หน้าแรก Amnovel
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
ค้นหา
ค้นหาขั้นสูง
เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก
  • หน้าแรก
  • นิยายทั้งหมด
  • เติมเงิน
  • ติดต่อเรา
  • เข้าสู่ระบบ
เข้าสู่ระบบ
Prev
Next

ระบบเจ้าสำนัก***(จบแล้ว)*** - ตอนที่ 4 : ขอลาออก

  1. หน้าแรก
  2. ระบบเจ้าสำนัก***(จบแล้ว)***
  3. ตอนที่ 4 : ขอลาออก
Prev
Next

ตอนที่ 4 : ขอลาออก

สำนักคังเฉียงยามค่ำคืน ราวกับแต่งแต้มไปด้วยน้ำหมึก ความมืดมิดรายล้อมไปทั่วสำนัก มีเพียงแค่แสงไฟสลัวๆในหอตำรา ที่ยังคงสาดส่องออกมา

 

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา จางหยูก็หยุดมือ ดวงตาเป็นประกายขึ้นมา เขาไม่อาจปกปิดความตื่นเต้นที่มีได้ “ สำเร็จ ! วิธีฝึกฝนฉีซวนขั้นที่ 1 ถูกแก้ไขอย่างสมบูรณ์แล้ว ตอนนี้สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำแล้วว่า เป็นทักษะที่สมบูรณ์แบบไร้ข้อบกพร่อง !”

 

นี่คือทักษะที่ถือกำเนิดมาจากทักษะการต่อสู้ระดับสุดยอด ภายใต้ความพยายามอย่างต่อเนื่องของจางหยู ในที่สุดข้อผิดพลาดต่างๆก็ได้รับการแก้ไขจนหมด

 

เพื่อที่จะแยกมันออกจากทักษะการต่อสู้ระดับสุดยอด จางหยูจึงได้ตั้งชื่อทักษะนี้ว่า “ทักษะจี๋อู่”

 

[ทักษะจี๋อู่: ระดับธรรมดาขั้นต่ำ มีทั้งหมด 1 ขั้น สามารถฝึกฝนถึงขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 1 มีข้อผิดพลาดเฉลี่ยขั้นละ 0 จุด]

 

กระทั่ง ‘มองทะลุ’ ก็มองไม่เห็นถึงข้อผิดพลาด แน่นอนว่ามันคือทักษะที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกแล้ว แม้ว่าจะอยู่แค่ระดับธรรมดาขั้นต่ำ สามารถฝึกฝนถึงขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 1 แต่ทว่าตราบใดที่มี ‘มองทะลุ’ อยู่นั้น จางหยูก็ไม่จำเป็นต้องไปสนใจเรื่องนี้ ขอเพียงแค่จางหยูมีเวลาและทรัพยากรมากพอ จางหยูก็สามารถพัฒนา ‘ทักษะจี๋อู่’ ต่อไปได้

 

นี่ยังไม่พูดถึงทักษะต่างๆที่อยู่ในหอตำรานะ มันมีมากพอให้จางหยู นำมาเติมเต็ม‘ทักษะจี๋อู่’ และพัฒนาจนถึงขอบเขตฉีซวนขั้นที่ 6 ได้

 

“ทักษะที่ไร้ข้อผิดพลาด จะทำให้การฝึกฝนมันง่ายขึ้น ราวกับดื่มน้ำ?” ตาของจางหยูเป็นประกายขึ้นมา  “มาลองกันเลยดีกว่า!”

 

จางหยูรีบนั่งลงโดยไม่ลังเล ก่อนจะเริ่มฝึก ‘ทักษะจี๋อู่’

 

“หายใจเข้าออก นั่งขัดสมาธิ รวบรวมสติ นั่งหลังตรง ลดหัวลงมาเล็กน้อย….”

 

“รวบรวมหลิงชี่ระหว่างโลกและสวรรค์ จากนั้นก็เคลื่อนย้ายจากจุดฉีหยางไปยังจุดสือเหมิน…”

 

ซี่ซี่…. !

