Castle of Black Iron - Chapter 1971: การโจมตีครั้งใหญ่ (I)
Chapter 1971: การโจมตีครั้งใหญ่ (I)
ซูกิวหมิงยู่ มาถูกทางแล้ว จางเทีย ตั้งใจจะออกจากเขตยูซูไปยังแคมป์ของปิศาจ
หลังจากที่ เฒ่าไทยิ และ เฉินคง ตายไป แผนการของสามนิกายใหญ่ที่ก่อตั้งพันธมิตรราชวงศ์ขึ้นมานั้นแน่นอนว่าจะถูกเปิดเผยออกมา ในอนาคตอันใกล้ไทเซียจะต้องเผชิญหน้ากับเรื่องวุ่นวาย — การจัดการกับสามนิกายใหญ่และตระกูลที่เกี่ยวข้องกับสามนิกายนนี้ ถ้าไม่อาจจะจัดการได้อย่างเหมาะสม ไทเซียอาจจะเผชิญหน้ากับเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่รึแม้แต่สงครามการเมือง
จากความวุ่นวายของสงครามระหว่างไทเซียกับปิศาจ ปิศาจจะมองข้ามโอกาสแบบนี้ในไทเซียได้ยังไง ?
แน่นอนว่าต้องไม่อยู่แล้ว !
จริงๆแล้วปิศาจจะพยายามใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ในการทำให้ภายในไทเซียวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม
ดังนั้นถ้าไทเซียต้องการที่จะจัดการความวุ่นวายนี้โดยให้เสียหายน้อยที่สุด พวกเขาต้องทำการโจมตีกองทัพปิศาจในไทเซีย มีแค่วิธีนี้ที่จะทำให้ปิศาจไม่อาจจะสร้างปัญหาให้กับมนุษย์ได้อีก ในขณะเดียวกันจากการโจมตีปิศาจนี้ พวกเขาก็จะสร้างเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิมในการจัดการกับพันธมิตรราชวงศ์ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว !
มีคนแค่เพียงส่วนหนึ่งที่เห็น จางเทีย ฆ่า เฒ่าไทยิ กับ เฉินคง ทั้งสามนิกายใหญ่ไม่ได้ส่งกองกำลังทั้งหมดของตัวเองมายังเขตยูซู แม้ว่าจะเสีย เฒ่าไทยิ กับ เฉินคง ไปแต่คนในพันธมิตรราชวงศ์กับสามนิกายใหญ่อาจจะคิดที่จะพลิกสถานการณ์ ถ้า จางเทีย ทำการโจมตีใส่กองทัพปิศาจในตอนนี้ เขาก็จะทำลายความคิดในการเอาคืนของพวกนั้นและบอกพวกนั้นว่าพวกนั้นจะตายหากกล้าที่จะต่อต้านและทำให้ไทเซียวุ่นวายโดยไม่สนว่าจะรวมกองกำลังได้มากแค่ไหน อีกอย่างแล้วยิ่งก่อปัญหามากเท่าไหร่ พวกนั้นก็จะตายเร็วเท่านั้น ตราบใดที่พวกนั้นพอมีความคิดบ้าง ไทเซียก็จะประคองสถานการณ์ไปได้
เพราะที่แนวหน้ามีนักสู้ต้องตายกว่าหมื่นคนแทบทุกวัน ตราบใดที่ จางเทีย ได้กำจัดแกนหลักของกองกำลังปิศาจได้เร็วขึ้นสักวันรึสักชั่วโมง งั้นสถานการณ์โดยรวมของมนุษย์ก็จะพลิกกลับมาและคนนับหมื่นก็จะถูกช่วยเอาไว้
หลังจากที่ออกจากเขตยูซู จางเทีย ได้ใช้ลูกปัดล่องหนและบินไปยังเขตแรงทางตะวันตกของไทเซียด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
มันคือความเร็วสูงสุดของ จางเทีย หลังจากที่พลังวิญญาณและพลังฉีได้เปลี่ยนเป็นพลังงานสีรุ้ง จางเทีย ก็พบว่าความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นมา 40%
ตอนนั้น จางเทีย กลัวว่านายพลของพวกปิศาจจะสั่งถอยกองกำลังตัวเองและบอกให้อัศวินปิศาจทั้งหมดหนีไปหลังจากที่รู้ว่า จางเทีย ได้ฆ่าอัศวินปราชญ์ทั้งสองในไทเซียหลังจากที่กลับมาหรือไม่
