กระทะเหล็กกู้โลก - ตอนที่ 34 วิธีของกระทะเหล็กขั้นสูง

ตอนที่ 34 วิธีของกระทะเหล็กขั้นสูง

"เป็นถึงระดับสองเหมือนกัน แต่ทำไมนายถึงได้โง่แบบนี้ล่ะ? แม้แต่สุนัขกลายพันธุ์ก็จัดการไม่ได้งั้นเหรอ?" ซ่งเจิงมองอย่างดูถูกไปยังฉู่อี้

"แก ! ฉันได้เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่จากพิษของแมวกลายพันธุ์ระดับสองขั้นกลางนะ !" ฉู่อี้พูดออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

"พิษ?" แววตาของซ่งเจิงเปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาก็ดึงฉู่อี้เข้ามาถามอย่างรวดเร็ว "มันเป็นพิษอะไร ?"

"เป็นพิษชนิดหนึ่ง ทำให้ร่างกายของคนเราเตรียมพร้อมสำหรับไวรัสที่จะเข้ามาในร่างกาย ฉันใช้พลังเกินความจำเป็นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะทำให้พลังนั้นสะท้อนกลับ แล้วกลายเป็นซอมบี้" ฉู่อี้อธิบาย

"ทำไมนายถึงมาอยู่ข้างนอกได้ล่ะ?" ซ่งเจิงยังคงถามต่อไป

"เดิมทีฉันเป็นหัวหน้าทีมกลุ่มหนึ่งในนั้น แล้วก็ยังมีน้องสาวคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ด้วยกัน แต่ว่ามีมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสามคนหนึ่งดันมาชอบน้องสาวของฉัน ฉันโกรธจนลงมือกับเขาไป ผลที่ได้คือฉันโดนเขาโจมตีกลับจนบาดเจ็บสาหัส แล้วฉันยังถูกไล่ออกมาอีกด้วย" สายตาของฉู่อี้นั้นมีความเกลียดชังปรากฏขึ้นอีกครั้ง มือทั้งสองข้างของเขากำหมัดแน่นแล้วทุบลงพื้นสองสามครั้งเพื่อระบายอารมณ์

"อย่าบอกนะว่านายออกมาจากที่นั่นคนเดียว ไหนนายบอกว่ามันไกลนับพันไมล์ไม่ใช่หรือไง หือ?" ซ่งเจิงจ้องไปยังฉู่อี้ด้วยความสงสัย

"คนของฉันขับรถมาส่งฉันที่กำลังจะตายมาไว้ที่ด้านนอกน่ะ แต่ว่าพวกเขาก็ได้สละชีวิตไปแล้วล่ะ" ฉู่อี้อธิบายด้วยความเจ็บปวด

"หลังจากนั้นล่ะ?" ซ่งเจิงลูบหลังฉู่อี้แล้วถามต่อ

"หลังจากนั้นฉันก็ถูกแมวกลายพันธุ์ระดับสองซุ่มโจมตี แล้วก็มาเจอพวกนายนี่ล่ะ" ฉู่อี้เงยหน้าขึ้นพลางตอบคำถาม

"ถ้าอย่างนั้นแมวกลายพันธุ์ระดับสองอยู่ที่ไหนแล้วล่ะ ? "ซ่งเจิงถามออกไปทันที

"อยู่ระหว่างขอบเขตพื้นที่ด้านนอกและด้านใน นายถามไปทำไม?" ฉู่อี้ถามกลับ

"เอ่อ ไม่มีอะไร ใช่แล้ว แล้วเรื่องพิษนั้นนายจะทำยังไงกับมัน?" ซ่งเจิงถามออกไปด้วยความเป็นห่วง

"จัดการเรียบร้อยแล้ว ร่างกายของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสามนั้นมีพลังในการป้องกันพิษและพลังในการฟื้นฟูร่างกายค่อนข้างสูง" ฉู่อี้อธิบาย

"ระดับสามงั้นเหรอ ?" ทันใดนั้นซ่งเจิงก็ยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยพลางมองไปยังฉู่อี้ ฉู่อี้ก้รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

"นายกำลังคิดอะไรบ้าๆอยู่ใช่ไหม ?" ฉู่อี้ถามออกมาอย่างรู้สึกหวาดระแวง

"เดี๋ยวนายก็รู้เอง พวกเรานอนกันเถอะ" ซ่งเจิงหันไปอีกด้านแกล้งทำเป็นนอนหลับอยู่ แต่ในหัวของเขากำลังพูดคุยกับกระทะเหล็กอยู่แทน

{ติง  ! เชิญใส่คำสั่ง}

{เปิดรายการสิ่งของ!}

{พื้นที่ไม่เพียงพอ ไม่สามารถทำการเปิดรายการสิ่งของได้ !}

{ทำไมถึงยังเตือนเรื่องพื้นที่อยู่อีก?}

{หากต้องอัพเกรดคุณภาพของกระทะเหล็กจำเป็นต้องใช้ศพซอมบี้จำนวนหนึ่งแสนตัวหรือน้ำยาวิวัฒนาการหนึ่งแสนส่วน!}