 

อยู่ๆปราณในตัวของจางหยูก็เดือดพล่านขึ้นมาราวกับน้ำเดือด เดิมทีปราณเหล่านี้ก็เกิดขึ้นมาจากการฝึกทักษะ ‘การต่อสู้ระดับสุดยอด’ แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นกระแสพลัง ไหลผ่านไปตามเส้นชีพจรในร่าง

 

จั๋วชี่จำนวนมาก แยกออกมาจากลมปราณด้วยความเร็วที่รู้สึกได้ มันถูกขับออกมาตามลมหายใจของจางหยู

 

เพียงไม่กี่อึดใจ ปราณในร่างของจางหยูก็บริสุทธิ์ขึ้นเป็นเท่าตัว!

 

เมื่อจางหยูโคจรลมปราณตาม‘ทักษะจี๋อู่’จนครบวงจรสวรรค์หนึ่งรอบ ปราณในร่างกายของเขาก็ค่อยๆบริสุทธิ์ในแบบที่คาดไม่ถึง!

 

และที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ เมื่อจางหยูหยุดฝึกฝน ลมปราณในร่างกายก็ยังคงโคจรตาม‘ทักษะจี๋อู่’อย่างต่อเนื่อง และไม่มีแนวโน้มที่จะหยุดลง ลมปราณที่บริสุทธิ์ในร่างก็พัฒนาไปในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้

 

“ นี่….มันช่างน่าทึ่งจริงๆ!”  จางหยูเบิกตากว้างอย่างตกใจ

 

สมแล้วที่เป็นทักษะที่ไร้ข้อผิดพลาด ถึงกับสามารถทำงานด้วยตัวเองได้!

 

ถึงแม้ว่าเขาจะสืบทอดความทรงจำมาจากร่างเดิม แต่จิตสำนึกก็ยังคงเป็นมนุษย์โลก ฉะนั้นในเวลาสั้นๆ เขาสามารถนั่งสมาธิบ่มเพาะพลังได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้านานกว่านี้ เขาคงทนไม่ไหว

 

“ลมปราณบริสุทธิ์ขึ้นแล้ว แต่การบ่มเพาะของข้านั้น…..” แม้ว่าจางหยูจะไม่ได้ใช้การมองทะลุเพื่อตรวจสอบ แต่ก็รู้สึกได้ว่าระดับการบ่มเพาะของเขานั้นลดลงอย่างรวดเร็ว

 

เพียงแค่สิบลมหายใจ การบ่มเพาะของเขาก็ถอยหลังลงไปเรื่อยๆ จากฉีซวนขั้น 4 ก็ลดลงเป็นฉีซวนขั้น 1 เหมือนกับแม่น้ำที่จู่ๆก็กลายเป็นลำธารสายเล็กๆ

 

ฉีซวนขั้น 1 สูงสุด , ฉีซวนขั้น 1 ชั้นปลาย, ฉีซวนขั้น 1 ชั้นกลาง, ฉีซวนขั้น 1 ชั้นต้น….

 

ระดับการบ่มเพาะของจางหยูลดลงเรื่อยๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

 

ผ่านไปสักพัก ในที่สุดการบ่มเพาะของเขาก็มาถึงจุดต่ำสุด ลมปราณที่เคยหนาแน่น พริบตาเดียวก็กลายเป็นบางเบาราวกับเส้นผม

 

พลังลึกลับที่บางยิ่งกว่าเส้นผมนี้ คือการฝึกฝนตลอดสิบปีที่ผ่านมาของเขา !

 

แม้ว่าจะดูเบาบางจนน่าสงสาร แต่กลับอัดแน่นไปด้วยพลังที่น่าเกรงขาม!

