หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) ฉบับแปลใหม่ !!! - ตอนที่ 927: การต่อสู้เพื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

  1. หน้าแรก
  2. เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) ฉบับแปลใหม่ !!!
  3. ตอนที่ 927: การต่อสู้เพื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ
Prev
Next
ตอนที่ 927: การต่อสู้เพื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

 

แม้ว่าจะมีหลายคนที่รีบพุ่งเข้าไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วยและมองดูอยู่ไกลไกล เจี้ยนเฉิน นูบิสและซี่หวังเป็นสามคนในกลุ่มนั้น ในขณะเดียวกัน โมจื่อและอีกทั้งสามคนเป็นกลุ่มแรกที่พุ่งเข้าไปก่อนหน้านี้นานแล้ว

นูบิสจ้องมองอย่างเย็นชาไปที่กลุ่มของโมจื่อ ในขณะที่พวกเขาพุ่งไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เขาพูดเบา ๆ ว่า “สี่คนนี้ไว้ใจไม่ได้ พวกเราควรจะต้องระวังตัวไว้”

เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไร

ในตอนนี้เอง มีบางอย่างเกิดขึ้น ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้เริ่มที่จะเปล่งแสงแสบตาออกมาและเริ่มที่จะโจมตีออกมาโดยไม่มีใครควบคุมมันเลย มันพุ่งไปที่คนอื่นเหมือนแสงไฟด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ

เซียนผู้คุมกฎ 3 คนตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิพุ่งผ่านตัวของพวกเขาไป พวกเขาถูกผ่าครึ่งลงมาตั้งแต่จมูกและวิญญาณของพวกเขาก็ถูกทำลายก่อนที่พวกเขาจะทันได้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยซ้ำ

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิพุ่งต่อไปโดยไม่ลดกำลังลงเลย มันพุ่งไปที่กำแพงของโถงก่อนที่จะปะทะอย่างแรงกับมัน

ตู้ม !

เสียงดังเสียดหูออกมา ทั่วทั้งโถงสั่นไหวอย่างรุนแรง ในขณะที่ทุกคนด้านในทรุดตัวลงเพราะเสียการทรงตัว

พวกเขาทั้งหมดสงบลงในที่สุดจากความตื่นเต้นของพวกเขา และพวกเขาก็จ้องไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิด้วยความตกใจและเหลือเชื่อ ไม่มีใครคิดว่ากระบี่ที่ไม่มีคนใช้จะบินว่อนไปด้วยตัวของพวกมันเองและมีพลังที่น่ากลัวแบบนี้ มันทำให้ทั้งโถงสั่นไหวเพียงแค่การปะทะเพียงครั้งเดียว

บู้ม! บู้ม! บู้ม…

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิกระแทกเข้าไปที่กำแพงของโถงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทั้งโถงสั่นไหวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร มันมีพลังมากมายแต่มันก็ยังห่างไกลจากพลังของเซียนจักรพรรดิมาก มันสามารถสั่นไหวทั้งโถงได้แต่ไม่สามารถทำลายมันได้

“มันต้องการที่จะหนี” เจี้ยนเฉินพึมพำออกมาในขณะที่จ้องไปที่การกระทำของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

“บางทีอาวุธนี้อาจจะมีความคิดของตัวเองหรือเปล่า ? ” นูบิสถามอย่างอยากรู้ เขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

“ข้าไม่รู้แต่ว่าข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์เซียนมา ถ้าจอมยุทธที่เป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้ตายไปโดยสิ้นอายุขัย พวกเขาจะทิ้งอาวุธเซียนเอาไว้ มันจะมีพลังชีวิต 3 ส่วนที่ถูกแบ่งเอาไว้ พวกเขาหวังที่จะฟื้นคืนชีพอีกครั้งในอนาคต” เจี้ยนเฉินพูดเสียงแหบแห้ง

ตาของนูบิสหรี่เล็ก “เจี้ยนเฉิน เจ้ากำลังจะบอกว่าเหตุผลที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมีความคิดเป็นของตัวเองเพราะมันมีวิญญาณของเซียนจักรพรรดิที่บงการอยู่ด้านในงั้นหรือ ? เซียนจักรพรรดิยังไม่ตายหรือ ? ”