เมื่อซ่งเจิงได้ยินจำนวนตัวเลขที่มากขนาดนั้นก็ตกใจขึ้นมา ซอมบี้หนึ่งแสนศพ ความสามารถระดับเขาตอนนี้อีกสิบปีก็ทำไม่ได้ แล้วเขาก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมา

{จำกัดประเภทของซอมบี้ไหม?}

{ไม่จำกัด !}

ได้ยินแบบนั้นใบหน้าของซ่งเจิงปรากฏรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยขึ้นมา ศพของซอมบี้ที่เป็นทั้งคนและสัตว์นั้นถ้าจะให้ถึงหนึ่งแสนศพคงยาก แต่ว่าถ้าหากเป็นพวกแมลงล่ะก็ ง่ายมากเลยล่ะ ของพวกนี้ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ ไม่คิดเลยว่าจะมีบัคอยู่ด้วย

{ถ้าเปิดตำหรับอาหารล่ะ?}

{เปิดชุดอาหารหลัก มีอาหารเพิ่มเติมคือข้าวผัดไข่ บะหมี่หยางชุน เกี๊ยวน้ำ และ ถั่วถุง !}

{รายการวัตถุดิบ !}

{รายการวัตถุดิบตามด้านล่างนี้

ข้าวผัดไข่ : น้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำสิบส่วน เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย หลังจากรับประทานหมดแล้วพลังงานจะได้รับการฟื้นฟู

บะหมี่ชุนหยาง: น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำยี่สิบส่วน เพิ่มพลังในการรักษาพิษ สามารถแยกพิษร้ายแรงออกจากพิษทั่วไปได้

เกี๊ยวน้ำ : ใช้น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำยี่สิบส่วน เพิ่มความสามารถในการหายใจใต้น้ำ สามารถอยู่ใต้น้ำได้นานเกือบสามชั่วโมง

ถั่ว : ใช้น้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำห้าสิบส่วน เพิ่มพลังด้านความเชี่ยวชาญ หลังจากทานถั่วถุงนี้แล้ว จะทำให้ผลลัพธ์จากการออกกำลังกายเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่า ภายในเวลาหนี่งวัน}

{จำกัดประเภทการฝึกไหม ?}

{ไม่สามารถใช้เครื่องช่วยออกกำลังได้ !}

เมื่อซ่งเจิงถามถึงตรงนี้ ใบหน้าของเขาก็ปรากฏสีหน้าแห่งความตื่นเต้นออกมา ตอนนี้ข้าวผัดไข่และถั่งถุงนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก

หลังจากผ่านการต่อสู้มาหลายวัน ซ่งเจิงก็ได้รู้ลึกๆว่าร่างกายของเขานั้นค่อนข้างอ่อนแอ บ่อยครั้งในขณะที่หัวคิดจะทำแบบนั้นแบบนี้แต่ร่างกายของเขานั้นช้า ทำให้การตอบสนองของร่างกายช้าตามไปด้วย

วิธีการสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ ก็คือการฝึกฝนร่างกาย ข้าวผัดไข่สามารถทำให้ร่างกายของเขามีความสามารถในการฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงได้ ขอเพียงแค่ร่างกายของเขารับได้ เขาก็จะสามารถฝึกฝนร่างกายต่อไปได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่ต้องพูดถึงถั่วที่ให้ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า แบบนี้เขาก็จะสามารถจัดการกับร่างกายอันอ่อนแอของเขาให้หายไปได้อย่างรวดเร็ว ความคิดนี้ทำให้ซ่งเจิงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้านี้ที่เขาได้ฟังซ่งเจิงก็เข้าใจถึงระดับต่างๆของมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ได้ดังนี้ :

มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับหนึ่งนั้นมีพลังมากถึงแปดร้อยกิโลกรัม ความแรงของกำปั้นและลูกเตะสูงถึงสี่ร้อยกิโลกรัม และยังสามารถยกก้อนหินหนักราวหลายพันกิโลได้ ความเร็วในการวิ่งระยะสั้นสูงสุดถึงสิบเก้าเมตรต่อวินาที หากวิ่งระยะยาวจะสามารถวิ่งได้ถึงสี่สิบเมตรต่อวินาที

มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสองนั้นมีพลังเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งพันสี่ร้อยกิโลกรัม พลังของกำปั้นและลูกเตะสูงถึงหนึ่งพันกิโลกรัม วิ่งระยะสั้นความเร็วยี่สิบเมตรต่อวินาที และวิ่งระยะยาวความเร็วสิบเก้าเมตรต่อวินาที

มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับสามมีพละกำลังสูงถึงสองพันห้าร้อยกิโลกรัม พลังของกำปั้นและลูกเตะสูงถึงหนึ่งพันแปดร้อยกิโลกรัม วิ่งระยะสั้นความเร็วสามสิบเมตรต่อวินาที และ วิ่งระยะยาวความเร็วยี่สิบห้าเมตรต่อวินาที

