยังลิงผอมและพี่ชายกุ้ย ทั้งสามคนรีบเดินตามซ่งเจิงออกไปทันที
“รออีกสักครู่ค่อยนำแพนเค้กไปให้พวกเขา หลังจากหมดแล้วให้มาเอาเพิ่มที่ฉัน มีคนแก่และเด็กที่ไม่มีฟันทำให้เคี้ยวไม่ได้ พวกนายเคี้ยวให้พวกเขาซะนะ” ซ่งเจิงบอกทั้งสามคน ที่เขาออกมาข้างนอกเพราะว่าไม่อยากให้คนพวกนั้นรู้เรื่องของกระทะเหล็ก