เจี้ยนเฉินส่ายหัว เขาไพล่มือข้างหลังในขณะที่เขาจ้องตาไม่กระพริบไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ “ข้าไม่มั่นใจ แต่พลังของยุทธภัณฑ์จักรพรรดินั้นเหนือกว่าที่ข้าควบคุมได้เว้นเสียแต่ว่าความแข็งแกร่งของข้าจะเพิ่มขึ้น” ท่าทางของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนเมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้พุ่งเข้ามาตรงที่พวกเขายืนอยู่ในตอนนี้ด้วยปราณกระบี่ที่แหลมคมและทรงพลัง

“ระวัง หลบเร็ว” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมา เขากลายเป็นภาพติดตาและเคลื่อนไปที่ไกล ในขณะเดียวกันนูบิสและซี่หวังก็ไม่ได้อ้อยอิ่งอยู่เช่นกัน พวกเขาเฝ้าดูยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ตลอด และพวกเขาก็หลบไปทั้งสองข้างในเวลาเดียวกัน

บู้ม ! ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิฟาดลงไปอย่างแรงตรงที่ที่พวกเขาเคยยืนอยู่และพลังงานรุนแรงก็ส่งพวกเขาทั้งสามคนลอยไปในอากาศ

“อ้าก ! แขนข้า ! ” ซี่หวังโหยหวนออกมาอย่างเจ็บปวด ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิพุ่งเข้ามาไวเกินไปและเขาก็หลบช้าไปหน่อย แขนซ้ายทั้งหมดของเขาได้รับบาดเจ็บและเลือดก็พุ่งออกมาเหมือนน้ำพุจากแขนที่บาดเจ็บของเขา

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไม่ได้โจมตีไปที่พวกเขาทั้งสามคนต่อ มันพุ่งขึ้นไปบนฟ้าทันทีอีกครั้งและปะทะเข้ากับเพดานสูงของโถง ก่อนที่จะพุ่งไปรอบ ๆ และพุ่งลงไปที่พื้นอีกครั้ง ครั้งนี้มันพุ่งเป้าไปที่จอมยุทธที่ยืนกระจัดกระจายอยู่รอบ ๆ

“วิ่ง ! ” แต่ละคนหน้าซีดไปด้วยความตื่นตกใจและใช้ทักษะหลบหนีต่าง ๆ เพื่อที่พยายามจะหนีจากระยะการโจมตีของอาวุธ อย่างไรก็ตาม ยุทธภัณฑ์จักรพรรดินั้นใหญ่มากมีระยะการโจมตีกว้าง จอมยุทธคนอื่นพลาดที่จะหลบได้ในครั้งนี้และตายเพราะอาวุธนั้น

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเหมือนแมลงวันที่ไม่มีหัวและพุ่งไปทั่วโถง มันต้องการที่ทำลายโถงและหนีไป ดังนั้นมันถึงได้ทำตัวเร่งรีบ อย่างไรก็ตาม ทุกคนที่อยู่ในโถงต่างโดนลูกหลงจากการที่มันโจมตีพุ่งไปมาด้วยและพวกเขาอยู่ในสภาพแย่ในขณะที่พวกเขาหลบอาวุธ ในไม่ช้า คนหลายคนก็ตายลงด้วยคมกระบี่ของมัน ในขณะที่คนมากกว่าสิบคนได้รับบาดเจ็บจากมันเช่นกัน

ไทนิชจ้องเขม็งไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิด้วยท่าทีเคร่งเครียด พลังของเซียนราชาพุ่งออกมาจากเขาอีกครั้งและกลายเป็นเกราะที่ครอบคลุมทุกตารางนิ้วของร่างกายของเขา มีแค่ตาของเขาเท่านั้นที่ไม่ถูกปกคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแขนของเขานั้นถูกปกป้องอย่างดี เกราะหนามากกว่าส่วนอื่นตรงนั้น

ไทนิชกระโจนออกไปและไปถึงที่ด้ามของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เขาอ้าแขนออกและโอบไปที่ด้ามหนาของกระบี่เอาไว้อย่างแน่นเพื่อพยายามที่จะทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสงบลง

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสงบลงทันที ก่อนที่ปราณกระบี่ที่ทรงพลังระเบิดออกมาจากข้างในของมัน ปราณกระบี่เปลี่ยนเป็นแสงสีขาวสว่างจ้าที่ล้อมไทนิชเอาไว้ เสียงขูดดังอย่างต่อเนื่องดังออกมาในขณะรอยฟันก็อยู่รอบเกราะของไทนิชไปทั่ว การป้องกันของเกราะค่อย ๆ ถูกกัดกร่อนไปเรื่อย ๆ

ไทนิชไม่อยากที่จะยอมรับ เขาคำรามดังออกมาและพลังของเซียนราชาก็ไหลออกมาจากร่างของเขา อย่างไม่หยุดเพื่อทดแทนกับพลังงานที่เกราะใช้ไป แหวนมิติปรากฏอยู่ในมือของเขา เขาต้องการที่จะบังคับให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิลงไปในนั้น

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเริ่มที่จะต่อต้านและไม่ยอมเข้าไปในแหวนมิติ ไม่ว่าไทนิชจะพยายามแค่ไหน เขาก็เก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเข้าไปในแหวนมิติไม่ได้

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไม่สามารถหลุดออกมาจากการจับของไทนิชได้ มันบ้าคลั่งในโถงในขณะที่มันลากไทนิชไปด้วย กระแทกไปรอบ ๆ และพลังงานที่ยิ่งใหญ่ก็กระตุกผ่านตัวไทนิช เขาทรมานอย่างมาก ถ้าไม่เป็นเพราะเกราะ อวัยวะของเขาก็คงกลายเป็นผุยผงไปนานแล้ว อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแบบนั้นแต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นสำหรับไทนิชเลย

จอมยุทธหลายคนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง หลายคนหนีไปทุกทิศทางและอยู่ในสภาพย่ำแย่เพราะยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ จำนวนคนตายเพิ่มขึ้นอย่างมาก คนที่รอดชีวิตเหลือน้อยกว่า 20 คนแล้วในตอนนี้  นอกเหนือไปจากนั้นอย่างน้อยครึ่งหนึ่งในนั้นยังได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

ไทนิสใช้พลังงานของเซียนราชาไปในจำนวนมากถึงจุดที่เขาไม่สามารถทนได้อีกนานแล้ว เขาปล่อยด้ามของกระบี่ไปด้วยความเสียดาย

อย่างไรก็ตาม อาวุธก็ไม่ได้หยุดหลังจากนั้น มันยังบ้าคลั่งไปรอบ ๆ โถงและกระแทกไปรอบ ๆ และส่งเสียงบาดหูออกมา มันทำให้ทั้งโถงสั่นไหวโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

“พระเจ้า ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิบ้าไปแล้ว” นูบิสมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินและสบถออกมาในขณะที่เขาหายใจแรงในขณะที่เขาจ้องไปที่ยุทธภัณฑ์ราชาที่บ้าคลั่ง อาวุธทิ้งแผลถึงกระดูกที่หลังของเขาเอาไว้

เจี้ยนเฉินยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ ในขณะที่เขาสังเกตไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอย่างระมัดระวัง เขากางแขนออกและแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากกลางหน้าผากของเขา และตกลงที่ฝ่ามือของเขาเป็นหอคอยเล็กสีทอง

ทั้งหมดที่เขาทำได้ในตอนนี้คือใช้วัตถุเซียนเพื่อที่จะทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสงบลง จิตวิญญาณกระบี่ไม่มีพลังที่จะออกมาเผชิญหน้าในตอนนี้ ถ้ายุทธภัณฑ์จักรพรรดิมีวิญญาณ มันก็คงถูกจัดการได้ไปโดยจิตวิญญาณกระบี่แล้ว อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินรู้ดีว่านี่มันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปได้อย่างมากที่มันจะมีวิญญาณของเซียนจักรพรรดิอยู่ในนั้น

ในตอนนี้ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้หันมาพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินอีกครั้ง

นูบิสร้องเสียงแปลกออกมา เขาไม่ลังเลเลยและหลบทันที อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินเลือกที่จะไม่หลบในครั้งนี้ และรอให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเข้ามาถึง