มนุษย์กลายพันธ์ระดับสี่นั้นมีพลังสูงถึงสี่พันกิโลกรัม พลังกำปั้นและลูกเตะสูงถึงสามพันหกร้อยกิโลกรัม วิ่งระยะสั้นได้ห้าสิบเมตรต่อวินาที และวิ่งระยะยาวได้สี่สิบเมตรต่อวินาที ถ้าเทียบกับพลังของมนุษย์พันธุ์ใหม่ระดับสามแล้วถือว่าห่างกันเยอะพอสมควร นอกจากนี้ยังสามารถประสานพลังของร่างกายทั้งหมดเข้าด้วยกันได้อีกด้วย หากทั้งสองระดับต่อสู้กัน ระดับสี่สามารถที่จะอัดระดับสามได้อย่างสบายๆ

แต่ว่าตัวเขาเองนั้นแม้ว่าจะมีพลังเพียงระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้มีพลังอันน่ากลัวราวแปดร้อยกิโลกรัมเหมือนกับฉู่อี้ ในทางตรงกันข้ามเขามีพลังน้อยกว่าหนึ่งร้อยกิโลกรัมด้วยซ้ำ ทั้งที่ปกติแล้วมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ระดับหนึ่งจะมีพลังถึงประมาณสี่ร้อยกิโลกรัมได้ นี่แสดงให้เห็นว่าร่างกายของเขานั้นถดถอยลง การแก้ไขปัญหานี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

สิ่งที่ต้องรีบทำคือรีบพัฒนากระทะเหล็กใบนี้ เมื่อมันได้รับการพัฒนาแล้วก็จะมีประโยชน์เพิ่มขึ้นมาก อันดับแรกคือสามารถชำระล้างน้ำยาวิวัฒนาการระดับหนึ่งได้อย่างอิสระ อีกทั้งยังสามารถลดจำนวนน้ำยาวิวัฒนาการระดับต่ำที่ใช้ในการเพิ่มระดับของพลังนั้นลดลงไปมากกว่าครึ่ง

ประการที่สอง การทำอาหารสูตรใหม่ ยังไม่ทันพูดถึงน้ำลายของซ่งเจิงก็ไหลออกมาเมื่อได้ยินชื่อของอาหารเหล่านั้น ไม่กี่วันมานี้เขากินแพนเค้กทุกวัน จนตอนนี้ปากของเขาแทบไม่รับรู้รสชาติอะไรแล้ว

สิ่งที่ทำให้ซ่งเจิงมีแรงจูงใจมากขึ้นคือพลังที่ได้รับจากอาหารเหล่านี้ แพนเค้กนั้นสู้ไม่ได้เลยสักนิด เมื่อเทียบกับน้ำยาวิวัฒนาการที่ต้องเสียไปนั้นถือว่าคุ้มค่ามาก ที่โดดเด่นคือถั่วถุง เพียงแค่มีบัคอยู่เท่านั้น นอกจากเครื่องจักรแล้ว ร่างกายของเขาเอง จิตวิญญาณของเขา แม้แต่ความฉลาดของเขาก็จะสามารถฝึกฝนได้ นี่มันฝืนชะตาชัดๆ!

อีกอย่างหลังจากที่ได้รับการพัฒนาแล้ว กระทะของเขาก็จะแข็งแกร่งและมีพลังมากขึ้น เมื่อก่อนน้ำยาวิวัฒนาการขั้นต่ำหนึ่งส่วนทำได้แค่แพนเค้กเท่านั้น หากได้รับการพัฒนาแล้วก็จะเพิ่มเป็นสองแผ่นได้

นี่เป็นอาวุธเดียวที่เขามี เมื่อความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าประสิทธิภาพในการต่อสู้ของมันจะสามารถปกป้องชีวิตของเขาได้ขนาดไหน

เมื่อกระทะของเขาได้รับการพัฒนาแล้ว ซ่งเจิงมั่นใจว่าเขาจะสามารถจัดการสุนัขกลายพันธุ์ได้อย่างเต็มที่แน่นอน จะไม่มีการโดนโจมตีจนตัวลอยแบบวันนี้อีกเป็นครั้งที่สองแน่

"คิดแล้วก็เป็นเรื่องที่สวยดีนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!" ในขณะที่เขากำลังเคลิ้มหลับอยู่นั้น เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

เสียงหัวเราะของเขาทำให้ทั้งสามคนที่หลับอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมา แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็หันหลังหนีให้

"พี่ซ่ง พี่หัวเราะอะไร ?" ฉู่อี้ที่พึ่งจะหลับไปก็ถูกปลุกด้วยเสียงหัวเราะอันน่ากลัวของซ่งเจิง เขาถามออกไปด้วยความหงุดหงิด

"แพนเค้กย่าง ! ฮ่าฮ่าฮ่า ! แพนเค้กย่าง ! ฮ่าฮ่าฮ่า !" หน้าผากของซ่งเจิงมีเหงื่อซึมออกมา หลังจากนั้นก็พูดเพ้อเหมือนฝันอยู่

ทั้งสามคนถีบเขาคนละสองสามทีก่อนจะหมุนตัวกลับไปพักผ่อน ส่วนซ่งเจิงนั้นยกมือขึ้นปิดปากแล้วหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่ได้