 

แต่ตอนนี้เอง จู่ๆการบ่มเพาะของเขาก็ราวกับลูกบอลที่เด้งขึ้น หลิงชี่ที่อยู่รอบๆต่างมารวมตัวกันที่หอตำราอย่างบ้าคลั่ง หลิงชี่ที่หนาแน่นเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาในร่างกายของเขา เปลี่ยนพลังลึกลับนั่นให้กลายเป็นบริสุทธ์ แล้วไหลเข้าสู่ตันเถียนของเขา ทำให้การบ่มเพาะก็เริ่มพุ่งพรวดขึ้นมา

 

ฉีซวนขั้น 1 ชั้นต้น, ฉีซวนขั้น 1 ชั้นกลาง…..ฉีซวนขั้น 1สูงสุด!

 

“นี่มัน….เร็วเกินไปแล้ว !” ตาของจางหยูเบิกกว้างอย่างตกใจ

 

เขาบ่มเพาะพลังมาหลายสิบปี ก็ได้แค่พลังลึกลับที่บางยิ่งกว่าเส้นผม แต่ตอนนี้เพียงแค่โคจรลมปราณไม่กี่วงจรสวรรค์ ตาม ‘ทักษะจี๋อู่’ ร่างกายของเขาก็ดูดซับลมปราณแบบเดียวกันเข้ามาได้มากกว่า

 

มันผ่านไปนานแค่ไหนกันนะ?

 

5 นาที ?

 

3 นาที ?

 

ผลลัพธ์การบ่มเพาะพลังเพียงแค่ไม่กี่นาที ก็เหนือกว่าผลลัพธ์การบ่มเพาะพลังตลอดสิบปีที่ผ่านมาหลายเท่า!

 

“นี่แหละคือ‘ทักษะจี๋อู่’!” จางหยูกำหมัดแน่น

 

ดูเหมือนว่าเขาจะสร้างทักษะที่สุดยอดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

จุดแข็งของทักษะนี้ ไม่อาจอธิบายออกมาด้วยคำพูดได้

 

แต่น่าเสียดาย ที่‘ทักษะจี๋อู่’ในตอนนี้ สามารถฝึกฝนถึงแค่ ฉีซวนขั้น 1 ด้วยเหตุนี้การบ่มเพาะของจางหยูจึงหยุดอยู่ที่ฉีซวนขั้น 1 สูงสุด ถ้าอยากจะทะลวงฉีซวนขั้น 2  เขาจะต้องพัฒนา‘ทักษะจี๋อู่’ ขั้นที่สอง

 

“ถึงแม้ว่าการบ่มเพาะจะลดเหลือฉีซวนขั้น 1 แต่ก็แลกมากับพลังลึกลับที่แข็งแกร่งนี้! ไม่ขาดทุน ไม่ขาดทุนเลยสักนิด!”

 

แม้ว่าจางหยูจะไม่รู้ว่านี่คือพลังอะไร แต่เขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า ความแข็งแกร่งของพลังลึกลับนี้ เหนือกว่าพลังเดิมนับร้อยเท่า บางทีแม้แต่ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งที่สุดในฉีซวนขั้น 9 ก็อาจจะสู้เขาไม่ได้

 

แข็งแกร่งจริงๆ !

 

“ข้าอยากไปหานักสู้ฉีซวนขั้น 9 มาประมือจริงๆ!”  จางหยูเริ่มคันไม้คันมือขึ้นมา

 

แต่พอลองคิดดูอีกที เขาคงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะพลังลึกลับในตัวเขามันเล็กเกินไป มันมีโอกาสแค่ครั้งเดียวในการลงมือ ถ้าหากไม่สามารถจัดการกับอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียวได้ คนที่จะซวยก็คือเขา

 

ถูกต้อง ตอนนี้จางหยูได้กลายเป็นวีรบุรุษ 3 วิในตำนานแล้ว

 

“ต้องรีบพัฒนา ‘ทักษะจี๋อู่’ ขั้นที่สองให้เร็วที่สุด”

 

จางหยูเชื่อว่า ตราบใดที่เขาฝึก ‘ทักษะจี๋อู่’ ขั้นที่สอง การบ่มเพาะของเขาจะต้องพุ่งพรวด ถึงฉีซวนขั้น 2 สูงสุด เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังลึกลับในตัวที่จะถูกใช้งานหมดในครั้งเดียว

…..