เมื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉิน 10 เมตร แสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาทันที เจี้ยนเฉินได้บอกให้วัตถุจิตวิญญาณเปิดประตูทางเข้าหลักของวัตถุเซียนออก ทันทีที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิโจมตีไปที่แสงขาว มันก็หายไป มันถูกดูดเข้าไปโดยมิติของวัตถุเซียน

“นูบิส ป้องกันวัตถุเซียนไว้ให้ดี ! ” เจี้ยนเฉินส่งข้อความทางจิตใจให้นูบิสก่อนที่เขาจะเข้าไปที่วัตถุเซียนเช่นกัน

ภายในมิติของวัตถุเซียน วัตถุจิตวิญญาณที่เตรียมตัวอยู่นานแล้วกำลังสู้กับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอยู่กลางอากาศ วัตถุจิตวิญญาณเป็นผู้คุมกฎที่เป็นที่สุดในมิติของวัตถุเซียน เป็นเซียนจักรพรรดิที่แท้จริง แม้ว่ายุทธภัณฑ์จักรพรรดิจะทรงพลังมาก แต่มันก็ยังเป็นแค่อาวุธอยู่ดี เช่นนั้น มันจะไปสู้กับวัตถุวิญญาณได้อย่างไร ? มันถูกวัตถุวิญญาณทำให้สงบลงอย่างไม่ยากเย็นนัก ในตอนนี้ มันปักไปที่มือใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยวัตถุจิตวิญญาณและขยับไปไหนไม่ได้ไม่ว่ามันจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

ในพริบตาเดียว ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่ถูกบงการอยู่ได้เข้ามาที่มิติวัตถุเซียนอย่างไม่รู้เรื่อง ก็ตกอยู่ในมือของวัตถุจิตวิญญาณ

วัตถุจิตวิญญาณข่มยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ได้ด้วยพลังของมันและหยุดมันเอาไว้ได้ หลังจากนั้นเขาก็มาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินและพูดอย่างเคารพ “นายท่าน ข้าน้อยได้ข่มยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ยุทธภัณฑ์จักรพรรดินั้นทรงพลังมาก ดังนั้นนายท่านจึงไม่สามารถควบคุมมันได้ด้วยความแข็งแกร่งของนายท่านในตอนนี้”

เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในขณะที่เขาพูดออกมา “ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะใช้มันให้ได้เร็วเร็วนี้ เมื่อข้าสำเร็จร่างบรรพกาลขั้นที่ 3 แล้ว ข้าจะมีพลังพอที่จะใช้มันได้ ข้าสงสัยจริงว่าความสามารถในการต่อสู้ของข้าจะเพิ่มขึ้นมากขนาดไหนเมื่อรวมกับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเมื่อข้าสำเร็จขั้นที่ 3” เจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความใจจดใจจ่อ ในขณะเดียวกัน เขาก็สาบานในใจว่าเขาต้องพัฒนาการร่างบรรพกาลให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้เมื่อออกจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินทั้งแปดไป

“วัตถุจิตวิญาณ ข้าจะเก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ที่นี่และให้เจ้าดูแลมันไว้ ข้าไปก่อน” เจี้ยนเฉินไม่ต้องการที่จะอยูในมิติของวัตถุเซียนนานนักเพราะยังมีอันตรายด้านนอกอยู่ เพราะฉะนั้น เขาจึงออกไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเขาออกจากวัตถุเซียนไป ทั้งหมดที่เขาเห็นคือจอมยุทธที่โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ กำลังล้อมนูบิสและเจี้ยนเฉินเอาไว้ภายใต้การนำของไทนิส พวกเขาทั้งหมดคือศัตรูของพวกเขา

เจี้ยนเฉินคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาจึงไม่ตกใจเลยแม้แต่น้อยเมื่อเขาเห็นภาพนี้ เขาเอาวัตถุเซียนมาจากมือของนูบิสอย่างสงบ จากนั้นเขาก็มองไปที่ซี่หวังแล้วพูด “ซี่หวัง อย่าต่อต้านนะ ข้ากำลังจะเอาเจ้าเข้าไปที่วัตถุเซียน แขนที่ขาดไปของเจ้าจะถูกรักษาที่นั่น” ทันใดนั้นเอง แสงสีขาวนวลก็พุ่งออกมาจากวัตถุเซียนและครอบคลุมตัวซี่หวังเอาไว้