ตามที่ จางเทีย คาดการณ์ไว้ พวกมันอาจจะไม่ทำแบบนั้น ! แม้ว่าจะรู้ว่า จางเทีย กลับมาแล้วแต่นายพลปิศาจคงตัดสินใจแบบนั้นไม่ได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พวกนั้นต้องลังเล, คิดและถึงกับปรึกษากันเรื่องจัดการกับ จางเทีย ซึ่งอาจจะเข้าลอบโจมตีปิศาจในแนวหน้า ดังนั้นพวกนั้นจะเปิดโอกาสให้กับ จางเทีย
จางเทีย สามารถใช้เวลาช่วงนี้ในการออกจากเขตยูซูเพื่อไปยังเขตแรง จริงแล้วเวลาไม่กี่ชั่วโมงนี้คือช่วงเวลาทองสำหรับกองกำลังปิศาจในการหนีแต่ปิศาจอาจจะไม่ได้มองการไกลแบบนั้น พวกนั้นคงไม่รู้ว่าแต่ละวินาทีล้ำค่าแค่ไหนสำหรับพวกมันจนกว่า จางเทีย จะปิดช่วงเวลานี้ลง
จางเทีย ไม่ได้กลัวอัศวินปิศาจที่มีจำนวนมาก เขาแค่กังวลว่าพวกมันจะแยกตัวกันมากกว่า
ต้องขอบคุณที่อัศวินปิศาจกว่า 90% ได้ไปรวมตัวกันในสามแคมป์ใหญ่ซึ่งคือในเขตเหลียงซู, อันซูและเขตแรง
สองเขตแรกกำลังถูกกองทัพไทเซียโจมตี เขตที่สามนั้นเป็นแนวหลังของปิศาจ อัศวินปิศาจมากกว่าครึ่งได้อยู่ในแคมป์แห่งนี้
แม้ว่าเขตแรงนั้นจะไกลจากเขตยูซูแต่เป้าหมายแรกของ จางเทีย คือแคมป์ปิศาจในเขตแรงแห่งนี้
หลังจากที่จัดการกับแคมป์ปิศาจในเขตแรงแล้ว จางเทีย จะกันทางหนีของแคมป์ทั้งสองในเขตเหลียงซูและอันซูก่อนจะกำจัดพวกนั้นไปที่ละกลุ่มๆ เขาอาจจะทำให้อัศวินปิศาจตัวอื่นกลัวจนหนีและยากที่จะพบโอกาสแบบนี้ได้อีก
ตอนที่ จางเทีย บินผ่านเขตหลิงซูและตงซู เขาก็พบว่าสนามบินของทหารอากาศในเขตนี้ต่างก็ยุ่งกันอยู่ ในสนามบินนั้นมีระเบิดถูกขนออกมาจากคลังและเครื่องบินก็เริ่มปรับขบวนเพื่อขึ้นบิน อีกอย่างแล้วก็ยังมีรถมาขนส่งระเบิดให้กับเครื่องบินด้วย เจ้าหน้าที่หลายหมื่นคนและทหารอากาศต่างก็พากันวิ่งอย่างรีบเร่งในสนามบินราวกับไฟลนก้น…
นอกจากทหารอากาศแล้ว เจ้าหน้าที่ภาคสนามในฐานก็ยุ่งกับการเคลื่อนย้ายพลไปแนวหน้า
ในท้องฟ้าจำนวนอัศวินที่รับผิดชอบในการลาดตระเวนก็มากขึ้นกว่าแต่ก่อน อัศวินเหล่านี้มักจะทำการกันเขตอากาศของสามเขตใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นปิศาจจึงไม่พบสิ่งผิดปกติอันใด
สมกับเป็นเทพกองทัพ ! จางเทีย รู้ว่า ซูกิวหมิงยู่ นั้นรู้แล้วว่าเขาต้องการทำอะไร….
ไม่นาน จางเทีย ก็บินผ่านแนวหน้าใกล้กับถนนตงกวนซึ่งเขาได้เห็นป้อมรบในท้องฟ้าและที่พื้น พวกมันลอยอยู่อย่างกับกำแพงเมืองจีน
ป้อมสิงโตที่ จางเทีย เคยอยู่ในดินแดนธาตุดินเองก็มาอยู่ที่แนวหน้าใกล้ถนนตงกวนด้วย
หลังจากที่กลับมา จางเทีย ได้รู้เหตุผลว่าทำไมป้อมสิงโตถึงได้ถอยกลับมาจากดินแดนธาตุดิน — 5 ปีหลังจากการต่อสู้ที่ทะเลทรายหยินไห่ ปิศาจได้ทะลวงผ่านอุโมงค์ลับจากดินแดนธาตุดินมายังเขตแรงซึ่งเป็นการอ้อมป้อมสิงโต เมื่อเจอความกดดันจากกองทัพปิศาจ ป้อมสิงโตก็ได้ถอยกลับมาจากดินแดนธาตุดินและกลับมาที่ผิวดินในเขตแรงและช่วยป้องกันกองทัพปิศาจจากการอพยพจากแม่น้ำเว่ยชูและภูเขาฮีแลน จากนั้นมาสถานการณ์เขตตะวันตกของไทเซียก็ยากจะประคองเอาไว้ได้ ผลก็คือกองทัพไทเซียอาจจะต้องถอยไปเรื่อยๆ กว่า 30 ปีที่ผ่านมานี้เขตทั้งสามได้ถูกปิศาจยึดครองเอาไว้ อาณาเขตของอาณาจักรเอื้อมสวรรค์เองก็ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง…
แต่เมื่อเสียดินแดนไป ซูกิวหมิงยู่ ได้ตัดสินใจได้ถูกต้องซึ่งคือเขาไม่ได้ทิ้งมนุษย์ให้กับปิศาจ เขาเน้นเรื่องการป้องกัน, อพยพรวมถึงการขนเสบียงออกมา ปิศาจจึงไม่ได้อะไรไปนอกจากดินแดน
ในท้องฟ้า จางเทีย เห็นแสงพลังฉีในระยะ 600 ไมล์ แม้ว่าจะเป็นตอนเย็นแต่พวกนั้นก็ยังสู้กันอยู่ เปลวไฟที่เหมือนกับหิ่งห้อยบ่งบอกถึงระเบิดไฟและลูกดอกไฟ
หลังจากที่เข้ามายังอาณาเขตที่ปิศาจยึดเอาไว้ จางเทีย ก็พบว่าแสงพลังฉีนั้นได้หายไปแล้ว ในขณะเดียวกันเขาก็เห็นว่ามีแคมป์กองกำลังภาคพื้นดินของปิศาจที่พื้นอยู่มากมาย พวกที่อยู่ในแคมป์ต่างก็เป็นปิศาจระดับต่ำ
ด้านหลังแคมป์ปิศาจเหล่านี้ ส่วนมากแล้วเป็นเมืองมนุษย์ที่กลายเป็นซาก ระบบการป้องกันเมืองภายในเมืองได้ถูกทำลาย ท่อน้ำในที่เพาะปลูกถูกอุดด้วยดิน แม้แต่ป่าก็ยังโดนเผา
จางเทีย เห็นป้อมรบของปิศาจซึ่งดูคล้ายกับต้นไม้แปลกๆที่เปลี่ยนร่างได้เสร็จสิ้นแล้ว เพราะมีทรัพยากรไม่มากที่พื้นดิน จำนวนของป้อมรบนี้จึงมีจำกัด
ตอนนั้นแคมป์ของปิศาจในเขตเหลียงซูก็ได้โผล่มาในสายตาของ จางเทีย มันเป็นป้อมรบรังผึ้ง 30 อันในท้องฟ้า ปิศาจปีกอัศวินปิศาจกว่าหมื่นตัวได้บินเข้าออกที่แคมป์แห่งนี้
เมื่อเห็นสถานการณ์ในแคมป์ที่เขตเหลียงซู ในที่สุด จางเทีย ก็สบายใจ นายพลปิศาจยังไม่ได้สั่งให้อพยพรึแยกตัว บางทีนายพลปิศาจอาจจะยังไม่ได้รับข้อความเกี่ยวกับการกลับมาของ จางเทีย
แค่เพียงครึ่งชั่วโมง จางเทีย ก็ได้บินผ่านเขตเหลียงซูและหลี่ซูก่อนจะเข้าไปยังเขตแรง
ก่อนหน้านี้เขตแรงเต็มไปด้วยป้อมรบของมนุษย์แต่ตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยป้อมรบของปิศาจ
ไม่นานแคมป์ปิศาจในเขตแรงก็โผล่มาในสายตา จางเทีย ซึ่งใหญ่กว่าแคมป์ปิศาจในเขตเหลียงซูกว่า 3 เท่า ป้อมรบรังผึ้งกว่า 100 อันเชื่อมต่อกันและลอยสูงไปกว่า 2,000 ม.คล้ายสันเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด
มันมีเต็นท์หลายหมื่นอันที่พื้น แคมป์แห่งนี้ยาวหลายพันไมล์คล้ายกับเมืองขนาดใหญ่
ปิศาจปีกหลายพันตัวบินอยู่รอบแคมป์แห่งนี้ทำหน้าที่ลาดตระเวนในอากาศ
ด้านในแคมป์แห่งนี้อัศวินปิศาจต่างก็เข้าออกรูรังผึ้งในป้อมรบ นอกจากนี้ยังมีอัศวินปิศาจหลายตัวที่ตรวจการอยู่รอบๆ แค่เพียงชำเลืองมอง จางเทีย พบว่ามีอัศวินปิศาจอย่างน้อยพันตัวด้านนอกแคมป์แห่งนี้
แคมป์แห่งนี้มีอัศวินปิศาจอย่างน้อย 70,000 ตัว มันมีกองทัพอัศวินกว่า 500 กองในที่ดิน 600 ตร.ไมล์ บอกได้ว่าราชานรกปิศาจสองตัวเองก็อยู่ที่นี่ด้วย…
จางเทีย ไม่ได้รีบเร่งเข้าไป เขากลับหยุดห่างจากแคมป์ไป 400 ไมล์ เขาเลียปากและปล่อยพลังวิญญาณอันน่ากลัวขึ้นไปในท้องฟ้า ทันใดนั้นพลังงานอันลึกลับแยกตัวกันสองอันก็เริ่มไหลมารวมตัวกันภายในการควบคุมพลังวิญญาณของ จางเทีย ราวกับน้ำที่ไหลออกจากเขื่อน…