 

“โฮ่ง…โฮ่ง..”

 

ทันใดนั้น จางหยูก็ได้ยินเสียงเห่าของเสี่ยวเฉียงดังเข้ามา

 

เสียงเห่าของเสี่ยวเฉียงค่อยๆเบาลง เมื่อมีเสียงตะโกนสะเทือนแก้วหูดังก้องไปทั่วสำนักคังเฉียงแทน “ จางหยู ออกมา  ! จางหยู ออกมา…จางหยู ออกมา….”

 

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนจากด้านนอก จางหยูก็คิ้วขมวด ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาจากหอตำรา

 

หลังจากนั้น จางหยูก็เดินมาถึงด้านหน้าของสำนัก

 

“ เจ้าคือจางหยูรึ ?”

 

แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินชื่อของจางหยูมากกว่าหนึ่งครั้งจากคนอื่น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่อู่โม่ได้พบกับจางหยูตัวเป็นๆ เขามองจางหยูอยู่ครู่หนึ่ง แ และพูดขึ้นมา “จัดการเรื่องลาออกจากสำนักให้น้องสาวของข้าซะ หรือไม่ก็เอาใบลงทะเบียนที่น้องสาวเซ็นเมื่อวานส่งมาให้ข้า”

 

“ลาออก ?”

 

จางหยูคิ้วกระตุกขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่อู่โม่อย่างแปลกใจ “ เจ้าเป็นพี่ชายของอู่ซินซินงั้นรึ ?”

***

[อู่โม่]

 

[เพศ : ชาย]

 

[อายุ :  26 ปี]

 

[พรสวรรค์ทางกายภาพ : สายเลือดทั่วไป สองดาวขั้นต่ำ]

 

[พรสวรรค์การรับรู้ : สองดาวขั้นกลาง]

 

[พรสวรรค์พิเศษ : ปรุงยา(3 ดาว)]

 

[การบ่มเพาะ: ฉีซวนขั้น 6]

***

อู่โม่ 1 ใน 3 อัจฉริยะของเมืองทะเลทราย จางหยูเคยได้ยินชื่ออีกฝ่ายมาก่อน แต่เขาคิคไม่ถึงเลยว่าชายคนนี้จะมีพรสวรรค์พิเศษด้วย!

 

การปรุงยา  !

 

นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยูได้พบกับคนที่มีพรสวรรค์พิเศษหลังจากที่ได้รับความสามารถมองทะลุมา !

 

“ระบบตรวจพบว่าอู่โม่มีพรสวรรค์พิเศษ และกำลังจะให้ภารกิจ “

***

[ภารกิจ 2 : รับอู่โม่เป็นศิษย์สำนักคังเฉียง]

 

[เพื่อสร้างสำนักที่ยิ่งใหญ่ จะต้องรู้จักประนีประนอมและใจกว้างดุจมหาสมุทร ในฐานะเจ้าสำนักแล้ว โฮสต์มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ ด้วยการรับสมัครอัจฉริยะเข้าสำนัก]

 

[รางวัล : ทักษะปรุงยาหนึ่งดาว]

 

[เวลาจำกัด : 12 ชม.]

 

[ภารกิจล้มเหลว : ไม่มีบทลงโทษ]

***

“ทักษะปรุงยาหนึ่งดาวงั้นรึ ?” จางหยูหวั่นไหวขึ้นมา “ถ้าข้าจำไม่ผิด ไม่ใช่ว่าข้าไม่มีพรสวรรค์พิเศษรึไง ?”

 

ไม่มีพรสวรรค์พิเศษ แต่สามารถปรุงยาได้?

 

ระบบนี้จะดีเกินไปแล้ว !

 

จางหยูมองไปที่อู่โม่ พร้อมคิ้วขมวดเล็กน้อย  “ แต่ภารกิจนี้…เกรงว่าคงทำได้ยาก!”

 

ข้างกายของอู่โม่ ยังมีคนมาด้วยอีกสองคน คนหนึ่งคืออู่ซินซิน ส่วนอีกคนเป็นชายวัยกลางคน

 

จางหยูมองไปที่ชายวัยกลางคนแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ตามข้อมูลที่ได้มาจากการมองทะลุ ชายวัยกลางผู้นี้มีนามว่าหวังเทา เขาน่าจะเป็นพ่อบ้านของตระกูลอู่ ส่วนการบ่มเพาะต่ำกว่าอู่โม่เล็กน้อย นั่นก็คือฉีซวนขั้น 5

 

“คิดไม่ถึงเลยว่านางจะเป็นคนของตระกูลอู่” จางหยูรู้สึกตกใจเล็กน้อย

 

ตระกูลอู่ คือตระกูลใหญ่ในเมืองทะเลทราย จางหยูเองก็เคยได้ยินเรื่องราวของพวกเขามาบ้าง

 

เพียงแต่เขาไม่คาดว่าอู่ซินซินกับตระกูลอู่จะเกี่ยวข้องกัน จนกระทั่งได้เห็นอู่โม่ เขาจึงปะติดปะต่อเรื่องราวได้

 

แค่หลอกรับศิษย์มาคนหนึ่ง ใครจะรู้ว่าจะหลอกได้คนของตระกูลอู่เข้า จางหยูคิดว่าตัวเขาเองก็โชคดีอยู่บ้าง

 

“ท่านพี่ ให้ข้าจัดการเอง” ตอนนั้นเอง อู่ซินซินที่อยู่ข้างๆก็กัดปากตัวเอง แล้วก้าวมาข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับ จางหยู  “ครูฝึกจาง ข้าจะลาออกจากสำนัก !”

 

เสียงของนางเบาและนุ่มนวล แต่แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

 

“เพิ่งจะรับเป็นลูกศิษย์เมื่อวาน วันนี้ก็มาขอลาออกแล้ว มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอ” จางหยูรู้สึกสลดเล็กน้อย

 

จางหยูส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดกับอู่ซินซินว่า  “ เจ้าเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ? “

 

เด็กสาวผู้นี้เป็นศิษย์เพียงคนเดียวของสำนักคังเฉียง ถ้าหากนางออกจากสำนักไป เขาจะไม่เสียรางวัลไปเหรอ?

 

“ระบบ หากอู่ซินซินออกจากสำนักไป ข้าจะใช้การมองทะลุได้อีกรึไม่ ?” จางหยูถามระบบในหัวตัวเองอย่างกังวล ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด

 

“รางวัลที่ให้ไปนั้นสามารถใช้ได้ถาวร โฮสต์ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ “

 

เมื่อเสียงนั้นตอบกลับมา จางหยูก็รู้สึกโล่งอก

 

“ท่านโกหกข้า เจ้าคนหลอกลวง…”  เสียงเศร้าสร้อยของอู่ซินซิน ดึงสติจางหยูให้กลับสู่โลกของความจริง

 

“ซินซิน หยุดพูดไร้สาระกับเจ้าเด็กนี่ได้แล้ว”

 

อู่ซินซินโดนอู่โม่ขัดขึ้น เขามองไปที่จางหยูอย่างสงบ พลางใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบกล่าวว่า “จางหยูใช่รึเปล่า? ไม่ว่าเจ้าจะเห็นด้วยรึไม่ แต่เราก็จะลาออกในวันนี้ !”

 

ในเมืองทะเลทรายแห่งนี้ จะมีใครกล้าขัดใจหรือห้ามตระกูลอู่ได้ ?

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้าของจางหยูก็บิดเบี้ยวขึ้นมา “ช่างพูดจาใหญ่โตนัก! คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไป เจ้าคิดว่าสำนักคังเฉียงเป็นบ้านเจ้ารึไง ?”

 

ฉีซวนขั้น 6 นึกว่าเจ๋งมากนักเหรอ?

 

ตระกูลอู่ของเจ้าใหญ่คับฟ้า เลยคิดจะข่มเหงข้าจางหยูผู้นี้?

 

จางหยูส่ายหน้าและพูดขึ้นมาเบาๆ “เจ้าอยากให้อู่ซินซินลาออกงั้นรึ ? ได้ งั้นมาสู้กับข้า หากเจ้าชนะ ข้าจะยอมปล่อยนางไป!”

 

“ฉีซวนขั้น 4 …”

 

อู่โม่มองจางหยูด้วยสีหน้าประหลาดใจและรู้สึกตลกขึ้นมา “การบ่มเพาะแค่นี้ ยังกล้ามาท้าสู้กับข้า?”

 

แม้จะไม่รู้ระดับการบ่มเพาะของจางหยู แต่ก็เคยได้ยินมาว่าจางหยูมีการบ่มเพาะอยู่ที่ฉีซวนขั้น 4 และมันเป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะสามารถทะลวงขอบเขตฉีซวนขั้น 5 ได้เร็วขนาดนั้น

 

การบ่มเพาะฉีซวนขั้น 4 แต่กลับมาท้าทายฉีซวนขั้น 6 เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วรึเปล่า?

 

พ่อบ้านหวังเทาที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าแล้วหัวเราะออกมา พลังของนายน้อยเป็นอย่างไร ตัวเขาย่อมเข้าใจดีที่สุด  

 

ในรุ่นเดียวกัน มีไม่มีกี่คนที่สามารถต้านทานนายน้อยได้ และในบรรดาคนเหล่านั้น ไม่มีจางหยูอย่างแน่นอน

 

ไม่รอให้จางหยูพูด อู่โม่ก็คิ้วขมวดแล้วพูดขึ้นมาว่า “ ช่างมันเถอะ รีบจัดการเรื่องลาออกเร็วๆซะ ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า”

 

ไม่เห็นอยู่ในสายตา!

 

จางหยูรู้สึกจนใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าถ้าหากไม่แสดงฝีมือออกมาบ้าง อีกฝ่ายคงไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแน่!

 

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น…..

 

Prev
Next

ความคิดเห็นสำหรับ "ตอนที่ 4 : ขอลาออก"

4.2 5 โหวต
คุณชอบเรื่องนี้ไหม?
ติดตาม
เข้าสู่ระบบ
แจ้งเตือนของ
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจชอบ

ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน
ราชันย์จอมโจรปล้นสุสาน
มีนาคม 12, 2022
นครแห่งบาป
นครแห่งบาป
มีนาคม 12, 2022
เถ้าแก่ขั้นเทพ!
เถ้าแก่ขั้นเทพ!
มีนาคม 12, 2022
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) ฉบับแปลใหม่ !!!
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god) ฉบับแปลใหม่ !!!
พฤษภาคม 17, 2022
วงกตปริศนาแห่งดวงจันทร์
วงกตปริศนาแห่งดวงจันทร์
มีนาคม 12, 2022
ทุ่งรวงทอง (นิยายแปล)**จบแล้ว**
ทุ่งรวงทอง (นิยายแปล)**จบแล้ว**
มีนาคม 12, 2022
Tags:
นิยายลิขสิทธิ์
ประวัติการเข้าชม
You don't have anything in histories
หมวดหมู่นิยาย
  • sci-fi (24)
  • Video Games (11)
  • กำลังภายใน (36)
  • จีนกำลังภายใน (1)
  • ดราม่า (3)
  • ตลก (3)
  • นิยายลิขสิทธิ์ (18)
  • นิยายแต่ง (3)
  • ย้อนยุค อนาคต (7)
  • สยองขวัญ (2)
  • เกมส์ออนไลน์ (5)
  • แฟนตาซี (161)

© 2025 Madara Inc. All rights reserved

Premium Chapter

คุณจำเป็นต้องเข้าสู่ระบบก่อน

wpDiscuz