ซี่หวังไม่ต่อต้านและถูกพาเข้าไปโดยพลังของวัตถุวิญญาณ จากนั้นวัตถุเซียนก็กลายเป็นแสงสีทองและหายไปในหน้าผากของเจี้ยนเฉิน

ทุก ๆ คนรวมถึงไทนิชนิ่งอึ้งเมื่อได้เห็นแบบนี้ พวกเขามองไปที่หน้าผากของเจี้ยนเฉินด้วยความสนใจในขณะที่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

พวกเขาไม่เคยเห็นหรือจินตนาการมาก่อนว่าสิ่งของจะถูกเก็บอยู่ในหัวของใครได้ มันเป็นหอคอยที่ใหญ่ด้วย ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอยากรู้เมื่อพวกเขาได้เห็นแบบนี้ พวกเขาสงสัยว่า หอคอยสีทองที่ใหญ่ขนาดนี้จะเก็บอยู่ในหน้าผากของใครได้

สิ่งที่พวกเขาเห็นได้เปลี่ยนสิ่งที่พวกเขารู้มาตั้งแต่แรกจนหมด

“ผู้คุมกฎของเผ่าเต่า หอคอยเล็กสีทองนั่นมันคืออะไร ? มันมหัศจรรย์มาก” ไทนิชจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉินและถามอย่างอยากรู้ สายตาแห่งความละโมบปรากฎลึกอยู่ในตาของเขา

“ไทนิช ข้าสงสัยว่าเจ้าตั้งใจจะทำอะไร ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่พวกเขาทั้งหมด เขาไม่ตอบคำถามของไทนิชและตำหนิออกไปอย่างเย็นชา

ไทนิชโกรธเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินแบบนี้ เขาคำรามออกมา “ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ข้าต้องการจะถามคำถามเดียวกัน ไม่เพียงแต่เจ้าจะเอาผลึกศักดิ์สิทธิ์ชิ้นใหญ่ที่ประเมินค่าไม่ได้ไปแล้วที่ชั้นแรก เจ้ายังได้วิธีการฝึกฝนของจักรพรรดิเลือดปีศาจไปอีกที่ชั้นที่สอง เจ้าได้อะไรไปมากกว่าพวกเราทั้งหมดและในตอนนี้ในชั้นที่สาม เจ้ายังเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิไปอย่างน่าไม่อาย เจ้าไม่ทำเกินไปหรือ ? ” เสียงของไทนิชอดไม่ได้ที่จะไม่เป็นมิตรในท้ายที่สุด

สำหรับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เขาได้สูญเสียไปอย่างมาก ปริมาณของพลังของเซียนราชาที่เขาเสียไปได้ทำให้เขาเจ็บใจมาก มันไม่ใช่พลังของเซียนราชาธรรมดาแต่เป็นพลังที่เทียบเท่ากับผู้อาวุโสประจำศาลา มันมีค่ามาก อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่เขาจะพลาดที่เอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิมาไม่ได้เท่านั้นหลังจากที่เสียพลังไปมากขนาดนั้น มันยังไปตกอยู่ในมือของเจี้ยนเฉินอีกในตอนท้าย มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไม่โกรธ ?

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมืดมนลงทันทีในขณะที่เขามองไปที่ไทนิช เขาพูดอย่างเย็นชา “ไทนิช โปรดพูดจาระวังปากด้วย เจ้าไม่มีความสามารถที่จะทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสงบได้ เจ้าคงต้องโทษตัวเองที่เจ้าอ่อนแอเกินไป เจ้าจะไปโทษคนอื่นไม่ได้ เจ้าจะบอกว่าคนไหนก็เอาไปไม่ได้ ถ้าเจ้าไม่สามารถเอามันไปได้อย่างนั้นหรือ ? ”

ใบหน้าของไทนิชมืดมนในขณะที่เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างไม่กลัว เขาขบฟัน “เอาล่ะ มันเป็นข้าเองที่ไม่มีพลังพอที่จะทำให้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิสงบลงได้ อย่างไรก็ตาม ผู้คุมกฎเผ่าเต่า ให้ข้าแนะนำอะไรเจ้าหน่อย ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เสียใจเรื่องนี้ในอนาคตนะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เจ้าจะได้ยินดีกับสมบัติทั้งหมดไปอย่างง่าย ๆ ”

ปากของเจี้ยนเฉินบิดไปด้วยความเยาะเย้ย “ข้าไม่เคยเสียใจกับการกระทำของข้า แต่ไทนิช ข้าจำเป็นที่จะต้องเตือนเจ้าเหมือนกัน มันจะดีที่สุดถ้าเจ้าเลิกขู่ข้า ไม่เช่นนั้นเจ้าต้องกลายเป็นศพเหมือนพวกนั้นเหมือนกันและไม่ได้ออกไปจากโถงนี้” เสียงของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาตัดสินใจแล้วว่าจะจบชีวิตไทนิช

ตาของไทนิชหรี่เล็กลงในขณะที่เขาเยาะเย้ยอย่างเย็นชา เขาไม่ได้โต้ตอบและหันหลังจากไป เขากำลังไปที่ชั้นที่สี่ ตาของเขานั้นไร้อารมณ์ “ผุ้คุมกฎเผ่าเต่า ข้าจะดูว่าเจ้าจะทำยังไงต่อไป เจ้ายังไม่รู้หรอกว่าใครจะกลายเป็นศพเหมือนพวกนั้นกันแน่”

ด้วยการจากไปของไทนิช คนอื่น ๆ ก็ออกไปด้วยเช่นกัน พวกเขาทิ้งระยะห่างระหว่างกันและกันและเดินทางไปที่ชั้นที่สี่ มีเพียงโมจื่อและอีก 2 คนที่เหลืออยู่เท่านั้นในตอนท้าย หนึ่งในนั้นถูกสังหารไปด้วยยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

“ผู้คุมกฎ ไทนิชนั้นไม่ธรรมดา เจ้าต้องระวังไว้” โมจื่อพูดด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใยอย่างตั้งใจ เขาทำเหมือนว่าเขานั้นห่วงใยเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินพยักหน้าตอบรับท่าทางห่วงใยของโมจื่อเท่านั้น เขาไม่ได้พูดอะไรมากกว่านั้น เขาเรียกนูบิสและเดินทางต่อไปยังชั้นที่สี่

โมจื่อและอีกทั้งสองคนมองหน้ากันและกัน พวกเขารู้เลยว่าการปฏิบัติต่อพวกเขาของเจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนไป พวกเขาทั้งสามลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะตามเจี้ยนเฉินเงียบ ๆ ไปที่ชั้นที่สี่

“หืม เจ้าไทนิสนั่นเย่อหยิ่งเสียจริง ถ้าไม่ใช่ว่ามีคนเหลือน้อยลงทุกทีทุกทีในตอนนี้แล้วและพวกเราอาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้พวกนั้นในการทำลายม่านพลังที่อาจมีข้างหน้า ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ก็คงจัดการพวกมันไปนานแล้ว” นูบิสพูดขบฟันไปตลอดทาง

“เจ้าไทนิชนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ข้ารู้สึกว่าเขายังซ่อนไพ่ตายที่ทรงพลังเอาไว้อยู่ มันจะดีกว่าถ้าพวกเราจะระวังเอาไว้” เจี้ยนเฉินเตือน

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 927: การต่อสู้เพื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ"

4.3 7 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

วันสิ้นโลก
วันสิ้นโลก
มีนาคม 12, 2022
ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน
ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน
มีนาคม 12, 2022
ชีวิตจริงเสมือนฝัน
ชีวิตจริงเสมือนฝัน
มีนาคม 12, 2022
มหากาพย์ดาบเทวะ!
มหากาพย์ดาบเทวะ!
มีนาคม 12, 2022
นครแห่งบาป
นครแห่งบาป
มีนาคม 12, 2022
บัลลังก์รักสีเลือด
บัลลังก์รักสีเลือด
มีนาคม 12, 2022
Tags:
นิยายลิขสิทธิ์
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz